Red Eye (2004) รถไฟผี - รีวิวหนังผี
December 23rd, 2012 by ฟิล์มสยอง
Red Eye (2004) รถไฟผี - รีวิวหนังผี

Red Eye (2004) รถไฟผี – รีวิวหนังผี

Red Eye (2004)
รถไฟผี
นำแสดง: Jang Shin-yeong (Mi-sun), Kwak Ji-min (So-hee), Lee Dong-kyu (Jin-kyu)
กำกับ: Kim Dong-bin
เขียนบท: Lee Yong-yeon, Seong Gi-young
ประเภท: Horror/Thriller, Drama

Red Eye (2004) รถไฟผี - รีวิวหนังผี

Red Eye (2004) รถไฟผี – รีวิวหนังผี

รู้สึกอย่างไรบ้าง ถ้าหากรถไฟขบวนที่คุณกำลังเดินทางอยู่นั้น มีโบกี้เก่าที่เคยประสบอุบัติเหตุสยองมาพ่วงอยู่ด้วย…

จุดเริ่มต้นของความหายนะเมื่อ 16 กรกฏาคม 1988 รถไฟขบวนหนึ่งที่กำลังมุ่งหน้าไปที่ Yeosu ประสบอุบัติเหตุอย่างรุนแรง มีผู้เสียชีวิตมากมายนับร้อย ซึ่งสาเหตุที่แน่ชัดไม่สามารถระบุได้…

16 ปีผ่านไป…วันครบรอบความหายนะก็มาถึง ความลึกลับปริศนาที่รอให้ Mi Sun (Jang Shin young) พนักงานรถไฟสาวที่มาทำงานในคืนวันเกิด ซึ่งความจริงนั้นเธอควรจะไปสนุก ฉลองกับเพื่อนๆ ในวันนี้ แต่เธอกลับขอแลกกะเพื่อมาทำงานในขบวนเที่ยวดึกด้วยเหตุผลส่วนตัวที่ไม่อาจบอกใครได้ รถไฟเริ่มออกเดินทางไปยังจุดมุ่งหมาย สิ่งแปลกๆ เริ่มเกิดขึ้นบนรถไฟขบวนนั้น เหตุการณ์ที่ Mi Sun พบเจอ ระหว่างปัจจุบันกับภาพหลอกหลอนในอดีตเริ่มขึ้น ทว่าจุดหมายปลายทางของรถไฟขบวนนี้กำลังจะวิ่งไปที่ไหนกัน…ชานชลาปลายทาง หรือหายนะซากที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 16 ปีก่อน ติดตามหามาดูได้ครับ

หนังของ Kim Dong-bin ที่ใช้ชื่อว่า Red Eye นี้ นำมาจากสัญลักษณ์ไฟกระพริบสีแดงที่บอกถึงสัญญาณอันตราย เรื่องถูกคลี่ปมออกขณะที่ใช้ภาพขาว – ดำ – แดงกระพริบหลอกหลอนประสาทคนดูได้อย่างน่าชม สิ่งที่ Kim Dong-bin ทำได้น่าดูอีกอย่างคือ การทำคอมพิวเตอร์กราฟฟิคที่ไม่ค่อยเห็นในหนังสยองขวัญเกาหลีเท่าไรนัก สำหรับในเรื่องนี้ มีหลายฉากที่ทำให้น่าประทับใจ หนังเนียนไม่ดูเป็นดิจิตัลมากซะจนเลี่ยนแต่กลับนำมาใช้ได้อย่างลงตัวและพอเหมาะพอควร ถือได้ว่าเป็นยุคใหม่ของหนังผีเกาหลีที่นอกจาก ผีหน้าขาวจะคลายออกมาจากมุมต่างๆ ของฉากแล้วนั้น หนังเรื่อง Red Eye พยายามจะฉีกความจำเจตรงนั้นออกไป นับได้ว่าเป็นความตั้งใจที่ดีของผู้กำกับ ใครที่เป็นแฟนหนังสยองขวัญเอเซียโดยเฉพาะญี่ปุ่น กับเกาหลีนั้น ผมแนะนำให้ลองหามาดูกันครับ หนังไม่ได้สมบูรณ์แบบแต่มุมมองและเจตนาของผู้กำกับที่นำสิ่งต่างๆ มาใช้ในหนังเรื่องนี้ เป็นสิ่งที่น่าศึกษายิ่ง…

