Category: Horror Movie Reviews

รีวิวหนังซอมบี้ Zombieland
September 4th, 2012 by ฟิล์มสยอง
รีวิวหนังซอมบี้ Zombieland

รีวิวหนังซอมบี้ Zombieland

Zombieland (2009)
กำกับ: Ruben Fleischer
เขียนบท: Rhett Reese และ Paul Wernick
นำแสดง: Woody Harrelson (Tallahassee), Jesse Eisenberg (Columbus), Emma Stone (Wichita), Abigail Breslin (Little Rock), Amber Heard (406), Bill Murray (Himself)
ประเภท: Horror / Comedy / Action

รีวิวหนังซอมบี้ Zombieland

รีวิวหนังซอมบี้ Zombieland

หนังซอมบี้สุดฮอต สุดฮิตประจำปี 2009 เรื่องนี้ถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวางทั้งผู้ชม นักวิจารณ์ชาวไทย และเทศ และที่สำคัญ เป็นการกล่าวถึงในแง่บวกซะด้วย ผมเลยต้องไปแสวงหามาดูสนองความสงสัยถึงคำวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้น

เพลง For Whom the Bell Tolls จากอัลบัม Ride the Lightning อัลบัมคลาสสิกชุดที่ 2 ของวง Thrash / Heavy metal ชื่อ Metallica ถูกเลือกมาเป็นเพลงเปิดของหนังเรื่องนี้ได้อย่างเหมาะเจาะ น่าจะสะใจคอเพลงเมทัลไม่น้อย

Zombieland เป็นหนัง Road movie ที่ว่าด้วยเรื่องราวของผู้รอดชีวิต 4 คนจากเหตุการณ์วิบัติโลกแตก เมื่อผู้คนในอเมริกาต่างกลายพันธุ์เป็นซอมบี้ที่ต้นเหตุมาจากการกินเบอร์เกอร์ที่ทำจากเนื้อวัว…วัวที่เป็นโรควัวบ้า -_-” คนอเมริกาทั้งประเทศเลยกลายเป็นซอมบี้เกลื่อนเมือง นาย Columbus ผู้เล่าเรื่องราวทั้งหมด จึงขนานนามอเมริกาซะใหม่เป็น “Zombieland”

ผู้รอดชีวิตทั้ง 4 คนต่างก็มีบุคลิกลักษณะที่แตกต่างกันไป หนังใช้วิธีการเล่าเรื่องเหตุการณ์ปัจจุบันไป และควบคู่ด้วยเหตุการณ์ในอดีตที่บอกเล่าถึงที่มาของตัวละครทั้ง 4 คน ตัวละครตัวแรกเป็นหนุ่มเนิร์ดขี้กลัว บ้าเกมส์วอร์คราฟท์ ผู้ใฝ่ฝันอยากมีสาวสวยข้างกาย ใช้ชื่อตัวเองว่า Columbus ลำดับที่สองเป็นหนุ่มใหญ่ Tallahassee ผู้ที่ฟ้ากำหนดมาให้เป็นนักล่าฆ่าซอมบี้สุดกวน (แสดงโดย Woody Harrelson หนุ่มมาดกวนคนนี้ ผมชื่นชอบเขาตั้งแต่แสดงบทคาวบอยใน The Cowboy Way ปี 1994 และ Money Train หนัง Action สุดมันในปี 1995 ที่แสดงร่วมกับ Wesley Snipes สำหรับในปี 1994 นั้น เขาได้เล่นหนังอีกเรื่องชื่อ Natural Born Killers ซึ่งเป็นหนังที่สร้างชื่อเสียงมากมายให้กับ Harrelson)  และสองพี่น้องนักต้มตุ๋นที่ไม่เคยไว้ใจใครเลย ชื่อ Wichita และ Little Rock ตัวละครทั้งหมดไม่ถูกกล่าวด้วยชื่อจริง หากแต่ใช้ชื่อของสถานที่มาเป็นชื่อตัวละคร (เท่ห์ดี) ดารารับเชิญอีกคนคือ Bill Murray เขารับบทบาทแสดงเป็นตัวเอง ที่ปรากฏตัวในช่วงที่ผู้รอดชีวิตทั้ง 4 ไปเยือนเมืองฮอลิวู๊ด Bill Murray คนนี้เป็นนักแสดงรุ่นเก๋าครับ รับบทนำใน Ghost Busters หรือชื่อไทยว่า บริษัทกำจัดผี ใครเคยดูก็น่าจะคุ้นหน้ากัน

ส่วนหนึ่งของบทภาพยนตร์ที่สร้างความฮาล้อเลียนหนังซอมบี้ได้อย่างร้ายสุดๆ ก็คือ กฏที่นาย Columbus เขียนขึ้นมาว่า ถ้าทำตามกฏต่างๆ เหล่านี้แล้ว คุณจะเป็นคนหนึ่งที่สามารถรอดชีวิตจากซอมบี้กินมนุษย์ได้ ไอ้กฏเพี้ยน ๆ ก็มีเช่น กฏข้อที่ 1 Cardio หรือโกยตีนหมา วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต กฏข้อที่ 2 Double Tap ยิงกระหน่ำซ้ำให้แน่ใจว่ามันเดี้ยงไปแล้ว กฏข้อที่ 3 Beware of bathrooms ตอนเข้าส้วมนี่แหละเป็นจุดอ่อนของมนุษย์ทุกคน ระวังให้ดีเหอะ กฏข้อที่ 4 Wear seatbelts ขับรถปลอดภัยต้องอย่าลืมคาดเข็มขัดนิรภัยล่ะ กฏข้อที่ 17 Don’t be a hero อย่าทำตัวเป็นพระเอก กฏข้อนี้ตา Columbus แหกซะ ขอโชว์หญิงหน่อยเหอะวะ และมีกฏอีกหลายข้อเลยครับ เออ..มีกฏข้อที่ 32 ที่นาย Columbus ได้มาจากการสนทนากับ Tallahassee นั่นก็คือ Enjoy the little things มีความสุขกับสิ่งละเล็กละน้อยที่พบเจอในชีวิตประจำวันเหอะ แค่นั้นก็สุดใจพอแล้ว ^^

Zombieland อาจถูกนำไปเปรียบเทียบกับหนังซอมบี้ตลกร้ายอย่าง Shaun of the dead ส่วนใครจะชอบหนังเรื่องไหนก็แล้วแต่ความชอบส่วนตัวล่ะครับ สำหรับหนัง Zombieland แล้ว แม้มันจะไม่ได้ฮาสุดขั้ว หัวเราะป่าแตก หรือสยองขวัญกินไส้ กินเนื้อ หักกระดูก เลือดสาดแบบสุดๆ ก็ตาม แต่ก็เป็นหนังที่สนุก และลุ้นร่วมไปตามสไตล์หนัง Road movie

ตอนนี้ไม่แปลกใจแล้วครับ ที่ Zombieland ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันในแง่บวกมากมายถึงขนาดนี้

ใครยังสนใจ ก็ไปหามาดูไขข้อข้องใจกันเอาเองครับ

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 5.00 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 4.4/5 (5 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies Y - Z Tagged with: , ,

รีวิวหนังสยองขวัญ WAZ
September 4th, 2012 by ฟิล์มสยอง
รีวิวหนังสยองขวัญ WAZ

รีวิวหนังสยองขวัญ WAZ

W Delta Z (WAZ) (The Killing Gene 2007)
กำกับ: Tom Shankland
เขียนบท: Clive Bradley
นำแสดง: Barbara Adair (Alice Jackson), Stellan Skarsgard (Eddie Argo),
Peter Ballance (Trucker as Peter Balance), Selma Blair (Jean Lerner),
Melissa George (Helen Westcott), Tom Hardy (Pierre Jackson),
Sally Hawkins (Elly Carpenter), Lauren Hood (Sharon Williams),
Caroline Lee-Johnson (Gillian as Caroline Lee Johnson),
Paul Kaye (Gelb), Sheila Kerr (Alison Lerner)
ประเภท: Thriller / Crime / Horror

