Category: Horror Movies J – L

Long Weekend (2013) หรือ ทองสุก 13 ยำรวมมิตรรสรั่ว ตำมั่วไร้รสชาติ
February 2nd, 2013 by ฟิล์มสยอง
Long Weekend (2013) หรือ ทองสุก 13 ยำรวมมิตรรสรั่ว ตำมั่วไร้รสชาติ

Long Weekend (2013) หรือ ทองสุก 13 ยำรวมมิตรรสรั่ว ตำมั่วไร้รสชาติ

Long Weekend | ทองสุก 13 (2013)
ผู้กำกับ : ทวีวัฒน์ วันทา
เขียนบท: เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์, สมหมาย เลิศอุฬาร, อดิเรก วัฎลีลา, ทวีวัฒน์ วันทา
นักแสดงนำ : ชินวุฒ อินทรคูสิน, ชีรณัฐ ยูสานนท์, ฌอห์ณ จินดาโชติ, อัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล, ณัฐภัสสรา อดุลยาเมธาสิริ, กิตติ์ลภัส กรสุทธิ์ไรวรรณ
ประเภท: Horror

Long Weekend (2013) หรือ ทองสุก 13 ยำรวมมิตรรสรั่ว ตำมั่วไร้รสชาติ

Long Weekend (2013) หรือ ทองสุก 13 ยำรวมมิตรรสรั่ว ตำมั่วไร้รสชาติ

จากคำโปรยใน Facebook ของ “ทองสุก 13”
“ทองสุก 13” เป็นหนังผีแนวระทึกขวัญ non stop ที่จะทำให้คุณแปลกใจไปทั้งเรื่อง เพราะมันมีทั้งเรื่องของมิตรภาพ ความรัก และความท้าทาย ที่รอให้คุณไปสัมผัสอยู่ อยากให้ลองไปดูกัน คาดเดาไม่ได้จริงๆ ครับ – จาก http://www.facebook.com/wavepicturesofficial

ทองสุก 13 ภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกของค่ายน้องใหม่ เวฟ พิคเจอร์ส ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ คุณแป๊ป ณฤทธิ์ ยุวบูรณ์ รับหน้าที่โปรดิวเซอร์ ร่วมกับ คุณอังเคิล อดิเรก วัฏลีลา ผลงานการกำกับโดย ทวีวัฒน์ วันทา

เนื้อเรื่องย่อ “ทองสุก 13”
ในกลุ่มเพื่อนๆ มักจะมีใครคน ที่เป็นลูกไล่/ ตัวลง มักโดนแกล้งอยู่เสมอ และ “ทองสุก” ( ชิน ชินวุฒ อินทรคูสิน ) ก็เป็นตัวลงประจำกลุ่ม ด้วยความที่เป็นคนเนิร์ดๆ แถมยังดูเอ๋อ จึงโดนรุมแกล้งอยู่เสมอตั้งแต่เด็กๆ ยังดีที่เขายังมี “น้ำ” (น้ำชา – ชีรณัฐ ยูสานนท์ ) เป็นเพื่อนที่เห็นใจทองสุกมากที่สุด ทั้งสองเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กจนเรียนมหาวิทยาลัยแต่เพราะความเนิร์ดของทองสุก ทำให้กลุ่มเพื่อนใหม่ไม่ว่าจะเป็น บอย (ฌอห์ณ จินดาโชติ ) , แจ๊ก (น๊อต อัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล ) และสองสาวเลสเบี้ยน บีม (กอล์ฟ ณัฐภัสสรา อดุลยาเมธาสิริ ) กับ ปุ้ย (ฐา กิตติ์ลภัส กรสุทธิ์ไรวรรณ ) ก็ทนความเนิร์ดประหลาดของทองสุกไม่ไหว แม้น้ำจะขอให้เพื่อนๆ ทำใจยอมรับก็ตาม

แล้ววันหยุดยาวที่กำลังจะมาถึงก็ทำให้ทุกคนต้องลืมเพื่อนคนนี้ไม่ลงไปตลอดชีวิต เมื่อทุกคนนัดกันหนีทองสุกไปเที่ยวกันที่เกาะเล็กๆ กลางทะเลสาบเวิ้งว้างแห่งหนึ่ง โดยมีโจทย์ง่ายๆว่า งานนี้ต้องไม่มีทองสุก แต่ใครจะรู้ว่า ทองสุก แอบไปเซอร์ไพร์สที่นั่น และในคืนนั้นดันไปตรงกับวัน ศุกร์ 13 ที่ว่ากันว่าเป็น “คืนผีแดก” คืนที่วิญญาณผีร้ายออกมากินเครื่องเซ่นสังเวย เพื่อนๆจึงตอบแทนทองสุกด้วยการแกล้งด้วยการขังในตู้ที่ปิดตาย หารู้ไม่ว่าคนในกลุ่มได้รับบทเรียนที่ขำไม่ออก ในคืนที่เต็มไปด้วยความหลอนและไม่มีใครไว้ใจใครแม้กระทั้งตัวเอง ทั้งหมดจะรอดจากหายนะนี้ได้หรือไม่ ทองสุกจะรอดพ้นจากทั้งคนทั้งผีได้หรือไม่