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.50 / 6.00


VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 1.8/5 (4 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies P - R Tagged with: , , ,

One Missed Call 2 (2005) สายไม่รับ ดับสยอง ภาค 2
December 15th, 2012 by ฟิล์มสยอง
One Missed Call 2 (2005) สายไม่รับ ดับสยอง ภาค 2

One Missed Call 2 (2005) สายไม่รับ ดับสยอง ภาค 2

One Missed Call 2 (Chakushin ari2) (2005)
สายไม่รับ…ดับสยอง 2
นำแสดง: Mimura(Kyoko), Yu Yoshizawa(Naoto), Asaka Seto(Takako), Renji Ishibashi (Motomiya), Peter Ho (You Ting)
กำกับ: Renpei Tsukamoto
เขียนบท: Minako Daira
ประเภท: Horror

One Missed Call 2 (2005) สายไม่รับ ดับสยอง ภาค 2

One Missed Call 2 (2005) สายไม่รับ ดับสยอง ภาค 2

เรื่องนี้ ลุง Takashi Miike ไม่ได้กำกับครับ แต่เป็นผลงานการกำกับของ Renpei Tsukamoto ซึ่งผู้กำกับคนนี้ กำกับหนังมาหลากหลายแนวทางเหลือเกินไม่ว่าจะเป็น Drama, Horror จนถึงหนังวัยรุ่นให้แง่คิดอย่างเรื่อง Dragon Sakura หรือชื่อไทย “นายซ่า ท้าเด็กแนว” หนังทีวีซีรีย์ที่ทางไอทีวีนำมาฉายและเพิ่งจบไปไม่นานนี้เอง ต้องขอชมว่าเขาเป็นผู้กำกับมากความสามารถในหนังหลากหลายรูปแบบ แต่ไม่ถึงเป็นปรมาจารย์หนังคัลต์ในแขนง Horror คุณจะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนในหนังของ Takashi กับ Renpei หนังของ Takashi จะกำกับได้ออกมาในมุมมองที่อึดอัด การตัดภาพย้อนไปย้อนมา ไปจนถึงฉากแหวะทั้งการฆ่าไปจนถึงผีในมุมมองของ Takashi ทำออกมาได้รุนแรงและสยอง ในขณะเดียวกัน หนัง Horror ที่ Renpei กำกับนั้นจะมีแนวทางของ Drama หรือ Romantic เข้ามาผสมด้วย (ในทุกเรื่องที่เขาเคยกำกับมา) ใน One Missed Call ภาคสองนี้ก็เช่นกัน ดูไปดูมาจนถึงตอนจบ ยังนึกว่านั่งดูหนัง Romance Drama สุดเศร้าผสม Horror ยังไงยั้งงั้นเลยทีเดียว จะว่าไปแล้วก็เป็นหนัง Horror อีกแบบที่ไม่ค่อยมีผีคลานหน้าขาวยั้วเยี้ยเต็มไปหมดทั้งเรื่อง

ใน One Missed Call 2 แทบจะไม่ค่อยมีฉากเลือดสาด แหวะ สยองเท่าในภาคแรก แต่กลับมีการเล่นบทบาทของตัวละครกับช่วงเวลาได้อย่างน่าสนใจ รวมถึงมุมมองของการ เสียสละ ความรักที่มีให้กันจนยอมตายแทนได้…นี่แหละคือความสามารถของ Renpei