รีวิวหนังสยองขวัญ WAZ

รีวิวหนังสยองขวัญ WAZ

“Just flick the switch. It’s what we all do. There is no love” – Jean Lerner

จริงๆ หนังเรื่องนี้พยัญชนะตรงกลางระหว่าง W กับ Z มันไม่ใช่ตัว A นะครับ จริง ๆ แล้ว คือ สามเหลี่ยม เพราะงั้นหนังเรื่องนี้จึงออกเสียงว่า “ดับเบิลยู + เดลต้า + ซี” หรือเวลาที่เอามาฉายที่อเมริกาแล้วใช้ชื่อว่า The Killing Gene ที่มาของชื่อหนังแปลกๆ เรื่องนี้ แท้จริงนั่นคือ สูตรครับ สูตรทางคณิตศาสตร์ที่คิดขึ้นโดย Dr. Gelb ผู้ที่กำลังพิสูจน์ทดลองเรื่องราวของยีนส์แห่งความเห็นแก่ตัว ที่ทำให้ “Jean Lerner” เหยื่อสาว ที่กลับกลายมาเป็นผู้ล่านำไปพิสูจน์กับเหยื่อของเธอ ด้วยคำถามง่าย ๆ แต่ตอบยากเสียเหลือเกิน “คุณสามารถจะฆ่าคนที่คุณรัก เพื่อรักษาชีวิตของตัวคุณเองไว้ได้หรือเปล่า”

Helen ตำรวจหญิงหน้าใหม่ที่ต้องมาจับคู่กับ Eddie นักสืบรุ่นเก๋าผู้ซ่อนอดีตเบื้องลึกไว้ในใจ สืบสวนหาคดีฆาตกรรมสุดโหดที่ฆาตรกรทิ้งตัวอักษรไว้ที่ผิวหนังของเหยื่อ จากการขุดคุ้ยของ Helen ทำให้เธอค้นพบว่าเหตุฆาตรกรรมที่เกิดขึ้นนั้นเกี่ยวพันกับ Eddie คู่หูของเธอนั่นเอง และฆาตรกรก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น Jean Lerner หญิงสาวผู้เคยตกเป็นเหยื่อของแก็งค์มหาเหี้ย ที่ Eddie เป็นผู้ทำให้คดีดังกล่าวไร้หลักฐาน จนต้องยกฟ้อง พวกแก๊งค์โฉดก็พ้นผิดกันไป ส่วนเหตุ และ ผลที่ Eddie ได้กระทำนั้นจะเป็นอย่างไร ก็ไปติดตามหามาดูกันครับ

อันที่จริง ผมแทบจะไม่เห็นหนังสไตล์ Crime / Thriller ที่ออกโทนนัวร์ ฉาบด้วย Horror และมีเนื้อหาที่สมเหตุสมผลน่าสนใจและดูได้เพลิดเพลินแบบนี้มานานแล้วเหมือนกันนะ คือหนังมันไม่ใช่ the Best หากเทียบเท่าหนังชั้นครูอย่าง Se7en แต่สำหรับ WAZ ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่แต่อย่างใด มีเหตุผลให้น่าติดตาม เช่น
–    ตัวหนังมีเหตุมีผล มีที่มาของการล้างแค้นจากเหยื่อที่เปลี่ยนสถานะมาเป็นผู้ล่า ที่บอกว่ามีเหตุมีผลนั้น ก็ต้องบอกว่ามีเหตุมีผลอย่างน่าสนใจครับ มีการอ้างอิง แต่งแต้มด้วยสูตรการทดลองทางพันธุกรรมให้ได้น่าติดตามอีกด้วย
–    ฉากความแหวะ สยอง หลอนในสไตล์ Thriller นั้นก็มีมาให้ดูอยู่อย่างต่อเนื่อง ภาพที่ Jean Lerner ถูกแก๊งค์โคตรเหี้ยรุมข่มขืน ไม่สิ…มันไม่ใช่แค่ใช้อวัยวะขืนอวัยวะ แต่หากไอ้พวกโฉดมันข่มขืนด้วยขวด…ขวดที่เป็นปากฉลาม นั่นก็ทำให้หัวใจผมสลายแล้วครับ
–    ดาราสาว Selma Blair เล่นในหนังเรื่องนี้ด้วยครับ! คุณรู้จักสาวนัยตาเศร้าแปลกๆ คนนี้มั้ยครับ เธอเล่นหนังฮอลิวู๊ดดังๆ หลายเรื่องมาก เอาเป็นว่าลองไปหาหนังอย่าง Cruel Intentions, Legally Blonde, The Sweetest Thing, The Fog, Hellboy II: The Golden Army และอีกเพียบ แม้ส่วนใหญ่เธอจะเล่นเป็นบทนางรองแต่ฝีมือนั้นสุดยอดครับ ตอนแรกผมเปิดดูหนังเรื่องนี้ ยังงงเลยว่า เธอมารับเล่นหนังต้นทุนต่ำสไตล์แบบนี้ได้ไง
–    ตัวละครในแบบนัวร์ ที่มีรักแท้ในแบบเกย์
ลองหามาดูนะครับ ดีกว่าหนังไล่ล่าฆ่ากันอย่างไร้เหตุผล แล้วเอาเลือดปลอมสาดใส่กันอย่างเมามันแน่นอน

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating : 4.00 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 4.0/5 (2 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies V - X Tagged with: , ,

รีวิวหนังสยองขวัญสั่นประสาท Vinyan
September 4th, 2012 by ฟิล์มสยอง
รีวิวหนังสยองขวัญสั่นประสาท Vinyan (2008)

รีวิวหนังสยองขวัญสั่นประสาท Vinyan (2008)

Vinyan (2008)
กำกับ: Fabrice Du Welz
เขียนบท: Oliver Blackburn และ Fabrice Du Welz (writer)
นำแสดง: Emmanuelle Beart (Jeanne Bellmer), Rufus Sewell (Paul Bellmer), Petch Osathanugrah (Thaksin Gao), Julie Dreyfus (Kim), Amporn Pankratok (Sonchai), Josse De Pauw (Matthias), Omm (Sara), Joey Boy (Boonsong)
ประเภท: Thriller / Horror

รีวิวหนังสยองขวัญสั่นประสาท Vinyan

รีวิวหนังสยองขวัญสั่นประสาท Vinyan

เรื่องราวของ ณานน์ และพอล เบลห์เมอร์ สองสามี ภรรยาที่ต้องสูญเสียลูกชายจากเหตุการณ์สึนามี ตัวสามีพอลนั้นไม่คิดว่าลูกชายของตนจะมีชีวิตรอด แต่ณานน์ ภรรยาของเขายังคิดเสมอว่าลูกชายของเธอนั้น ยังมีชีวิตอยู่และถูกล่อลองลักพาตัวไปขาย พวกเขาทุ่มเทออกตามหาโดยละทิ้งทุกอย่างเพื่อหาคำตอบให้ได้ว่าลูกชายของเขานั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ พวกเขาได้จ้างไกด์เถื่อนชาวไทยเป็นผู้นำทาง และสถานที่ที่พวกเขาค้นหานั้นอยู่บริเวณจังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย ไปจนถึงน่านน้ำอันดามัน และป่าลึกลับในพม่า ความหวังที่ว่าจะได้พบกับลูกชายนั้น กลับกลายต้องพบประสบกับความเห็นแก่ตัว ทรยศหักหลัง ความน่าสะพรึง ลึกลับของสถานที่ที่พวกเขาออกตามหา จนถึงความสุดสะพรึงภายใต้จิตใจของณานน์ ภรรยาผู้สูญเสียลูกชาย!