“ทองสุก 13” หนังผีแนวระทึกขวัญ “non stop”
ได้อ่านรายละเอียดของหนังเรื่องนี้ มองไปที่ชื่อของผู้กำกับ ทวีวัฒน์ ที่สร้างผลงานสร้างชื่ออย่าง ขุนกระบี่ ผีระบาด ในปี 2004 ที่สร้างมาจากผลงานหนังสั้นของตัวเอง จนมาถึงอสุจ๊าก ในปี 2007 หนังเรื่องนี้ไม่ค่อยโดนผมเท่าไรครับ แต่ที่เห็นได้รับคำชมมาไม่น้อยใน อนุบาล เด็กโข่ง ปี 2009 จนมาถึงเรื่องล่าสุด ทองสุก 13 จะว่าไปชื่อผู้กำกับที่แหวกแนวมาทำแนวสยอง จะเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดติดตามนั้น หาไม่ครับ สิ่งเดียวที่ดึงดูดก็คงเป็นชื่อของคุณเอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ มือเขียนบท นักวาดการ์ตูนที่สร้างชื่อจาก เรื่องสั้นจิตหลุด ที่นำมาสร้างเป็นหนัง 13 เกมสยอง จนถึง ฝีมือการเขียนบทร่วมกับ ชูเกียรติในหนังเรื่อง บอดี้ ศพ 19, หนึ่งในหนังสยองสี่แพร่ง ตอน ยันต์สั่งตาย, ใครในห้อง หรือ Who r u? หนังหลุดๆ อีกเรื่องที่พลิกบทตอนจบแบบ “เฮ้อ -_-” และ หลุดสี่หลุด จนมาถึง ทองสุก 13 Profile น่าติดตามและน่าสนใจมากครับ สำหรับคนมากฝีมือแบบเอกสิทธิ์

Long Weekend…สุดสัปดาห์รั่วหลุด
แหม…บังเอิญจริงๆ ครับ นั่งเขียนรีวิวเรื่องทองสุก 13 อยู่ เปิดทีวีช่อง 3 ก็มีเบื้องหลังภาพยนตร์เรื่อง ทองสุก 13 โผล่มาพอดี…เพี้ยน และเฮี้ยนดีจริงๆ 😉

ทองสุก 13 เห็นว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวของคุณเอกสิทธิ์นำมาเขียนบอกเล่าถ่ายทอดลงในหนังเรื่องนี้ ผมว่าหากเทียบจากงานก่อนๆ ในทองสุก 13 ตัวบทนั้นดูอ่อนแอ เบาบาง และเต็มไปด้วยการยัดเยียดมุกสยองจนไม่สยอง…หลายๆ คนพูดถึง หนังทองสุก 13 โดยเอาไปเปรียบเทียบกับหนัง Cabin in the Wood ซึ่งถูกยกย่องเป็นหนังสยองยุคใหม่ที่โดนใจหลายๆ คน บางคนยิ่งเอาไปเทียบกับหนังสยองสุดคัลท์ Evil Dead ผมยิ่งว่า อย่าเอาไปเทียบเลยครับ ทองสุก 13 ยังไม่ไปถึงขั้นนั้นหรอก…

ทองสุก 13 เป็นหนังผี หนังสยองรั่วๆ ที่พยายามจะใช้ประชาสัมพันธ์ปล่าวประกาศว่าเป็นหนังผียุคใหม่ หนังผีที่มีความน่ากลัวหลอกหลอนตลอดเวลาแบบ non stop โดยนำเอาอิทธิพลจากหนังผีคัลท์ๆ ของต่างแดนมาประเคนใส่ลงในไปหนังด้วยความ “เคารพ” ต่อต้นฉบับ…มันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับการหยิบมุกสยองของหนังหลายๆ เรื่องมารวมกันหน่ะครับ หากแต่การรวมกันนี้ เอามาใส่ในหนังชั่วโมงกว่าๆ ซะจนล้น จนขาดน้ำหนัก และรสชาติความสยอง ทำให้กลายเป็นการดูหนังเรื่องนี้ แบบเซ็งๆ จะตื่นเต้นก็ไม่ตื่นเต้น จะน่ากลัวก็ไม่น่ากลัว กลับกลายเป็นว่าฉากฮาๆ สองสามฉากในหนังเรื่องนี้นั้นจะดูดีกว่าตัวหนังทั้งเรื่องอีก

หนังผีทองสุก 13 ได้นักร้องนักแสดงอย่างน้ำชา และชิน มาแสดงแบบจัดเต็มครับ นักแสดงนำทั้งสองก็ทำหน้าที่ของตนเองได้ดี ทุ่มเทและจัดเต็มในทุกฉาก ส่วนบทบาทการแสดงของนักแสดงท่านอื่นๆ นั้นก็เล่นได้เป็นธรรมชาติกับบทบาทการแสดงดี…ทีมนักแสดงอาจจะเป็นสิ่งเดียวที่น่าสนใจในเรื่องทองสุก 13 นี้นะครับ

ใครเป็นแฟน ชิน น้ำชา หรือนักแสดงท่านอื่นๆ ก็ไปอุดหนุนภาพยนตร์ไทยสยองขวัญเรื่องนี้กันได้นะครับ

ส่วนใครที่ไม่ได้เป็นแฟนของดารา แต่เป็นแฟนหนังสยอง…ผมแนะนำให้ท่านชั่งใจก่อนซื้อตั๋วเข้าไปชมหนังเรื่องนี้ละกันครับ

“นี่แหละที่เขาเรียกว่า..ผีหลอก” (เอาตังส์)…จ้ากกกกกกกก!!!