เวลาหนึ่งปีผ่านไป หลังจากที่หลายคนรู้จัก “โทรศัทพ์มรณะ” ผ่านรายการโทรทัศน์ในภาคแรกแล้ว เหตุการณ์กลับมาเกิดขึ้นอีกครั้งในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ด้วยโทรศัพท์ Missed Call ที่ผู้รับกดรับแล้วต้องเสียชีวิต หนังนำเอานักสืบอาวุโสโมโตมิยะในภาคแรกเป็นตัวละครเชื่อมต่อหนังทั้งสองภาค หนังเริ่มเฉลยข้อสงสัยในภาคหนึ่ง ทั้งเรื่องของยูมิในฉากสุดท้ายที่ถือมืดยืนอยู่ข้างเตียงของพระเอกที่หลายคนคิดว่าเรื่องราวคงจะจบไปด้วยดีแต่อาจจะไม่เป็นอย่างที่คุณคิดก็เป็นได้ จนถึงภูมิหลังทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเด็กผีที่ทำร้ายน้องสาวตัวเอง ตัวหนังพยายามผูกเรื่องให้เห็นที่มาทั้งหมดในภาคแรกไปจนถึงสาเหตุของเรื่องราวความโกรธแค้นทั้งหมดที่มีที่มาจากไต้หวัน ในหมู่บ้านเหมืองแร่ ต้นตอความโกรธแค้นทั้งหมดมีมาจากเด็กคนหนึ่งที่มีพรสวรรค์รับรู้ว่า “ใครจะตายภายในกี่วัน” ไอ้พรสวรรค์ที่ว่าเนี่ย มันเกิดมาจากว่า ในหมู่บ้านมีโรคระบาด และสาวน้อยคนนี้แหละ พอจะรู้ว่าภายในกี่วันใครจะต้องตาย คนในหมู่บ้านไม่เชื่อเรื่องโรคระบาด กลับไปคิดว่า คำพูดที่ออกจากปากของเด็กคนนี้เป็นคำสาปมรณะที่เมื่อไร สาวน้อยพูดขึ้นมาว่าใครจะตาย แล้วคนคนนั้นจะต้องตายจริง…และนี่แหละคือสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมดทั้งภาค 1 และภาค 2 หนังพยายามผูกคนทั้งหมดเกี่ยวเข้าด้วยกัน ให้เห็นว่า หนังมีน้ำหนักในความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครทั้งหมด

หนังเพิ่มความซับซ้อนจากการรับโทรศัทพ์ที่มีเสียงริงโทนมรณะแล้วคนรับจะต้องตายในภาคแรก มาเป็นเรื่องราวที่ว่า ริงโทนที่ดังมาที่โทรศัพท์ไม่จำเป็นต้องเป็นมือถือของตนเอง หากแต่ใครก็ตามที่รับโทรศัพท์ต้องตาย และตรงจุดนี้เอง Renpei นำมาเป็นจุดสำคัญในการพลิกเรื่องตอนจบที่มีการเสียสละชีวิตเพื่อคนรัก

ดูได้เรื่อยๆ ครับ สำหรับภาคสอง เป็นเหมือนหนังเฉลยเรื่องราวใน One Missed Call ทั้งหมด ใครที่หวังจะให้มีฉากผวา ซาดิสม์ สะดุ้งถี่ยิบอย่างในภาคแรก อาจจะต้องผิดหวังกันบ้าง ใครสนใจลองหามาดูได้…

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.50 / 6.00


VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 3.0/5 (1 vote cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies M - O Tagged with: , , , ,

One Missed Call (2003) สายไม่รับ ดับสยอง ผลงานจาก Takashi Miike
December 15th, 2012 by ฟิล์มสยอง
One Missed Call (2003) สายไม่รับ ดับสยอง ผลงานจาก Takashi Miike

One Missed Call (2003) สายไม่รับ ดับสยอง ผลงานจาก Takashi Miike

One Missed Call (Chakushin ari)(2003)
สายไม่รับ…ดับสยอง
นำแสดง: Kou Shibasaki (Yumi Nakamura), Shinichi Tsutsumi (Hiroshi Yamashita), Mariko Tsutsui (Mizunuma Marie), Kazue Fukiishi (Natsumi Konishi), Atsushi Ida (Kawai Kenji), Renji Ishibashi (Motomiya Detective), Goro Kishitani (Oka), Yutaka Matsushige (Fujieda Ichiro), Anna Nagata (Okazaki Yoko)
กำกับ: Takashi Miike
เขียนบท: Yasushi Akimoto, Minako Daira
ประเภท: Horror