Vinyan – วิญญาณ
เห็นแผ่นหนังเรื่อง Vinyan ที่ร้านเหรียญทองครับ แค่ชื่อก็โดนแล้ว เล่นเอาคำไทยเรามาตั้งเป็นชื่อหนัง อีกทั้งสาวที่อยู่บนหน้าปกเป็นหน้าตาของ Emmanuelle Beart สาวฝรั่งเศสหน้าแปลกๆ คนนี้ เธอเล่นหนังมาแล้วเพียบ แต่ที่น่าจะจำกันได้ เธอเล่นในหนังเรื่อง Mission Impossible ที่เฮีย Tom Cruise เล่นนั่นแล พอพลิกปกไปดูเห็นหน้าดารานำชายอีกคนคือ Rufus Sewell หนุ่มอังกฤษที่มีดวงตาโคตรเศร้าคนนี้ แกเล่นในซีรีส์หนังเรื่อง Eleventh Hour ที่ผมติดตามอยู่ทางยูบีซี และยังแสดงนำในหนัง Sci Fi / Thriller สุดเจ๋งอย่าง Dark City (หนังที่มีสาวขวัญใจผม Jennifer Connelly แสดงอยู่ด้วย ^^)

“โห…หนังไรวะ ชื่อทับศัพท์ไทย สถานที่ถ่ายทำในไทย ดารานักแสดงชั้นนำด้วย แต่ไม่เห็นเข้าฉายในโรง งี้ต้องสอยมาดูหน่อยครับ”

ผมกลับมาหาข้อมูลของหนังเรื่องนี้ พบว่าหนังเข้าฉายที่บ้านเราในโรง APEX สยามสแควร์ด้วย แต่เนื่องจากกระแสตอบรับคงไม่แรงพอที่จะเข้าไปฉายในโรงหลัก แต่ก็ไม่เป็นไรครับ หนังแผ่นลิขสิทธิ์ดีๆ ทำออกมาให้ได้ดูกันแล้ว

Vinyan เป็นหนังเขย่าขวัญที่เน้นความหม่นของอารมณ์ โดยเฉพาะบทบาทของ ณานน์ ภรรยาผู้สูญเสีย ที่แสดงได้หลอนจริงๆ หนังแทบไม่ต้องใช้สกอร์เพลงสร้างอารมณ์ แต่กลับใช้ความเงียบ ใช้ภาพหม่นๆ มากดดันประสาทผู้ชมได้อยู่หมัด (หากใครไม่ชอบหนังประเภทนี้ ก็ควรลี้หนีไปให้ไกล เพราะอาจหลับได้ครับ) ทั้งการส่งบทกันระหว่างสามี พอล นั้นก็ทำได้ดี ส่วนเนื้อเรื่องนั้น โครงหลักเป็นเรื่องราวของการตามหาลูกชาย แต่สิ่งที่ฉายให้เห็นมีทั้งความเห็นแก่ตัว ทรยศหักหลังของคนไทยที่กระทำต่อต่างชาติ และกระทำต่อกันเอง เสื่อมครับ เสื่อมสุดๆ ของพฤติกรรมคนไทยในเรื่อง ผมไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสิ่งที่เห็นในหนังนั้นจะไม่มีทางเป็นจริง แต่หากต่างชาติได้ดูคงหลอนกับพฤติกรรมคนไทยไม่น้อยล่ะ (ความจริงนี่เนอะ ฝรั่งก็ใช่ว่าจะไม่เอาเปรียบคนไทย) คนไทยในเรื่องที่ร่วมแสดงหลักๆ ก็มีโจอี้ บอย เพชร โอสถานุเคราะห์ และก็อีกเพียบที่คุ้นหน้าคุ้นตากัน
นอกจากนั้นในช่วงท้ายของเรื่อง ผู้กำกับ Fabrice Du Welz เพิ่มความหลอนน่าสะพรึง สุดระทึกให้กับบทบาทของภรรยา ที่หลอนเห็นภาพลูกชายของตนมาบอกว่า ต้นเหตุการตายของเขามาจากพ่อ! เธอจะทำอย่างไรกับสภาพจิตใจของตัวเอง และเธอจะทำอย่างไร เมื่อต้องเผชิญกับหมู่เด็กกินคนนับสิบ นับร้อยที่พวกเขาประสบตอนตามหาลูกชาย ผมเห็นภาพของหมู่เด็กจำนวนมากทาตัวสีดำรุมกัดกินเนื้อคนนั้น พาให้ผมนึกถึงหนังเผ่าพันธุ์ Cannibal ขึ้นมาทันที (บางที เรื่องนี้อาจจะต้องจัดหมวดหมู่เข้าไปในหนังจำพวกนั้นด้วยซะแล้ว)

Vinyan กำกับโดยผู้กำกับฝีมือดีจากเบลเยี่ยม “Fabrice Du Welz” ส่วนตัวภาพยนตร์เป็นการร่วมสร้างระหว่าง เบลเยี่ยม, ฝรั่งเศส, อังกฤษ และออสเตรเลีย หนังได้รับรางวัล Carnet Jove Jury Award ในปี 2008 จากเทศกาล Catalonian International Film Festival และยังได้เข้าชิงรางวัลในสาขา Best Film ในเทศกาลเดียวกัน และเทศกาล Flanders International Film Festival ครับ

วิญญาณ + เรื่องเหนือธรรมชาติ + สะพรึงลึกลับ + ทรยศหักหลัง + เด็กกินคน และ ความเสื่อมสุดชั่วของพฤติกรรมคนไทย (บางคน)!

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 4.00 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 4.0/5 (3 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies V - X Tagged with: , ,

รีวิวหนังสยองขวัญ Vacancy ห้องว่างให้เชิอด
September 4th, 2012 by ฟิล์มสยอง
รีวิวหนังสยองขวัญ Vacancy ห้องว่างให้เชิอด

รีวิวหนังสยองขวัญ Vacancy ห้องว่างให้เชิอด

Vacancy (2007)
ห้องว่างให้เชือด
กำกับ: Nimrod Antal
เขียนบท: Mark L. Smith
นำแสดง: Kate Beckinsale (Amy Fox), Luke Wilson (David Fox), Frank Whaley (Mason), Ethan Embry (Mechanic)
ประเภท: Thriller / Horror

รีวิวหนังสยองขวัญ Vacancy ห้องว่างให้เชิอด

รีวิวหนังสยองขวัญ Vacancy ห้องว่างให้เชิอด

เรื่องราวของสองสามีภรรยา David และ Amy Fox ที่อยู่ในช่วงการหย่าร้างต้องเดินทางไปร่วมงานฉลองของครอบครัวของ Amy Fox บรรยากาศระหว่างทางระหว่างทั้งคู่ มีแต่เรื่องราวความขัดแย้ง บ่น โต้เถียง เบื่อหน่าย และอยากจะห่าง ๆ กันไปซะให้รู้แล้วรู้รอด ทั้งคู่เกิดปัญหาเมื่อรถคันงามเกิดเสียอยู่ท่ามกลางหุบเขา และที่สำคัญพวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอยู่ในส่วนไหนของโลก

เหตุการณ์บังคับให้ทั้งคู่ต้องพัก Motel ระหว่างทาง และเรื่องสั่นประสาทก็เริ่มขึ้น เมื่อ David หยิบวิดีโอมาดูแก้เซ็ง แต่มันกลายเป็นภาพเหตุการณ์ฆาตรกรรมสุดโหด ที่สำคัญ…เหตุมันเกิดในห้องที่ฉันนั่งอยู่นี่หว่า!