ตัวอย่างหนังทองสุก 13


โดย ศร-รณ
Rating: 2.00 / 5.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 2.7/5 (19 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies J - L Tagged with: , , , , ,

รีวิวหนังญ๊่ปุ่นสุดโหด Living Hell (2000)
November 18th, 2012 by ฟิล์มสยอง
รีวิวหนังญ๊่ปุ่นสุดโหด Living Hell (2000)

รีวิวหนังญ๊่ปุ่นสุดโหด Living Hell (2000)

Living Hell | Iki-jigoku (2000)
นำแสดง: Hirohito Honda (Yasu), Yoshiko Shiraishi (Chiyo), Rumi (Mami), Kazuo Yashiro (Ken), Naoko Mori (Yuki), Shugo Fujii (Mitsu), Hitoshi Suwabe (Dr. Kurando), Umitarou Nozaki (Sensei), Noboru Mitani (The Professor), Sei Hiraizumi (The Inspector)
กำกับและเขียนบท: Shugo Fujii
ประเภท: Horror

รีวิวหนังญ๊่ปุ่นสุดโหด Living Hell (2000)

รีวิวหนังญ๊่ปุ่นสุดโหด Living Hell (2000)

หนึ่งในหนัง Horror ที่ออกสไตล์โรคจิตในแบบญี่ปุ่นที่นำมาแนะนำกันอีกเรื่องครับ เรื่องนี้เป็นผลงานของ Shugo Fujii หนึ่งในผู้กำกับหนังที่อยู่ในยุคกลางของผู้กำกับหนังโหดในญี่ปุ่น ผู้สานต่อความโหดโรคจิตของผู้กำกับยุคก่อน กับสไตล์โครงเรื่องในแบบยุคใหม่ หนังเรื่อง Living Hell หรือ Iki – Jigoku ถึงได้ถูกสื่อบางสาขายกย่องให้ชื่อว่า ‘The Japanese Chainsaw Massacre’

เนื้อเรื่องใน Living Hell บางส่วนบทยังอ่อนครับ สับสนกับการโยงเรื่องแบบไม่ค่อยน่าให้อภัยอยู่บ้าง แต่ก็เอาเหอะครับ มองข้ามส่วนนั้นไปก่อน เพราะเนื้อหาในส่วนที่เข้มข้น กับบทสยองโหดที่น่าติดตามกันตั้งแต่ห้านาทีแรกช่วยให้หนังเรื่องนี้น่าดูมากขึ้นทีเดียว

เรื่องย่อ บวกฉากสยองต้องตา:
Chiyo ย่าโหด กับหลานสาวสภาพแห้งราวศพ สองย่า หลาน ที่ต้องมาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ฆาตรกรรมสยองขวัญในบ้านหลังหนึ่ง และทั้งสองก็ไม่มีที่พักอาศัย เรื่องราวสยองเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Chiyo ย่าโหดโรคจิต และหลานสาวเข้าไปอยู่ในบ้านของญาติที่อีกเมืองหนึ่ง ในบ้านหลังนี้ Ken พี่ชายคนโต คอยดูแลบ้านยามที่พ่อของเขาไม่อยู่ อีกทั้งยังต้องดูแลน้องๆ คือ Mami พี่สาวคนรอง และ Yasu หนุ่มพิการ น้องคนสุดท้อง เหตุการณ์สยองขวัญเกิดขึ้นจากพฤติกรรมแปลกประหลาดของสองย่าหลาน เหยื่อรายแรกคือ Yasu ผู้พิการที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว เป็นผู้ประสบเหตุการณ์รายแรก การทรมานจึงเริ่มต้น…

Chiyo ย่าโหด กับหลานสาวเริ่มต้นการทรมาน Yasu หนุ่มพิการ ด้วยวิธีการสุดโรคจิต จับนกของ Yasu หนุ่มพิการมาทำเป็นอาหารให้กินเป็นเมนูแรก เมนูต่อมา เป็นแมลงสาบพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ หลังจากนั้นยังไม่พอ หนังกระหน่ำฉากทรมานต่อด้วยการมัด Yasu ไว้กับเตียง พร้อมทั้งใช้เครื่องช๊อตไฟฟ้าป้องกันตัวของผู้หญิง ช๊อต Yasu นอกนั้นยังไม่พอ ยัยหลานสาวผอมแห้งเอาน้ำราดไปที่ Yasuจ้อนน้อย แล้วย่าโหดก็กระหน่ำช๊อต Yasuจ้อนน้อยอย่างสนุกสนาน!