One Missed Call (2003) สายไม่รับ ดับสยอง ผลงานจาก Takashi Miike

One Missed Call (2003) สายไม่รับ ดับสยอง ผลงานจาก Takashi Miike

“เขาเล่ากันว่า…
มีผู้หญิงคนหนึ่งตาย เพราะความเครียดแค้นชิงชัง…
เธอจะคืบคลานมาหาเราผ่านมือถือ…
จากหน่วยความจำหนึ่งไปสู่หน่วยความจำหนึ่ง…
ไปสู่คนต่อๆ ไป…”

คุณจะรู้สึกอย่างไรบ้าง ถ้ามีโทรศัพท์ที่ขึ้นชื่อตัวของคุณเองโทรเข้ามา ทิ้งเป็น Missed Call ไว้ และเมื่อคุณกดฟังข้อความนั้น กลับกลายเป็นเสียงของตัวคุณเอง และเป็นเสียงในอนาคตที่เป็นสัญญาณเตือนบอกว่า ‘คุณกำลังจะตาย!’

หนังเริ่มด้วยภาพของการสังสรรค์ชี้ให้เห็นความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่กำลังจะจัดทริปไปเที่ยว พร้อมกับการแลกเบอร์มือถือกันไว้ ระหว่างการสังสรรค์โทรศัพท์ของสาวในกลุ่มดังขึ้น พร้อมด้วยเสียงริงโทนที่เธอไม่เคยได้ตั้งเอาไว้ เสียงริงโทนดังจนหยุดไปและขึ้นข้อความ ‘missed call’ – ‘สายที่ไม่ได้รับ’ เมื่อสาวในกลุ่มกดฟังข้อความเสียงนั้น ปรากฏว่าเป็นเสียงของตัวเธอเองที่กำลังประสบความหายนะอยู่ และที่สำคัญข้อความที่ถูกส่งมานั้น ระบุวันที่อีกสามวันข้างหน้า…ความตายเริ่มคืบคลานไปสู่ผู้ที่มีชื่อในโทรศัพท์มือถือที่เกี่ยวข้องกัน และเมื่อมี Missed Call เข้ามาด้วยเสียงริงโทนสุดสยองนั้นแล้ว เขาผู้นั้นจะต้องตาย!

หลังจากดูหนังเรื่องนี้จบ หลายคนคงตั้งข้อสงสัยในหลายๆ เรื่อง หรืออาจจะคิดว่าหนังไม่ค่อยมีเหตุผลในเหตุการณ์หลายๆ ตอน ผมก็เป็นคนนึงที่คิดเช่นนั้นเหมือนกัน อย่างแค่ตอนจบที่ยูมิถือมีดยืนอยู่ข้างเตียงของยามาชิตะ พระเอกผู้ซึ่งตามหาความจริง เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับน้องสาวของเขาเองด้วย ยูมิก้มลง และคายลูกอมเม็ดสีแดงกลมโตให้ ยามาชิตะอมลูกอมและยิ้ม ซาวนด์ประกอบก็เปลี่ยนเป็นเพลงดนตรีสดใส ราวกับว่าเรื่องราวร้ายๆ ได้ผ่านพ้นไปแล้วนั้น…หลายคนคงนึกว่าเป็นอย่างงี้หรือเปล่าครับ ถ้าใช่..คุณอาจคิด ผิดครับ หากได้ดู One Missed Call : 2 ที่จะเฉลยข้อกังขา และความข้องใจในหลายๆ เรื่องได้ ยังไงลองหามาดูภาคสองด้วยละกัน

หนังเรื่องนี้ได้นางเอกมากความสามารถ ‘Shibasaki Kou’ เจ้าบทบาทแห่งหนังโคตรโหดอย่าง Battle Royal และพระเอกในเรื่องนี้เราคงคุ้นหน้ากันเพราะเป็นตัวนำในละครซีรีย์ญี่ปุ่นที่ชื่อ GoodLuck ซีรีย์ชื่อดังที่ไอทีวีนำมาฉาย เรียกว่านักแสดงในเรื่องมีส่วนช่วยให้ตัวหนังแข็งแรง และน่าดูมากยิ่งขึ้น