พวกเขารู้ตัวว่าจะกลายเป็นเหยื่อรายต่อไปแน่นอน การดิ้นรนหาทางรอดจึงเริ่มต้นขึ้น…

ห้องว่างให้เชือด…แรงบันดาลใจจาก Road Trip + Snuff Film
ผมเป็นคนหนึ่งที่เดินทางต่างจังหวัดบ่อยมากครับ ไม่ว่าจะใช้บริการรถสาธารณะ หรือขับรถส่วนตัว ดูเรื่องนี้แล้วนึกถึงสถานที่ที่ผมต้องไปค้างคืน ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมธรรมดา หรือบางครั้งที่ต้องไปในจังหวัดที่มีฤดูกาลท่องเที่ยว ห้องพักเต็มหมด ต้องพักโรงแรมจิ้งหรีด ในแบบที่ฝรั่งเรียก Motel นี่แหละ ทุก ๆ ครั้งที่ไปพัก ก็คิดอยู่เหมือนกันนะครับ ว่าทุก ๆ ห้องที่เราไปพักเนี่ย โรงแรมมันจะติดกล้องไว้หรือเปล่า ถ้าเจอไอ้โรงแรมชนิดที่ปรากฏใน Vacancy นี่ สิทธิส่วนบุคคลคงถูกล่วงล้ำจนหมดสิ้นแน่ ๆ เลย

ผมเคยอ่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่ามือเขียนบทได้แรงบันดาลใจจากการขับรถไปนอกเมือง และเห็นโรงแรมตามข้างทางแบบนี้ ทั้งเก่า ทั้งไม่มีคน แต่มันก็ยังตั้งอยู่ได้…พวกเขาหาเงินมาจากไหนกัน นอกจากแรงบันดาลใจจากสิ่งที่ Mark L. Smith ได้พบเจอแล้ว ผมว่าเขายังนำมาผสมกับเรื่องราวของ Snuff Film ด้วย

หนังเรื่องนี้ไม่ได้สอดใส่ความรุนแรงชนิดคว้านท้อง ไส้ไหล หรือทรมานชนิดปางตายครับ อีกทั้ง เนื้อเรื่องไม่ได้มีการหักมุมอะไรเลย เป็นอะไรที่ดูตอนต้น ก็รู้ตอนจบ แบบเดายังไงก็น่าจะถูก แต่ผมว่าทุกอย่างใน Vacancy อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ทั้งฉากการฆาตรกรรมในวิดีโอ หรือการไล่ล่าที่ David กับ Amy Fox ต้องเผชิญ ส่วนเจ้าฆาตกรก็มีโง่ มีความผิดพลาด ไม่ได้ฉลาดมากมายเหนือมนุษย์

ใครเดินทางไปต่างจังหวัด ไปต่างที่ต่างทางต้องพักโรงแรมก็สอดส่องตรวจตราในห้องพักให้ดีๆ ละกันครับ ไม่งั้น คุณอาจจะได้เป็นพระเอก นางเอก โดยไม่รู้ตัว เหอ เหอ

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 4.00 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 3.6/5 (5 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies V - X Tagged with: , ,

รีวิวหนังสยองขวัญ Vacancy 2
September 4th, 2012 by ฟิล์มสยอง
รีวิวหนังสยองขวัญ Vacancy 2: The First Cut (2009)

รีวิวหนังสยองขวัญ Vacancy 2: The First Cut (2009)

Vacancy 2: The First Cut (2009)
กำกับ: Eric Bross
เขียนบท: Mark L. Smith
นำแสดง: Agnes Bruckner (Jessica), David Moscow (Gordon), Scott G. Anderson (Smith), Arjay Smith (Tanner), Trevor Wright (Caleb), Beau Billingslea (Otis), Brian Klugman (Reece), Juanita Jennings (Doris),
Nelson Lee (Groom), Gwendoline Yeo (Bride), Judy Durning (Wife), David Shackelford (Truck Driver),
Lola Davidson (Woman)
ประเภท: Horror / Thriller

รีวิวหนังสยองขวัญ Vacancy 2

รีวิวหนังสยองขวัญ Vacancy 2

จากเสียงตอบรับใน Vacancy ที่ออกฉายในปี 2007 ทำให้กำเนิด Vacancy 2 : The First Cut ออกฉายในปี 2009 ตามเทรนด์หนังใหม่เล่าเรื่องราวกำเนิดหนังเก่า ที่นิยมมากในช่วงสองปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น The First…, The Begin…อะไรก็ตาม ทยอยออกมากันอย่างต่อเนื่อง The Fist cut ของ Vacancy จึงถือกำเนิดขึ้นด้วย (เพื่อไม่ให้ตกกระแส)

เรื่องราวเล่าย้อนไปในปี 2004 ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดของโรงแรมสยอง ติดกล้อง ถ่ายหนังสด ใครที่หลงเข้ามาพักไม่วายที่จะกลายเป็นพระเอกนางเอกโดยไม่รู้ตัว เรื่องกำเนิดมาจากวันหนึ่ง ณ โรงแรม Meadow View Inn ที่เจ้าของติดกล้องไว้ถ่ายหนังสด เพื่อนำปล่อยออกขาย กำลังนั่งดูชาย หญิงที่เพิ่งจะมาเช่าห้องพัก ผู้ชายกำลังปูผ้าพลาสติก หญิงสาวหน้าตาเซ็กส์ซี่ลงไปนอนคว่ำหน้าโชว์ก้นงามงอน ชายหนุ่มขึ้นคร่อมด้วยทีท่ากระหายตัณหา…พร้อมด้วยมืดคมวาว บรรจง เสียบ เสียบ แทง แทง แทง! เข้าอย่างไม่ยั้งมือ…ชิบหาย จากหนังสด กลายเป็น Snuff Film เจ๋ง ๆ ไปแล้ว

เจ้าของโรงแรมและคู่หูจับเจ้าฆาตรกรสุดเหี้ยมที่ใช้ชื่อว่า Smith ได้ แต่ก็ต้องปล่อยตัวเพราะไอเดียสุดบรรเจิดของฆาตรกร Smith ที่เสนอขายบริการฆ่าเพื่อให้ได้ Snuff Film นำไปปล่อยขายในตลาดผู้นิยมความซาดิสต์ เงินกลายมาเป็นปัจจัยในการทำธุรกิจถ่ายหนังฆ่าร่วมกัน

Jessica และแฟนหนุ่ม Caleb กับเพื่อนสนิท Tanner กำลังเดินทางไกลไปยังบ้านของ Jessica เพื่อเริ่มต้นชีวิตคู่ที่นั้น กลับ ต้องมาประสบเหตุการณ์สุดสยองในโรงแรม Meadow View Inn พวกเขาจะหาทางเอาตัวรอดอย่างไร ใครจะรอด ใครจะอยู่ คงต้องไปหาดูกันครับ

ห้องว่างให้เชือด 2: หนังเล่าที่มากับความโหดคูณ 2
Vacancy 2 มาพร้อมกับความโหดคูณ 2 จาก Vacancy ภาคแรกที่ออกฉายในปี 2007 สนองความต้องการคอหนังเชือดเลือดสาดตามยุคของหนัง Horror เลือดสาดในช่วงปี สองปีที่ผ่านมาครับ เราจะเห็นอารมณ์แบบ Thriller ที่โดดเด่นใน Vacancy ภาคแรก แต่สำหรับ The First Cut ชูโรงด้วยความเป็น Horror ในสไตล์หนังต้นทุนต่ำอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะการปูบทของนางเอก Jessica ที่เติบโตมาในสภาพแวดล้อมแบบชนบท และการล่าสัตว์เป็นหนึ่งในวิถีชีวิตของเธอ ดังนั้น ฉากในช่วงท้ายที่ Jessica พยายามเอาชีวิตรอดจากพวกฆาตกร จึงไม่น่าแปลกใจเลยครับว่าผู้หญิงคนนี้เธอเก่ง และแกร่งจริงๆ (ไม่ได้ประชดนะ อิอิ)