ในวันต่อมาสองย่าหลาน จับ Yasu มัดไว้กับรถเข็น เอาร่างกายของ Yasu ที่นั่งรถเข็นเป็นที่ปาเป้าเล่น ต่อมาหลานสาวแห้ง ใช้คีมกระหน่ำถอนฟันของ Yasu อย่างซาดิสต์สุดโต่ง เป็นการถูกทรมานที่น่าสงสารจริงๆ หลังจากนั้นหนุ่มพิการ Yasu ผู้น่าสงสารใช้เลือดเขียนข้อความใส่กระดาษ พยายามบอกเตือนคนอื่นๆ ในบ้าน ก็ยังไม่วายโดนทรมานต่อ ด้วยวิธีการใช้ฆ้อนปอนด์ทุบมือข้างที่หนุ่มพิการใช้เขียน…ทั้งวัน ทั้งคืนที่ Yasu ถูกทรมานด้วยวิธีสารพัดสุดพิสดาร หลังจากที่ Mami พี่สาวคนรองกลับมาบ้าน ก็โดนไปไม่ใช่น้อย ทั้งโดนไดเป่าผม เป่าด้วยความร้อนจนหน้าตาแหวะสยองไปตาม ๆ กัน นอกจากนี้แล้วยังมีฉากสยองต่อเนื่องให้เราได้ ‘ยี้’ กันทั้งเรื่องครับ ฉากที่เล่าถึงพฤติกรรมการกินของย่าโหดผู้นิยมชื่นชอบการกินลูกกะตาเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย ก่อนที่จะเริ่มกินเนื้อมนุษย์ก็แหวะได้ไม่น้อย…

ฉากสยองและการแสดงสุดโรคจิต (แสดงได้โรคจิตเข้าขั้นทีเดียว) ของนักแสดงในเรื่องนี้ สอบผ่านเลยครับ ดูมีชีวิตชีวา ไม่ได้เล่นแข็งๆ ไปตามบท ดูกันได้เพลินปนเสียว แบบประมาณว่า เฮ้ย! มันจะทำอะไรกันต่อวะ! ลองติดตามดูได้ตลอดทั้งเรื่องครับ

แฝดสยาม อิน กับ จัน ถูกนำมาเป็นโครงเรื่องหลักสำคัญ…
เรื่องราวกล่าวอ้างอิงถึงแฝดสยามคู่แรกของเรา อิน กับ จัน ในเรื่องโยงใยถึงการทดลองการตั้งครรภ์เพื่อให้ได้แฝดในลักษณะเดียวกันแบบนี้กับ ย่าโหด โดยฝีมือของหมอ Kurando หมอโรคจิตที่เห็นย่าโหดเป็นเพียงสิ่งของ เขาทำอย่างกับย่าโหดเป็นสัตว์ การทดลองสารเคมีต่างๆ นานาถูกนำมาใช้ แต่ใช่ว่า ย่าโหดจะถูกทำไปโดยไม่เต็มใจ ย่าโหดกลับชอบและสนุกสนานอย่างบ้าคลั่งไปกับการทดลองนี้ด้วย การทดลองดังกล่าวเป็นผลสำเร็จ ย่าโหดมีลูกคนแรกตอนอายุ 43 คิดดูละกันว่า ลูกที่ออกมาจะเพี้ยน และผิดปกติแค่ไหน นอกจากนี้ Ken พี่ชายคนโตสุดเพี้ยนกลับมีความสัมพันธ์กับย่าโหด อย่างที่เราไม่คาดคิด เขาแปลก และมีพฤติกรรมผิดเพี้ยนไปจากมนุษย์ธรรมดา ความโหด โรคจิต ซาดิสต์ มาโซคิสต์ของเขาถูกเผยออกมาเรื่อยๆ พฤติกรรมจิตสุดป่วนเผยออกมาได้อย่างน่ากลัวดีแท้

คงไม่เฉลยเล่าเรื่องทั้งหมดแล้วครับ แค่นี้ก็ปล่อยของไปเยอะแล้ว ตั้งใจดูความสัมพันธ์ระหว่าง Chiyo…Dr. Kurando…และ Ken จะเกี่ยวโยงกันอย่างไร เครือข่ายปีศาจในคราบของมนุษย์นี้แหละที่จะกลืนความรู้สึกของคุณให้ห่อเหี่ยว ลุ้น และหยองไปด้วยกัน

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 4.00 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 4.0/5 (4 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies J - L Tagged with: , , , ,

The Letters of Death (2006) เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็น ส่งตาย
November 18th, 2012 by ฟิล์มสยอง
The Letters of Death (2006)  เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็น ส่งตาย

The Letters of Death (2006) เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็น ส่งตาย

The Letters of Death (2006)
เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็น ส่งตาย
นำแสดง : มหาสมุทร บุณยรักษ์, ชลลดา เมฆราตรี, กรรชัย กำเนิดพลอย, ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์, แอนดี้ เขมภิมุก, อโณมา ศรันย์ศิขริน
กำกับ : กพล ทองพลับ
ประเภท :Horror

 

The Letters of Death (2006)  เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็น ส่งตาย

The Letters of Death (2006) เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็น ส่งตาย

เรื่องย่อ: เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อชัยวัฒน์ เพื่อนร่วมรุ่นตายไปต่อหน้าต่อตาเสรี เหลือเพียงซีดีที่ชัยวัฒน์ ให้เป็นข้อมูล ในซีดีแผ่นนี้ มีแต่ภาพคนตาย ซึ่งทั้งหมดเป็นเพื่อนนักเรียนตอนอยู่ ป.6 ห้องเดียวกับเขาทั้งสิ้น แต่น่าแปลกใจคือ ผู้ตายได้รับ “จดหมายลูกโซ่ปริศนา” ทุกคน !!!