มาดูในส่วนของผู้กำกับหนังเรื่องนี้กันบ้าง…ลุง Takashi Miike ผู้กำกับหนังคัลต์ที่ทำหนังได้โรคจิตไม่เสื่อมคลายมารับหน้าที่กำกับหนังเรื่องนี้ ในเรื่องนี้ MinaKo Daira และ Yasushi Akimoto เขียนบท โดยใช้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่กลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของคนเรา นั่นคือ โทรศัพท์มือถือ มาเป็นตัวดำเนินเรื่อง ลุง Takashi แกมีเอกลักษณ์ในแผ่นฟิล์มดีครับ ดูแล้วได้อารมณ์ ราวกับมีลายเซ็นบนแผ่นฟิล์มอย่างไงอย่างงั้น สิ่งหนึ่งที่ลุง Takashi ชอบใช้ในหนังของแก คงไม่พ้น เรื่องราวที่มีอดีต เรื่องของการกดขี่เพศหญิง ความสัมพันธ์แบบวิปริตของครอบครัว และเรื่องนี้ก็เช่นกัน “ความรู้สึกแย่ๆ ที่มีต่อแม่” คือ สิ่งที่ยูมิ และผีเด็กที่มีความรู้สึกเดียวกัน การสื่อสารและจิตใต้สำนึกสามารถสื่อเข้าถึงกันได้…ลุง Takashi แกทำหนังเอาคนงงได้ไม่น้อยจากจุดตรงนี้…เรียกว่าหนังมันสามารถจินตนาการออกมาได้หลายรูปแบบครับ ลองคิดเล่นๆ กันไปก่อน และหาภาคสองมาดู น่าจะเฉลยข้อสงสัยหลายๆ อย่างได้ เห็นทางฮอลิวูดมีโครงการจะนำหนังเรื่องนี้มารีเมคกันด้วย คาดว่าถ้าทำออกมาจะเสร็จในปี 2007 นี้ ก็คงเหมือนหนังญี่ปุ่นหลายๆ เรื่องที่ถูกนำไปทำใหม่ในเวอร์ชั่นของฮอลิวูด คงต้องรอติดตามดูกันต่อไปครับ …


“พี่ชายคะ…คนแต่ละคนมีชะตาเป็นของตัวเอง” คำพูดที่เสมือนคีย์เวิร์ดของหนังเรื่องนี้ ก็ว่าได้ครับ…

อัพเดท 15/12/2012: ผมรีวิวหนังเรื่องนี้สักประมาณปี 2006 ได้นะครับ ก่อนหน้านี้ที่เขียนว่ามีข่าวว่าฮอลิวู้ดจะซื้อหนังเรื่องนี้ ก็เป็นไปตามนั้นนะครับ มีการซื้อและทำออกมาในฉบับฮอลิวู๊ดในปี 2008 ที่ผ่านมานี่เอง ใครได้ดูฉบับฮอลิวู้ดแล้ว ก็แสดงความคิดเห็นกันหน่อยครับว่าเป็นยังไงบ้าง เพราะผมยังไม่ได้ดูเลย ไว้มีโอกาสได้ดูจะนำมาเขียนให้ได้อ่านกันต่อไปครับ

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 4.00 / 6.00


VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 4.7/5 (3 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies M - O Tagged with: , , , , , ,

The Nun (2005) หนังผีแม่ชีสเปน!
December 12th, 2012 by ฟิล์มสยอง
The Nun (2005) หนังผีแม่ชีสเปน แค้นนี้ต้องชำระ

The Nun (2005) หนังผีแม่ชีสเปน แค้นนี้ต้องชำระ

The Nun (2005)
La monja
นำแสดง: Belen Blanco (Julia), Oriana Bonet (Eulalia), Anita Briem (Eva), Tete Delgado (Cristy), Natalia Dicenta (Susana), Alistair Freeland (Joel), Manu Fullola (Gabriel), Paulina Galvez (Zoe), Lola Marceli (Mary), Cristina Piaget (The Nun), Montse Pla (Joana)
กำกับ: Luis De La Madrid
เขียนบท: Jaume Balaguero, Manu Diez
ประเภท: Horror

The Nun (2005) หนังผีแม่ชีสเปน!