นอกจากความเก่งกาจในการเอาตัวรอดของ Jessica แล้ว เจ้าฆาตรกร Smith ก็มาในแบบเหนือความเป็นจริง จำพวกโดยเท่าไรก็ไม่ตาย…ไม่เหมือนกับข้อดีของ Vacancy ภาคแรกที่เรื่องราวยังดูมีความเสมือนจริงอยู่ จึงทำให้ Vacancy 2: The First Cut กลายเป็นหนังเชือดตลาด ๆ ตามเทรนด์ไปโดยปริยาย

ใครชอบหนังโหดสะใจ ดู Vacancy ภาคแรกอาจไม่ถูกใจ ก็ลองหา The First Cut ภาคนี้มาดูครับ น่าจะถูกใจ แต่สำหรับผมนั้น คงพูดได้แค่ว่า ดูได้เพลินๆ ครับ

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.00 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 3.2/5 (5 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies V - X Tagged with: ,

รีวิวหนังสยองขวัญ Trick 'r Treat (2008)
September 3rd, 2012 by ฟิล์มสยอง
รีวิวหนังสยองขวัญ Trick 'r Treat (2008)

รีวิวหนังสยองขวัญ Trick ‘r Treat (2008)

Trick ‘r Treat (2008)
กำกับ และเขียนบท: Michael Dougherty
นำแสดง: Dylan Baker (Steven), Rochelle Aytes (Maria), Quinn Lord (Sam / Peeping Tommy), Lauren Lee Smith (Danielle), Moneca Delain (Janet), Tahmoh Penikett (Henry), Brett Kelly (Charlie), Britt McKillip (Macy), Isabelle Deluce (Sara), Jean-Luc Bilodeau (Schrader), Alberto Ghisi (Chip), Samm Todd (Rhonda), Anna Paquin (Laurie), Brian Cox (Mr. Kreeg), Leslie Bibb (Emma)
ประเภท: Horror / Comedy

รีวิวหนังสยองขวัญ Trick 'r Treat (2008)

รีวิวหนังสยองขวัญ Trick ‘r Treat (2008)

Plot หนังจากเว็บไซต์ mangpong.co.th – ผลงานสยองขวัญพร้อมอารมณ์ขันชวนขนลุกเพื่อเฉลิมฉลองค่ำคืนที่น่ากลัวที่สุดของปีเรื่องนี้อำนวยการสร้างโดย ไบรอัน ซิงเกอร์ (ผู้กำกับ X-Men และ Superman Returns) และ เขียนบท-กำกับโดย ไมเคิล ดอเฮอร์ตี้ (ผู้ร่วมเขียนบท X-Men และ Superman Returns)

“กระตุกขวัญวันปล่อยผี” คือการนำหนังในสไตล์ Creepshow / Tales from the Crypt สู่ความเขย่าขวัญอันหลอนลึกของสี่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนวันฮัลโลวีน อันได้แก่ ครูใหญ่ไฮสคูลคนหนึ่ง (ไดแลน เบเกอร์) ใช้เวลาว่างในยามดึกดื่นเป็นฆาตกรฆ่าต่อเนื่อง / สาวน้อยที่หวังเสียความบริสุทธิ์ให้กับคนพิเศษ (แอนนา พาควิน) อาจต้องเสียทั้งตัวและชีวิต / แก๊งวัยรุ่นสุดซ่าส์ที่เล่นแกล้งกันอย่างไม่ปราณีต้องเจอดีกลับมาแบบเข็ดจนตาย และชายแก่อารมณ์ร้าย (ไบรอัน ค็อกซ์) ต้องต่อกรกับผีเด็กที่เล่นหลอกเขาแบบไม่ตายไม่เลิกรา!

Trick ‘r Treat เคารพประเพณีกันหน่อยดิ ^ ^
สี่เรื่องราวฮาสยองที่นำมาโยงใยเกี่ยวพันกันได้อย่างราบรื่นไร้รอยต่อ หนังบอกเพียงว่า ..เหตุการณ์ก่อนหน้านั้น, เหตุการณ์หลังจากนั้น เหตุการณ์ในระหว่างนั้น…หนังยุคใหม่ที่ทำออกมาสไตล์หนังสยองยุค 80’s ครับ ทั้งภาพ มุมกล้อง บรรยากาศ และตัวละคร รวมไปถึง “ปีศาจเด็ก…ผีฟักทอง”

เนื้อหาที่ต้องการจะบอกให้เคารพประเพณีในวันปล่อยผี ที่ปัจจุบันคนยุคใหม่ส่วนใหญ่แทบจะหลงลืมขนบ หรือประเพณีดั้งเดิม อาทิ การแจกจ่ายขนมหวาน ลูกอม ลูกกวาด การประดับประดาไฟจากตะเกียงฟักทอง เป็นต้น เมื่อประเพณีมีไว้ให้ทำ แต่หากท่านไม่ทำ หนังเรื่องนี้แหละคือบทสั่งสอน!

ความสยอง อารมณ์ร่วมแบบยุค 80’s ชวนให้หนังมีสเน่ห์อย่างยากที่จะปฏิเสธครับ เสริมด้วยตอนท้ายของหนังทั้งสี่เรื่องมีประเด็นการหักมุมที่สยองดูชม อาทิ ครูใหญ่ใจดีที่มีพฤติกรรมนิยมฆ่า และถ่ายทอดพฤติกรรมนั้นสู่ลูกชายตัวเปี๊ยกที่ชอบทำกิจกรรมร่วมกับคุณพ่อ! สาวน้อยสุดน่ารักกับพี่สาวและชาวแก๊งค์แปลงร่างเป็นมนุษย์หมาป่าขย่ำเหยื่ออย่างสนุกสนาน ชายแก่อารมณ์ร้ายที่รอดตายเพราะหยิบยื่นขนมให้ปีศาจฟักทอง เป็นต้น  ผมว่าถ้าทำออกมาแบบปรับบทภาพยนตร์ให้กลายเป็นหนังสยองแบบซีเรียสๆ เรื่องนี้คงจะโหดไม่น้อยเลยแหละ (หามาดูกันเองนะ) ส่วนใครที่หวังจะดูฮาโลวีนเลือดสาดอะไรทำนองนี้ ก็คงดูแล้วเฉยๆ หน่ะครับ ส่วนตัวผมชอบหนังสั้นอารมณ์ Creepshow / Tales from the Crypt อยู่แล้ว พอได้ดูเรื่องนี้ก็เลยถูกใจ

สนุกดีครับ หามาดูกัน

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 5.00 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 4.7/5 (6 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies S - U Tagged with: , ,

The Butterfly Effect (2004)
September 3rd, 2012 by ฟิล์มสยอง
The Butterfly Effect (2004)

The Butterfly Effect (2004)

The Butterfly Effect (2004)
กำกับและเขียนบท: Eric Bress และ J. Mackye Gruber
นำแสดง: Ashton Kutcher (Evan), Melora Walters (Andrea), Amy Smart (Kayleigh), Elden Henson (Lenny), William Lee Scott (Tommy), John Patrick Amedori (Evan at 13),     Irene Gorovaia (Kayleigh at 13), Kevin G. Schmidt (Lenny at 13), Jesse James (Tommy at 13), Logan Lerman (Evan at 7), Sarah Widdows (Kayleigh at 7), Jake Kaese (Lenny at 7), Cameron Bright (Tommy at 7), Eric Stoltz (Mr. Miller), Callum Keith Rennie (Jason)
ประเภท: Thriller / Mystery / Sci-Fi

The Butterfly Effect (2004)

The Butterfly Effect (2004)