เสรีและนาตยาเริ่มสืบหาสาเหตุจากข้อมูลที่มีอยู่ และถ้าไม่สามารถแก้ปริศนาได้ภายในเวลาที่กำหนดในจดหมาย ความตายเท่านั้นที่เป็นคำตอบสุดท้าย ตอนนี้ นาตยา เพื่อนสาวร่วมรุ่นได้รับจดหมายแล้ว และเพื่อนที่เหลืออยู่ ทุกคนก็ได้รับจดหมายเช่นกัน เสรีได้บอกทุกคนเรื่องความตายจากจดหมายปริศนาที่ทุกคนได้รับ แต่ไม่ใครเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง น่าจะเป็นเหตุบังเอิญมากกว่า จนกระทั่งพวกเขาทุกคนได้เผชิญหน้ากับความตายไปทีละคนอย่างไม่มีทางเลือก

การค้นหาคำตอบเริ่มชัดเจน เมื่อพฤกษ์ตั้งข้อสันนิษฐานว่า จดหมายปริศนาน่าจะเกี่ยวข้องกับ “ไอ้แว่น” เพื่อนคนหนึ่งสมัย ป.6 ที่มักถูกเพื่อนๆ แกล้งเสมอ ขณะที่ปมปริศนากำลังจะถูกคลี่คลาย เวลาของพฤกษ์ก็หมดลง เช่นเดียวกับเพื่อนคนอื่นๆ เหลือแต่เสรีกับนาตยา สองคนสุดท้ายในรุ่น ที่จะต้องแก้ปมปริศนาต่อไป พวกเขาจะสามารถหาคำตอบได้ทันหรือไม่ เพราะเวลาของพวกเขาทั้งสองกำลังจะหมดลงเหมือนกับเพื่อนของเขาอีกในไม่ช้า…….

หนังไทยที่โปรโมตมากมาย…
หนังจาก “เจ้าพ่อผีเมืองไทย ดีเจ ป๋อง กพล ทองพลับ…ดีเจ ป๋อง เดอะ ช็อก…ผู้รู้จริงเรื่องผี ผู้คร่ำหวอดในเรื่องภูตผีวิญญาณมานานร่วม 20 ปี…” และอีกมากมายคำโปรโมตที่ หรืออาจจะเรียกว่า บุคคลที่หากินกับผี ก็คงจะว่าได้ (แซวเล่นนะครับ ^^ หนังจะคุณภาพสนุกสยองดั่งคำยกย่องหรือเปล่า เพื่อนๆ คงต้องไปพิสูจน์เองนะ)…

นอกจากทางค่ายหนัง เอ จี เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จะใช้ชื่อเสียงของผู้กำกับกระพือโปรโมตหนังเรื่องนี้แล้ว ทาง AG ยังใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่เล่นกับเรื่องราวความเชื่อของคนไทย กับ “จดหมายลูกโช่” ที่เป็น theme หลักของหนังเรื่องนี้ จนกระทั่งมีคนไม่พอใจถึงกับว่ากันไปถึงเรื่องราวของกฏหมาย ซึ่งทางบริษัทฯ เองก็ออกมาขอโทษเป็นที่เรียบร้อย (หลังจากสร้างกระแสได้อย่างล้นหลาม…จนเรียกว่าคุ้มค่า และยอมโดนด่า) สำหรับใครที่ไม่ได้ติดตามข่าวสาร ผมก็ขอนำข้อความข่าวจากเว็บไซต์ Manager Online มาลงให้อ่านกันบางส่วนครับ

“กลายเป็นปัญหาขึ้นมาอีกจนได้สำหรับวิธีการโปรโมตหนังในบ้านเรา ล่าสุดเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่อง “เดอะ เลตเตอร์ เขียนเป็นส่งตาย” ของบริษัทเอจี เอนเตอร์เทนเม้นท์ กำกับโดย “ป๋อง กพล ทองพลับ” ที่ได้มีนักศึกษาส่วนหนึ่งเข้าร้องเรียนไปยังสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคภายหลังได้รับจดหมายลูกโซ่มีเนื้อหาใจความในลักษณะที่ว่าจดหมายฉบับที่ว่าเขียนมาจากเพื่อนคนหนึ่งบอกว่าตนคงจะตายไปแล้วที่จดหมายฉบับนี้มาถึงมือผู้รับ และคนที่ได้รับจดหมายนี้จะต้องเขียนจดหมายส่งต่อไปอีกจำนวน 29 ฉบับ มิเช่นนั้นก็จะต้องจบชีวิตเช่นเดียวกับตน พร้อมกับลงท้ายเป็นรูปลายเส้นภาพแขวนคอและข้อความว่าแล้วเจอกันวันที่ 23 พ.ย….

ทั้งนี้หลังจากการได้รับการร้องเรียน ในวันนี้(16)ทางผู้บริหารค่ายเอจี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ โดยนาย “สมศักดิ์ ทรงธรรมากุล” ประธานบริหาร พร้อมด้วยทนายความส่วนตัว และ “ป๋อง กพล ทองพลับ” ในฐานะของผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวจึงได้เข้าไปชี้แจงต่อนายนพปฎล เมฆเมฆา ผู้อำนวยการสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคเป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วงสายที่ผ่านมา โดยบอกว่าจดหมายที่ว่านั้นถูกทำออกมาเพื่อเป็นการโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง “เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็นส่งตาย” จำนวนทั้งสิ้น 2,000 ฉบับด้วยกัน เน้นไปที่กลุ่มนักเรียน – นักศึกษา และมิได้มีเจตนาที่จะสร้างความตกใจให้กับผู้รับแต่อย่างใด เนื่องจากจะมีการส่งโปสการ์ดบอกรายละเอียดแนบไปกับจดหมายที่ว่านี้ด้วยทว่าได้เกิดการผิดพลาดต่อการจัดส่งจึงทำให้โปสการ์ดไม่ได้ถูกส่งไปพร้อมกับจดหมายพร้อมกับกล่าวขอโทษในความผิดพลาดดังกล่าว…”