The Nun (2005) หนังผีแม่ชีสเปน!

เรื่องย่อ: กลุ่มนักเรียนหญิงวัย 15 ปี 6 คนต้องทนทุกข์อยู่ในโรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง แต่ละวันพวกเธอต้องเผชิญกับแม่ชีที่ทั้งคุกคามและปฏิบัติต่อพวกเธออย่างทารุณ วันหนึ่งแม่ชีคนนั้นพบว่านักเรียนคนหนึ่งในกลุ่มตั้งท้อง เธอรู้สึกอับอายมาก และพยายามจะชำระความบริสุทธิ์ให้ เพื่อนๆของนักเรียนสาวคนนั้นเห็นเธอทรมาน ด้วยความกลัวระคนโกรธแค้น ทั้งหกจึงตัดสินใจช่วยเพื่อนเอาไว้ หลังจากวันนั้นก็ไม่มีใครเห็นแม่ชีคนนั้นอีกเลย และไม่กี่สัปดาห์โรงเรียนแห่งนั้นก็ถูกปิด

…17 ปีต่อมา นักเรียนสาว 6 คนนั้นต่างก็มีชีวิตของตนเอง พวกเธอสร้างชีวิตใหม่โดยไม่ติดต่อกันเลย เพราะต่างก็หวังว่าความลับครั้งนั้นจะถูกฝังไว้ในอดีตตลอดกาล แต่แล้วคืนหนึ่ง 1 ใน 6 ของกลุ่มนั้นก็ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม ไม่กี่วันถัดมาอีกคนหนึ่งก็กลายเป็นศพในสภาพที่สยดสยองไม่แพ้กัน หญิงสาวที่เหลือเริ่มคิดว่าการตายของเพื่อนๆอาจมีบางอย่างเกี่ยวพันกัน และหากเป็นเช่นนั้น ชีวิตของพวกเธอก็กำลังตกอยู่ในอันตราย ทั้งหมดจึงจำต้องกลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อหาทางหยุดวิญญาณแม่ชีตนนี้ก่อนที่พวกเธอจะกลายเป็นศพต่อไป เพราะทุกคนรู้ดีว่าแม่ชีตนนั้นกลับมาแล้ว และกำลังออกแก้แค้น…

…ทางเดียวที่จะหยุดเรื่องราวนี้ได้ก็คือต้องกลับไปยังจุดเริ่มต้น นั่นก็คือ โรงเรียนประจำแห่งนั้น อีวา คือ สาวน้อยวัย 17 ปี ที่สูญเสียแม่ไปจากการออกล้างแค้นของผีแม่ชี เธอร่วมมือกับเพื่อนๆ หาทางหยุดความคลั่งของแม่ชีตนนี้ แต่การออกตามหาความจริงครั้งนี้กลับทำให้เธอได้ค้นพบอดีตอันดำมืดและน่ากลัวของตนเอง