เนื้อเรื่องย่อจากปก: Evan (Ashton Kutcher) หลงเข้าไปในกาลเวลา ในช่วงแรก ๆ ช่วงสำคัญในชีวิตของเขา หายสาบสูญไปกับการหลงลืม ชีวิตวัยเด็กของเขา เต็มไปด้วยเหตุการณ์ที่น่ากลัวมากมายที่เขาจำไม่ได้ สิ่งที่หลงเหลือ ก็คือวิญญาณร้ายของความทรงจำ และชีวิตที่แตกสลายรอบ ๆ ตัวเขา ซึ่งคือชีวิตของเพื่อนวัยเด็กของเขา ได้แก่ Kayleigh (Amy Smart), Lenny (Elden Henson) และ Tommy (William Lee Scott)
Evan เคยอยู่ภายใต้การดูแลของจิตแพทย์ ผู้ที่ซึ่งกระตุ้นให้เขาบันทึกรายวัน โดยจดรายละเอียดเหตุการณ์ในชีวิตของเขาแบบวันต่อวัน บัดนี้เขาอยู่ในมหาวิทยาลัย Evanได้อ่านบันทึกอันหนึ่งของเขา และพบว่าตัวเองถูกผลักให้ย้อนเวลากลับไปในทันใด เขากลับรู้ตัวว่า สมุดจดที่เขาเก็บเอาไว้ใต้เตียง เป็นยานพาหนะซึ่งเขาสามารถย้อนกลับไปยังอดีต และเตือนความทรงจำของเขาได้ แต่ความทรงจำเหล่านี้ ทำให้ Evan รู้สึกต้องรับผิดชอบ กับชีวิตที่พังยับเยินของเพื่อนๆ ของเขา โดยส่วนใหญ่จะเป็นชีวิตของ Kayleigh แฟนในวัยเด็กที่เขายังคงรักอยู่ Evan ตั้งใจเดินทางย้อนกลับไปในอดีต โดยตัดสินใจที่จะทำบางสิ่ง ที่เขาไม่สามารถทำได้ในเวลานั้น จิตใจในปัจจุบัน ได้ครอบครองร่างกายในวัยเด็กของเขา…
ด้วยความพยายามที่จะเขียนประวัติศาสตร์ขึ้นมาใหม่ และช่วยเหลือเพื่อน อีกทั้งคนรักของเขา Evan หวังที่จะเปลี่ยนแปลงปัจจุบัน โดยการเปลี่ยนเหตุการณ์หลายอย่างในอดีต แต่ทุกครั้งที่อีแวนเปลี่ยนบางสิ่งในอดีต เมื่อเขากลับมายังปัจจุบัน เขาพบว่าการกระทำของเขา ทำให้เกิดผลที่ตามมาที่เกินคาดและร้ายแรง ด้วยความพยายามที่เขาสามารถ แต่ดูเหมือนว่า เขาจะไม่สามารถทำให้ความจริงที่ว่า เขาและ Kayleigh จะได้อยู่ด้วยกัน “อย่างมีความสุขตลอดกาล” ได้หรือไม่ ติดตามดูกันนะครับ
“Change one thing, change everything”

หนังเปิดเรื่องด้วยทฤษฎีโกลาหล (Chaos Theory) ที่ว่าแม้ผีเสื้อกระพือปีก ก็อาจส่งผลให้เกิดพายุกระหน่ำ สะเทือนทั้งผืนดินและฟ้าได้ เพื่อนๆ เชื่อมั้ยว่า ทุกๆ สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเราหน่ะมันมีความเชื่อมโยงกันอยู่ และมีผลส่งต่อๆ กันไปเป็นทอดๆ เมื่อทุกอย่างมีจุดเริ่มต้น การถ่ายเทผ่านกันก็เริ่มต้นขึ้น ไม่ใช่จากหนึ่งไปสู่หนึ่ง แต่มันจะส่งผลแรงขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ ครั้งที่มีการส่งต่อ และอาจส่งผลกลับมายังจุดเริ่มต้นในแบบทวีคูณความรุนแรงในวงจรห่วงลูกโซ่ หรือที่เรียกว่า Butterfly Effect

หนัง Thriller ย้อนเวลา เล่นเรื่องราวของอดีต และปัจจุบัน ที่หลังจากออกฉายในปี 2004 ก็ได้รับการกล่าวถึง และยกย่องให้เป็นหนังยอดเยี่ยมแนว Thriller ผสมวิทยาศาสตร์และจิตวิทยา และกลายเป็นหนึ่งในหนัง Thriller ขึ้นหิ้งอีกเรื่อง การนำทฤษฎีข้างต้นมาเล่าด้วยวิธีที่ให้เรื่องราวต่างๆ ไม่ยากเกินกว่าที่ผู้ชมจะเข้าถึง บวกกับพื้นฐานของตัวละครแต่ละตัวที่มีที่มาที่ไปอยู่บนพื้นฐานด้วยความเป็นเหตุและผลได้อย่างพอเหมาะ แม้บางบทบางตอนอาจดูเปล่ง ๆ ไปบ้างก็ตาม แต่ก็มีส่วนเสริมด้วยความเป็นดราม่าเข้มข้นทำให้หนังดูน่าติดตาม และน่าสะเทือนใจในบางบทบางตอน

The Butterfly Effect ภาพยนตร์ที่กำลังแสดงให้คุณเห็นว่า แม้จะมีโอกาสกลับไปแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตได้ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ปัจจุบันและอนาคตดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย และหลายครั้งที่ทำให้เราเห็นได้ว่า ยิ่งแก้ไขมากเท่าไร สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันยิ่งเลวร้ายหนักข้อขึ้นกว่าเดิมหลายร้อยเท่า!

คนเราจะสามารถกลับไปแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตได้สักกี่ครั้งกันเชียว???
…คำตอบ คือ ไม่ได้เลยสักครั้ง หากทำได้ดีที่สุดคือสิ่งที่คุณทำในปัจจุบัน เพื่ออนาคตดีๆ ที่รอคุณอยู่

แต่หากลองคิดดูเล่นๆ ถ้าคุณกลับไปแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตได้ล่ะ…คุณจะแก้ไขในเรื่องใดบ้าง

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 5.50 / 6.00

ปล. อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับทฤษฎีนี้ได้เพิ่มเติมที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Butterfly_effect หรือหาบทความเกี่ยวกับคุณ Edward Norton Lorenz (http://en.wikipedia.org/wiki/Edward_Lorenz) มาอ่านเพิ่มเติมได้ครับ

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 4.7/5 (3 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies A - C Tagged with: ,

รีวิวหนังสยองขวัญ Last House on the left (2009)
September 3rd, 2012 by ฟิล์มสยอง
รีวิวหนังสยองขวัญ Last House on the Left (2009)

รีวิวหนังสยองขวัญ Last House on the Left (2009)

The Last House on the Left (2009)
กำกับ: Dennis Iliadis
เขียนบท: Adam Alleca และ Carl Ellsworth
นำแสดง: Tony Goldwyn, Monica Potter, Sara Paxton, Garret Dillahunt, Rhys Coiro, Martha MacIsaac, Riki Lindhome, Aaron Paul
ประเภท: Thriller / Horror

รีวิวหนังสยองขวัญ Last House on the left (2009)

รีวิวหนังสยองขวัญ Last House on the left (2009)

หนังเก่าของ Wes Craven (Scream, Shocker, The Serpent and the Rainbow, A nightmare on Elm Street) ในปี 1972 ถูกนำมาปัดฝุ่นสร้างใหม่และนำออกฉายอีกครั้งในปี 2009 (จำได้ว่าถูกแบนห้ามฉายในบ้านเรา..ใช่หรือเปล่า?) เนื้อเรื่องเค้าโครงยังคงเดิม ที่ฉายภาพของครอบครัวสุขสันต์เดินทางมาพักผ่อน ณ บ้านทะเลสาบ (Locate กันด้วยนิยามว่า “บ้านหลังสุดท้ายซ้ายมือ”)