ใครอยากอ่านเต็ม ๆ ก็เข้าไปได้ที่ http://www.manager.co.th/entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9490000141608 ครับ เอาเป็นว่า เพื่อนก็ใช้วิจารณญาณตัวเองดูนะครับ ว่าการกระทำแบบนี้สมควรหรือเปล่า

หนังจำพวกเอะอะก็ตาย…เอะอะก็จะฆ่า
เนื้อเรื่องชี้ไปที่เด็กนักเรียนที่เข้ามาใหม่กลางเทอมคนหนึ่ง โดยถูกแกล้งจากกลุ่มเพื่อนนักเรียนด้วยกัน แกล้งซะจนทำให้เด็กนักเรียนใหม่คนนั้นได้รับอุบัติเหตุตกบันได ชนิดที่เรียกว่า สาหัสจนไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อีกต่อไป เด็กนักเรียนใหม่คนนั้นก็มีแต่ความแค้น เกลียดชัง ประกอบกับเด็กน้อยคนนั้นชอบเล่นเกมแฮงค์แมนเป็นชีวิตจิตใจ สุดท้ายจึงจบชีวิตลงพร้อมกับฝังความแค้นลงในจดหมายลูกโช่ พร้อมทิ้งปริศนาให้เพื่อนๆ ในห้อง ป.6 ที่เคยแกล้งเขาได้แก้ไขปริศนานั้นดู

ดูหนังเรื่องนี้จบแล้ว ส่วนตัวผมก็มีเรื่องขำๆ เล็กน้อยมาเล่าให้ฟัง เรียกน้ำย่อย เผื่อผู้ที่ไปชมจะร่วมสังเกตไปกับผมด้วย เริ่มต้นที่…หน้าตาเจ้าเด็กนักเรียนใหม่ที่ตอนสมัยเรียนอยู่ ป.6 ก็น่ารักดีนะครับ แต่พอแกประสบอุบัติเหตุ หรือประสบเคราะห์จากการกลั่นแกล้งของเพื่อน ๆ ร่วมชั้น และโตขึ้นมาชนิดที่เรียกว่า พกความคาดแค้นมาเต็มกระเป๋านั้น หน้าตาแกดูไม่ได้เลยครับ ดูไม่ได้อย่างมากมาก แตกต่างจากเพื่อนร่วมชั้นที่โตขึ้นมานั้น หน้าตา หล่อ สวย เป็นนายแบบ นางแบบสบายๆ ผมว่าการสร้างบุคลิกตัวละครได้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงซะขนาดนั้นเนี่ย มันออกจะดูจงใจให้เกิดความแตกต่าง ระหว่าง คน กับ ผี(ที่มีแต่ความแค้น) ช่างไม่สมจริง และน่าขำ(เล็กน้อย) อย่างที่สุด ผมว่าการสร้างหนังจำพวกนี้ไม่จำเป็นต้องสร้างความแตกต่างในเรื่องของหน้าตาของตัวละครในลักษณะนี้ก็ได้ครับ

พระเอก จีน มหาสมุทร (จากภาพยนตร์เรื่อง หมานคร) ของพี่ป๋อง ที่ผมเห็นแกให้สัมภาษณ์ในงานเปิดตัวหนังว่า ต้องพระเอกคนนี้แหละ มีลักษณะในแบบ anti – hero คือลักษณะที่ว่าไม่น่าเป็นพระเอก แต่ก็เป็นพระเอกได้ ผมว่าพระเอกคนนี้มีความสามารถในระดับนึงครับ แต่แกต้องพัฒนาฟิลลิ่งในการเล่นภาพยนตร์จำพวกนี้อีกเยอะครับ เพราะเสียงแก ชวนง่วงนอน(มาก) นิ่ง ราบ เรื่อย เอื่อย ขนาดจุดสุดยอดของเรื่องที่พระเอกจีน ต้องตะโกนให้ นางเอกเก๋ เขียนจดหมายลูกโซ่ต่อนั้น มันยังดูไร้อารมณ์เหลือเกิน…

อย่างที่บอกไปครับ หนังเรื่องนี้เข้าข่าย หนังเอะอะก็ฆ่า เอะอะ เอ็งก็ต้องตายครับ…ซึ่งน้ำหนักในการประพันธ์หนังในเดอะ เล็ตเตอร์ให้เกิดการฆ่าล้างแค้นยกห้องแบบนี้ มันเบาหวิวมากครับ ไม่รู้แค้นอะไรนักหนา จะฆ่ามันล้างโคตร ทำนองนั้นเลย มันเสียดายนักแสดงที่อุตสาห์ตั้งใจมาโปรโมตหนัง มาร่วมแสดงครับ ออกมาฉาก สองฉาก ก็โดนฆ่าซะสยดสยอง หรือพี่ป๋อง ต้องการจะขายหนังในลักษณะ Gore ก็ไม่อาจทราบได้