แม่ชีสเปน…
กำลังคิดอยู่ว่า แม่ชีสเปน จะเหมือนแมลงวันสเปนด้วยหรือเปล่า? (ไม่ได้เกี่ยวกันเลย) หนังแม่ชีจากสเปนเรื่องนี้สร้างในปี 2005 ครับ แต่บ้านเราเอามาฉายกันเมื่อประมาณต้นปี 2006 (ถ้าจำไม่ผิด) โดยมงคลเมเจอร์ ผีแม่ชี ถูกเขียนบทภาพยนตร์โดย Jaume Balaguero ผู้ซึ่งเคยฝากผลงานสุดตราตึงไว้ให้เราชมแล้วกับเรื่อง The Nameless หนัง Horror สุดคลาสสิกเมื่อปลายยุค 90 จนมาถึง Darkness หนัง Horror อีกเรื่องที่เขารับหน้าที่ทั้งเขียนบทและกำกับ นอกจากนั้น หนังที่เข้าฉายบ้านเราในเดือนพฤศจิกายน ปี 2006 เรื่อง Fragiles ก็เป็นผลงานการเขียนบทของเขาด้วยเช่นกัน (ที่จริงเรื่องนี้ สร้างในปี 2005 ครับ) และ The Nun ยังเป็นผลผลิตอีกชิ้นของ Brian Yuzna (ในหนัง ฉากที่อยู่บนเครื่องบิน ที่ Eve กำลังเดินทางไปสเปน และได้ดูหนังของ Brian Yuzna บนเครื่องบินด้วย…กลัวเขาไม่รู้กันหรือไงว่า นี่เป็นหนังของ พี่ Yuzna อิ อิ) ที่สร้างชื่อจากการกำกับหนัง The Dentist, หนังตระกูล Re-Animator และหนัง Horror อีกหลายเรื่อง…จะว่าไปนี่คือ เหตุผลที่ผมหยิบหนังผีแม่ชี มาดูครับ เพราะเท่าที่อ่านเรื่องย่อมาตั้งแต่หนังเข้าฉาย แล้วก็ไม่ได้ดึงดูดอะไรให้อยากดูเลย…

แล้วก็เป็นอย่างที่คาดครับ ตัวหนังไม่ได้มีอะไรหวือหวา ฉากน่ากลัวก็ไม่ได้น่ากลัว หรือ หลอกหลอน กดดันอย่างอึดอัด ตัวหนังกลับทำได้เชื่องช้า ผีแม่ชีที่ถูกกดน้ำตาย ก็จะปรากฏตัวโดยผ่านสื่อทางน้ำ เหมือนได้แรงบันดาลใจจากหนังผีเอเซียบ้านเราในหลายๆ เรื่อง ที่ผีปรากฏตัวผ่านสื่อตัวกลางทาง ‘น้ำ’ และก็ไม่ได้ขายความรุนแรง และเรื่องทางเพศในแบบหนังจำพวก Nunsploitation ชอบใช้อีกด้วย

จุดดีจุดเดียว น่าจะเป็นในเรื่องของบทภาพยนตร์ การนำความเชื่อทางศาสนา ในเรื่องบาปมาเชื่อมโยงโดยผ่านชื่อของตัวเอกในเรื่องทั้ง 6 คน กับลีลาการตายที่แตกต่างกัน ตามเรื่องเล่าทางศาสนา ที่กลายมาเป็นจุดพีคของเรื่อง…

หนังไม่ได้ให้ลุ้นอะไรมากครับ มีตอนจบที่หักมุมด้วยคำเฉลยของหนุ่มที่เป็นแฟนเพื่อนนางเอกคนนึง ที่ไม่รู้ว่าอยู่ดี ๆ เกิดฉลาดปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างลงตัวทั้งหมดได้อย่างไรกัน หรือว่า หนังต้องการหักมุมให้จบลงซะงั้น ดื้อ ๆ ก็ว่าได้ ใครอยากดู แม่ชีผีสเปน ก็ลองไปหาซึ้อ ดีวีดี วีซีดี ที่ขายอยู่เกลื่อนตามบ้านเราได้ครับ มีลิขสิทธิ์ออกมาให้ได้สะสมกัน

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 2.00 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 2.8/5 (5 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies M - O Tagged with: , , , , ,

the House that Screamed (2000) หนังสยองขวัญ หนังผี
November 11th, 2012 by ฟิล์มสยอง
House That Screamed (2000) หนังสยองขวัญ หนังผี