เคราะห์กรรมเริ่มก่อตัวเมื่อ มารี ลูกสาววัยรุ่นขอออกไปหาเพื่อนสาวในเมือง แฮงค์เอ้าท์แก้เซ็งตามประสา แต่สถานการณ์ดันไปเจอนักโทษแหกคุกและพรรคพวกสุดทรามที่ต้องการรถของเธอและตัวเธอ มารีและเพื่อนสาวพยายามที่จะหนีจากพวกมันให้ได้…

เคราะห์กรรมเริ่มพัดกระหน่ำ เมื่อเพื่อนสาวเธอไม่รอด ส่วนเธอเจอกระทำชำเราอย่างหนัก แต่ก็หนีพ้นเงื้อมมือปีศาจนรกมาได้แบบ “ปางตาย”! เธอกระเสือกกระสนกลับมาที่บ้าน “บ้านหลังสุดท้ายซ้ายมือ” ที่หารู้ไม่ว่าพวกโจรชั่วช้ามาขอพำนัก หลบซ่อนตัว เมื่อพ่อ แม่ ของมารีรู้ความจริงที่ว่า เธอที่กลับมาบ้านด้วยสภาพสะบักสะบอมนี้เป็นฝีมือของไอ้พวกโจรชั่วช้า…พวกเขาขอล้างแค้นให้สาสมกับสิ่งที่พวกมันทำกับ มารี

“เราต้องทำทุกวิถีทาง ทุกวิธี (ย้ำ!) เพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของครอบครัวเรา” — สามี และพ่อผู้เจ็บปวดเมื่อเห็นลูกสาวโดนทำร้าย พูดกับเมีย
“……” —- เมีย และแม่ผู้เจ็บปวดไม่แพ้กันเมื่อรู้ว่า เธอเพิ่งได้มอบความอาทรให้กับโจรชั่วที่ทำกับลูกสาวของตน ได้แต่พยักหน้า…
มึงตาย…ไอ้พวกสัตว์นรก!!!
บ้านหลังสุดท้ายซ้ายมือในเวอร์ชั่นของผู้กำกับ Dennis Iliadis
ในต้นฉบับของ Wes Craven นั้น ตัวหนังเต็มที่ได้ความดิบ เถื่อน รุนแรงโดยปราศจากการปรุงแต่งจากแอ็ฟเฟ็ค แต่มันเป็นบรรยากาศ และความรู้สึกที่ให้เราได้สัมผัสความระทึกขวัญยิ่งกว่าการปรุงแต่งใด ๆ แต่ก็ใช่ว่าเวอร์ชั่นในปี 2009 โดยผู้กำกับ Dennis Iliadis จะขี้ริ้วขี้เหร่ แม้ความดิบ ความรู้สึกร่วมระทึกและเขย่าขวัญจะลดน้อยลง แต่หนังยังคงเต็มไปด้วยความลุ้นระทึก น่าติดตามกันอยู่ตลอดทั้งเรื่อง

ฉากที่น่าจะเป็นที่กล่างถึง และระทึก สยอง หลอนอารมณ์และความรู้สึกยิ่งกว่าทุกฉากในเรื่องก็เป็น ฉากที่มารีถูกข่มขืนกระทำชำเราอย่างโหดเหี้ยม ไร้ความปราณีในแบบอมนุษย์ ซีนนั้นน่าจะมีร่วมราวนาทีที่ทรมานหัวใจผู้ชมเป็นที่สุด นอกจากนั้นก็ยังมีฉากความรุนแรงทั้งต่อย เตะผู้หญิง รวมไปถึงฉากเลือดสาดที่มีให้เห็นเป็นระยะๆ ในครึ่งหลังของเรื่อง

“หนังจากเหยื่อ…กลายมาเป็นผู้ล่า” หลายคนคงสะใจในพล๊อตหนังที่ว่าด้วยเรื่องของเหยื่อ หรือผู้ถูกล่าที่ถูกกระทำปู้ยี่ปู้ยำกันอย่างน่าสงสาร เห็นใจ และพวกเหยื่อเหล่านี้เปลี่ยนสภาพกลายมาเป็นผู้ล่า เอาคืนบ้าง…น่าจะสะใจผู้ชมไม่น้อย ใครชอบหนังประเภทนี้ก็หามาชำเราตัวท่านเองได้เลย

ทั้งที่หลายท่านยกให้เวอร์ชั่นต้นฉบับเป็นหนังระทึก + สยองคลาสสิกขึ้นหิ้งกันไปแล้ว ในความคิดผมสำหรับ The Last House on the Left หนังรีเมคในเวอร์ชั่นปี 2009 สอบผ่านเกณฑ์หนังต้นฉบับได้ทั้งในส่วนของเนื้อเรื่อง และโปรดักชัน แต่ถ้าให้ดี หากใส่ความดิบสะเทือนอารมณ์เข้าไปมากกว่านี้คงดีไม่น้อย

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 4.00 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 4.7/5 (3 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies J - L Tagged with: , , ,

รีวิวหนังสยองขวัญ เสียงศพสะท้อนวิญญาณ 2
September 2nd, 2012 by ฟิล์มสยอง
Stir of Echoes 2: The Homecoming (2007)

Stir of Echoes 2: The Homecoming (2007)

Stir of Echoes 2: The Homecoming (2007)
เสียงศพสะท้อนวิญญาณ 2
กำกับและเขียนบท: Ernie Barbarash
นำแสดง: Rob Lowe (Ted Cogan), Marnie McPhail (Molly Cogan), Ben Lewis (Max Cogan), Tatiana Maslany (Sammi), Shawn Roberts (Luke), Vik Sahay (Farzan), Colin Williams (Drexel)
ประเภท: Horror / Thriller

รีวิวหนังสยองขวัญ เสียงศพสะท้อนวิญญาณ 2

รีวิวหนังสยองขวัญ เสียงศพสะท้อนวิญญาณ 2

เรื่องราวของ Ted Cogan นายทหารกองรักษาดินแดน ประจำฐานอิรัก ผู้สั่งฆ่าชีวิตเหยื่อบริสุทธิ์จนกลายเป็นตราบาปในใจ หน่วยของเขาปะทะกันกับผู้ก่อการร้าย จนทำให้ Cogan ได้รับบาดเจ็บ แต่เขาก็รอดกลับมาได้ ด้วยอาการที่เห็นภาพหลอนของคนตาย ซึ่งอาการดังกล่าวมักเกิดกับทหารผู้กลับมาจากการรบ เหตุการณ์เริ่มรุนแรงมากขึ้นเมื่อภาพหลอนดังกล่าว ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ภาพ มันไม่หายไปตามระยะเวลา แต่มันกลับกลายเป็นความสยองที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวันที่มีแต่จะทวีความรุนแรงมากขึ้น ชายหนุ่มตาบอดผู้สัมผัสวิญญาณได้ แนะนำให้ Cogan หาสาเหตุที่แท้จริงว่า เจ้าวิญญาณร้ายดังกล่วต้องการอะไรกันแน่ Cogan จึงได้เริ่มต้นค้นหาความจริง และความน่าสะพรึงของคำตอบที่เขาค้นพบ มันช่างน่ากลัวยิ่งกว่าวิญญาณที่มาหลอกหลอนเขาอีก!