กลิ่นหนังฝรั่งที่พี่เค้าอาจได้รับอิทธิพลมาก็คุกรุ่นอยู่หลายเรื่อง หนังจำพวกค่อยๆ ตายไปทีละคน ทีลคน ผมว่าเพื่อนๆ คงจะนึกออก ยิ่งหากได้ดูผลงานของพี่ป๋องในเรื่องนี้แล้ว คงจะร้อง ‘อ๋อ’ กันได้ไม่ยาก

ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของ “เจ้าพ่อผีเมืองไทย” ผมก็ขอเอาใจช่วยให้พี่ “เจ้าพ่อผี” สร้างผลงานคุณภาพออกมาอีกเยอะๆ นะครับ

..ใครใคร่อยากดูหนังโรง ก็เชิญครับ
..ใครใคร่อยากรอดูหนังแผ่น (ก็แนะนำนะ) ^^

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 2.00 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 3.4/5 (11 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies J - L Tagged with: , , , , , ,

Kekko Kamen 4: Surprise! (2005)
November 18th, 2012 by ฟิล์มสยอง
หนังซูเปอร์ฮีโรหญิงเปลือยใน Kekko Kamen 4: Surprise! (2005)

หนังซูเปอร์ฮีโรหญิงเปลือยใน Kekko Kamen 4: Surprise! (2005)

Kekko Kamen 4: Surprise! (2005)
นำแสดง: Shoichiro Akaboshi, Jiro Dan, Noriko Higashide, Aki Hoshino, Kenjiro Ishimaru, Risa Kamimura, Nana Kasai, Misaki Mori, Maki Yamakawa, Joji Yokozawa
กำกับและเขียนบท: Takafumi Nagamine
ประเภท: S&M / Nudity / Comedy

Kekko Kamen 4: Surprise! (2005)

Kekko Kamen 4: Surprise! (2005)

ซูเปอร์ฮีโรหญิงของญี่ปุ่นกลับมาช่วยโลกอีกครั้ง! จากหนังการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่สาวเปลือย (ทั้งตัว) พราวสเน่ห์ มาสู่แผ่นฟิล์มในซีรีส์สุดฮิต Kekko Kamen หนังซูเปอร์ฮีโร่ตระกูลพวกไอ้มด X ไอ้มดแดง ไอ้มดดำ เทือกนั้นแล…แต่นี่เป็นซูเปอร์ฮีโรสาวที่เปลือยตัว กระโดดไปกระโดดมา พร้อมกระบองคู่ในแบบบรู๊ซ ลี (หรือเปล่าวะ?!?)

ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์นี้ ทำออกมาในลักษณะของ S&M เบา ๆ ประมาณ พวกตัวร้ายจะนิยมการทรมาน และซาดิสต์เป็นสำคัญ ส่วนใหญ่ในหนังจะออกในโทนสีชมพูสดใส และมีมุขตลกมาให้เราอดอมยิ้มไม่ได้เป็นระยะๆ และที่สำคัญสาวๆ ในเรื่องนั้น คิกขุสุดๆ สดใส น่ารัก และยิ่งนักแสดงที่รับบทบาท Kekko Kamen ด้วยแล้ว หุ่นดีจริงๆ ครับ

ในภาค 4 : Surprise นี้ เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดที่ Mangriffon Music Academy ที่ตั้งอยู่ ณ เกาะพิศวงแห่งหนึ่งที่ไม่สามารถระบุที่ตั้งได้แน่นอน เด็กนักเรียนดนตรีสาวๆ ที่นี่ต้องตกอยู่ในสภาวะอันตรายจากครูสอนดนตรี ผู้นิยมการทรมาน และขายเด็กสาวเหล่านี้ แต่ไม่ต้องห่วง…Kekko Kamen ซูเปอร์ฮีโร่สาวสุดสวยได้เข้ามาช่วยเหลือไว้ได้ทัน ภาค 4 เต็มไปด้วยเรื่องราวที่มีทั้งบทเพลงคลาสสิก เพลง Rock & Roll สุดมัน หาดูได้เพลินๆ ครับ^^

หนังแปลกๆ ที่คุณหามาดูได้คลายเครียดดีแท้…

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.00 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 4.3/5 (9 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies J - L Tagged with: ,

รีวิวหนังสยองขวัญ Last House on the left (2009)
September 3rd, 2012 by ฟิล์มสยอง
รีวิวหนังสยองขวัญ Last House on the Left (2009)

รีวิวหนังสยองขวัญ Last House on the Left (2009)

The Last House on the Left (2009)
กำกับ: Dennis Iliadis
เขียนบท: Adam Alleca และ Carl Ellsworth
นำแสดง: Tony Goldwyn, Monica Potter, Sara Paxton, Garret Dillahunt, Rhys Coiro, Martha MacIsaac, Riki Lindhome, Aaron Paul
ประเภท: Thriller / Horror

รีวิวหนังสยองขวัญ Last House on the left (2009)

รีวิวหนังสยองขวัญ Last House on the left (2009)

หนังเก่าของ Wes Craven (Scream, Shocker, The Serpent and the Rainbow, A nightmare on Elm Street) ในปี 1972 ถูกนำมาปัดฝุ่นสร้างใหม่และนำออกฉายอีกครั้งในปี 2009 (จำได้ว่าถูกแบนห้ามฉายในบ้านเรา..ใช่หรือเปล่า?) เนื้อเรื่องเค้าโครงยังคงเดิม ที่ฉายภาพของครอบครัวสุขสันต์เดินทางมาพักผ่อน ณ บ้านทะเลสาบ (Locate กันด้วยนิยามว่า “บ้านหลังสุดท้ายซ้ายมือ”)

เคราะห์กรรมเริ่มก่อตัวเมื่อ มารี ลูกสาววัยรุ่นขอออกไปหาเพื่อนสาวในเมือง แฮงค์เอ้าท์แก้เซ็งตามประสา แต่สถานการณ์ดันไปเจอนักโทษแหกคุกและพรรคพวกสุดทรามที่ต้องการรถของเธอและตัวเธอ มารีและเพื่อนสาวพยายามที่จะหนีจากพวกมันให้ได้…

เคราะห์กรรมเริ่มพัดกระหน่ำ เมื่อเพื่อนสาวเธอไม่รอด ส่วนเธอเจอกระทำชำเราอย่างหนัก แต่ก็หนีพ้นเงื้อมมือปีศาจนรกมาได้แบบ “ปางตาย”! เธอกระเสือกกระสนกลับมาที่บ้าน “บ้านหลังสุดท้ายซ้ายมือ” ที่หารู้ไม่ว่าพวกโจรชั่วช้ามาขอพำนัก หลบซ่อนตัว เมื่อพ่อ แม่ ของมารีรู้ความจริงที่ว่า เธอที่กลับมาบ้านด้วยสภาพสะบักสะบอมนี้เป็นฝีมือของไอ้พวกโจรชั่วช้า…พวกเขาขอล้างแค้นให้สาสมกับสิ่งที่พวกมันทำกับ มารี

“เราต้องทำทุกวิถีทาง ทุกวิธี (ย้ำ!) เพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของครอบครัวเรา” — สามี และพ่อผู้เจ็บปวดเมื่อเห็นลูกสาวโดนทำร้าย พูดกับเมีย
“……” —- เมีย และแม่ผู้เจ็บปวดไม่แพ้กันเมื่อรู้ว่า เธอเพิ่งได้มอบความอาทรให้กับโจรชั่วที่ทำกับลูกสาวของตน ได้แต่พยักหน้า…
มึงตาย…ไอ้พวกสัตว์นรก!!!
บ้านหลังสุดท้ายซ้ายมือในเวอร์ชั่นของผู้กำกับ Dennis Iliadis
ในต้นฉบับของ Wes Craven นั้น ตัวหนังเต็มที่ได้ความดิบ เถื่อน รุนแรงโดยปราศจากการปรุงแต่งจากแอ็ฟเฟ็ค แต่มันเป็นบรรยากาศ และความรู้สึกที่ให้เราได้สัมผัสความระทึกขวัญยิ่งกว่าการปรุงแต่งใด ๆ แต่ก็ใช่ว่าเวอร์ชั่นในปี 2009 โดยผู้กำกับ Dennis Iliadis จะขี้ริ้วขี้เหร่ แม้ความดิบ ความรู้สึกร่วมระทึกและเขย่าขวัญจะลดน้อยลง แต่หนังยังคงเต็มไปด้วยความลุ้นระทึก น่าติดตามกันอยู่ตลอดทั้งเรื่อง

ฉากที่น่าจะเป็นที่กล่างถึง และระทึก สยอง หลอนอารมณ์และความรู้สึกยิ่งกว่าทุกฉากในเรื่องก็เป็น ฉากที่มารีถูกข่มขืนกระทำชำเราอย่างโหดเหี้ยม ไร้ความปราณีในแบบอมนุษย์ ซีนนั้นน่าจะมีร่วมราวนาทีที่ทรมานหัวใจผู้ชมเป็นที่สุด นอกจากนั้นก็ยังมีฉากความรุนแรงทั้งต่อย เตะผู้หญิง รวมไปถึงฉากเลือดสาดที่มีให้เห็นเป็นระยะๆ ในครึ่งหลังของเรื่อง

“หนังจากเหยื่อ…กลายมาเป็นผู้ล่า” หลายคนคงสะใจในพล๊อตหนังที่ว่าด้วยเรื่องของเหยื่อ หรือผู้ถูกล่าที่ถูกกระทำปู้ยี่ปู้ยำกันอย่างน่าสงสาร เห็นใจ และพวกเหยื่อเหล่านี้เปลี่ยนสภาพกลายมาเป็นผู้ล่า เอาคืนบ้าง…น่าจะสะใจผู้ชมไม่น้อย ใครชอบหนังประเภทนี้ก็หามาชำเราตัวท่านเองได้เลย

ทั้งที่หลายท่านยกให้เวอร์ชั่นต้นฉบับเป็นหนังระทึก + สยองคลาสสิกขึ้นหิ้งกันไปแล้ว ในความคิดผมสำหรับ The Last House on the Left หนังรีเมคในเวอร์ชั่นปี 2009 สอบผ่านเกณฑ์หนังต้นฉบับได้ทั้งในส่วนของเนื้อเรื่อง และโปรดักชัน แต่ถ้าให้ดี หากใส่ความดิบสะเทือนอารมณ์เข้าไปมากกว่านี้คงดีไม่น้อย

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 4.00 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 4.7/5 (3 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies J - L Tagged with: , , ,