Stir of Echoes2: The Homecoming
หนังสยองเกรดบี ที่มีพล็อตเรื่องคล้ายๆ กับ Stir of Echoes ภาคแรกครับ เหยื่อผู้เสียชีวิตพยายามจะบอกตัวละครเอกให้ค้นหาสาเหตุการตายที่แท้จริง แต่ความอาฆาตพยาบาทในตอน The Homecoming ดูจะรุนแรงกว่า เมื่อฆาตกรคือบุคคลที่ใกล้ตัวของ Cogan ผมว่าหนังฉายภาพของผีให้เห็นกันมากมายเกินจำเป็น หากปรับเปลี่ยนมาเป็นการ เน้นเล่นกับอารมณ์กดดัน หลอน ระทึกกับผู้ชมในแบบภาคแรกของ Stir of Echoes ที่มี Kevin Bacon แสดง คงดีไม่น้อย

แฟนหนังสยอง หนังระทึกขวัญหลายคนน่าจะประทับใจกับ Stir of Echoes เสียงศพสะท้อนวิญญาณภาคแรกที่ออกในปี 1999 กับผลงานการแสดงสุดระทึกของ Kevin Bacon และผลงานการเขียนบท และกำกับของ David Koepp ห่างหายกันไปเกือบสิบปี Ernie Barbarash นำ Stir of Echoes มาทำต่อในชื่อที่ว่า Stir of Echoes 2: The Homecoming

Ernie Barbarash ก็ไม่ใช่ผู้กำกับหน้าใหม่ ไร้ชื่อครับ Erinie สร้างผลงาน Sci-Fi / Horror ที่ล้ำลึกด้วยบทภาพยนตร์โยงใยเกี่ยวกับการคำนวณหาทางออกในหนังที่ชื่อว่า Cube Zero และยังเขียนบทให้กับ Cube 2: Hypercube อีกด้วย เพราะงั้นใครจะมองว่า Stir of Echoes ภาค 2 นี้ จะเป็นหนังเกรดบีห่วยแตกรับไม่ได้หากเทียบกับภาคแรก ก็คงต้องหันกลับมาพิสูจน์กันเอาเองแล้วล่ะครับ

สำหรับผมก็เป็นหนังดูได้เพลินๆ ไม่ต้องถึงกับเขว้งแผ่นทิ้งหรอกครับ 

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.00 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 2.7/5 (3 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies S - U

รีวิวหนังเขย่าขวัญ Stepfather
September 2nd, 2012 by ฟิล์มสยอง
รีวิวหนังเขย่าขวัญ The Stepfather (2009)

รีวิวหนังเขย่าขวัญ The Stepfather (2009)

The Stepfather (2009)
กำกับ: Nelson McCormick
เขียนบท: J.S. Cardone (screenplay), Donald E. Westlake (earlier screenplay)
นำแสดง: Dylan Walsh (David Harris), Sela Ward (Susan Harding), Penn Badgley (Michael Harding), Amber Heard (Kelly Porter), Sherry Stringfield (Leah), Paige Turco (Jackie Kerns), Jon Tenney (Jay), Nancy Linehan Charles (Mrs. Cutter),
Marcuis Harris (Detective Shay), Braeden Lemasters (Sean Harding), Deirdre Lovejoy (Detective Tylar), Skyler Samuels (Beth Harding), Blue Deckert (Captain Mackie), Jason Wiles (Dylan Bennet)
ประเภท: Thriller

รีวิวหนังเขย่าขวัญ Stepfather

รีวิวหนังเขย่าขวัญ Stepfather

Who Am I Here?
The Stepfather หนังรีเมคจากภาพยนตร์คลาสสิกชื่อเดียวกันที่ออกฉายในปี 1987 ซึ่งกำกับโดย Joseph Ruben สำหรับในงานรีเมคปี 2009 นี้ กำกับโดย Nelson McCormick ผู้โชคโชนประสบการณ์ทางด้านกำกับซีรีส์ชื่อดังมาแล้วมากมาย อาทิเช่น CSI, Cold Case, ER, Nip/Tuck, Smith จนมาลองเอาดีทางด้านกำกับภาพยนตร์ในเรื่อง The Stepfather ที่ออกฉายในเมื่อปี 2009 ที่ผ่านมา

ในเวอร์ชั่น 1987 หนังจะเล่าเรื่องราวของลูกสาวที่ต้องเผชิญกับพ่อเลี้ยงคนใหม่ ถ้าใครจำหนังตัวอย่างของเวอร์ชั่น 1987 ได้ ประโยคสุดสั่นประสาทที่พ่อเลี้ยงรำพันกับตัวเองว่า “Who Am I here?” น่าจะเป็นที่จดจำของแฟนหนัง original เรื่องนี้

The Stepfather 2009
หนังเริ่มต้นเรื่องราวด้วยภาพของชายวัยกลางคน อาบน้ำ ย้อมผม โกนหนวด โกนเครา ก่อนจะมาปิ๊งขนมปัง ดื่มกาแฟ และเปิดเพลงไซเรน ไนท์ฟังอย่างสบายใจ ทว่า ภาพเริ่มตัดมาให้เราได้เห็น “ศพ” ของเด็ก และผู้ใหญ่ นอนเรียงรายตายอยู่ในบ้าน…แทบไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครคือฆาตรกรในช่วงห้านาทีแรกของหนัง!

พล๊อตเรื่องของ The Stepfather ก็ไม่มีอะไรซับซ้อนครับ ชายวัยกลางคนที่ตระเวนหาเหยื่อที่เป็นครอบครัวที่สามีตายจาก หรือไม่ก็หย่าร้างกันไป เหลือเพียงแค่แม่ และลูก ๆ เขาจะศึกษาและตีสนิท ไม่ว่าจะเป็นตามห้างซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือร้านขายของชำ ก็เป็นแหล่งในการหาเหยือได้อย่างดี จนเข้าไปอยู่ร่วมกับครอบครัวนั้นๆ  ได้ ทว่าครอบครัวของ Harding มีลูกชาย (Michael) ที่เพิ่งกลับมาจากการถูกส่งไปโรงเรียนทหาร เริ่มระแคะระคายว่า พ่อเลี้ยงคนใหม่ของตนมีอะไรแอบซ่อนเอาไว้หรือไม่ Michael และแฟนสาวจึงได้เริ่มลงมือสืบหาหลักฐาน จนพวกเขาต้องตะลึงถึงสิ่งที่พบเจอ!

คติเตือนใจว่าอย่าหลงผัวใหม่จนลืมลูก
อย่างที่บอกไป หนังไม่ได้มีอะไรซับซ้อนให้คาดเด่า แต่มีความระทึก ให้ลุ้นเร้าอารมณ์อย่างเนือง ๆ อย่างต่อเนื่อง สิ่งสำคัญที่ได้พบจากหนังเรื่องนี้ คือ “ความเหงา” ของสาวหม้ายที่น่าจะเป็นบทเรียนได้เป็นอย่างดีหากใครที่เป็นสาวหม้ายและได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ และยิ่งเป็นสาวหม้ายที่สามีเก่าไม่เคยใส่ใจ ไม่เคยดูแล แถมยังลงไม้ลงมือด้วยแล้ว เธอก็จะยิ่งเปราะบาง ซึ่งนี่แหละ คือ จุดอ่อนของพ่อเลี้ยงจอมปลอมสุดจิตคนนี้!

จริงๆ ความเปราะบาง เป็นจุดก่อให้เกิดความืดมัวของสายตา โดนเอาอกเอาใจหน่อย โดยรุมเร้า เอาใจใส่หน่อย แม่หม้ายก็ละลายจนละลืมลูกที่คลอดคลานออกมาจากท้องของเธอ เพราะงั้นหนังเรื่องนี้จึงสื่อให้เห็นถึงสถาบันครอบครัวที่ควรพึงจะกระทำให้เกิดความรัก ความอบอุ่นชนิดที่ใครก็ไม่สามารถแยกจากกันได้ การยอมรับ เชื่อใจ และฟังความคิดเห็นของกันและกัน นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด
คนนอกที่เราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย…อย่าไปไว้ใจครับ

รักคนในครอบครัวของท่านให้มาก ๆ
(ไม่รู้เขียนมาจบแบบนี้ได้ไงเหมือนกัน ฮ่า ฮ่า)

โดย ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร
Rating: 3.50 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 4.1/5 (7 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies S - U Tagged with: , ,