House That Screamed (2000) หนังสยองขวัญ หนังผี

the House That Screamed (2000)
บ้านผีหวง
นำแสดง: Bob Dennis, Robert Thomas, Steven Anselmi
กำกับ และ เขียนบท: John Polonia, Mark Polonia
ประเภท: Horror, Ghost, Suspense

the House that Screamed (2000) หนังสยองขวัญ หนังผี

the House that Screamed (2000) หนังสยองขวัญ หนังผี

“เรื่องสยองขวัญที่คุณอาจเจอ…โดยไม่จำเป็นต้องมีความเชื่อ” คำโปรยบทหน้าปกแผ่นวีซีดีเรื่อง “บ้านผีหวง” ครับ
สำหรับใครที่ชอบค้นกระบะวีซีดี ดีวีดีตาม Big C, Tesco คงจะทราบครับว่ามีหนังเจ๋งๆ หลายเรื่องที่ถูกนำมาทำลงกระบะหนังราคาถูกบ้านเราอยู่มากมายหลายเรื่อง
เรื่องไหนที่ไม่รู้จักก็สุ่มหยิบเอาบ้าง อ่านคำโปรยหน้าปกดูบ้าง the House that Screamed ก็อ่านจากคำโปรยนี่แหละครับ ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน
จะว่าไปแล้วคำโปรยบทหน้าปกแผ่นวีซีดี/ดีวีดีของภาพยนตร์เนี่ย ถ้าเขียนให้น่าสนใจได้มากเท่าไร ก็ทำให้คนดูอย่างซื้อไปดูมากเท่านั้น โดยเฉพาะภาพยนตร์ที่ไม่ได้ฉายตามโรงหนังทั่วไป ที่เป็นภาพยนตร์ฮอลิวู๊ดทุนสร้างหลายร้อย หลายพันล้านบาท และโดยเฉพาะคนประเภทเดียวกันกับผม ที่คอยเสาะหาหนังแปลกๆ มาดู

กลับมาพูดกับถึงเรื่อง House That Screamed กันต่อ ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเรื่องราวพล๊อตเรื่องเดิม ๆ ที่หลาย ๆ เรื่องใช้ นั่นคือ ใช้บทบาทของนักเขียนนวนิยายสยองขวัญเป็นตัวดำเนินเรื่องราวทั้งหมด สำหรับในเรื่องนี้ มีนักเขียนนวนิยายสยองขวัญชื่อ มาร์ตี้ ( Bob Dennis) ต้องการให้ได้บรรยากาศในการเขียนเรื่องราวสยองขวัญให้สมจริงมากที่สุด จึงหาบ้านเช่าที่มีคนลือกันว่ามีผีสิง ทั้ง ๆ ที่ตัวเขาเองไม่เคยเชื่อเรื่องผีเลย เขาจึงไม่มีความกลัวในการที่จะอยู่บ้านหลังนี้ พูดมาถึงตรงจุดนี้แล้ว หลาย ๆ คนคงจะเดาเรื่องราวออกกันแล้วนะครับ…แน่นอน พล๊อตเรื่องเดิม ๆ ที่เจ้ามาร์ตี้ นักเขียนนวนิยายต้องเจอเรื่องราวแปลกประหลาด ภาพหลอน รวมไปถึงสิ่งที่ถูกเรื่องว่าผี ตามหลอกหลอน…เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรนั้น ใครสนใจก็ลองไปหาซื้อมาดูละกัน

หนังเรื่องนี้ทำออกมาในปี 2000 ครับ ถ้าใครได้อ่านเนื้อเรื่องคร่าวๆ น่าจะนึกถึงภาพยนตร์อย่าง 1408 หนังผีสยองขวัญที่ได้ดารานำอย่าง John Cusack และ Samuel L. Jackson นำแสดง หนังเรื่อง 1408 ทำออกมาในปี 2007 เนื้อหาไม่ได้แตกต่างไปจาก the House that Screamed เลย ไม่แน่ใจว่าได้รับแรงบันดาลใจจากพล็อตของเรื่องนี้หรือไม่ ยังไงก็ลองไปพิสูจน์กันเอานะ

สำหรับตัวผมเอง ค่อนข้างจะผิดหวังกับ the House that Screamed พอสมควรเลย…การตัดต่อภาพ การดำเนินเรื่องเป็นไปด้วยความขัดแย้งและไม่ลื่นไหล บทหนังเดิมๆ ที่ดูแค่สิบนาทีแรกก็พอจะเดาเรื่องทั้งหมดได้อย่างไม่น่าแปลกใจ เมื่อยิ่งได้รู้ว่าเรื่องนี้ถูกกำกับและเขียนบทโดยนาย John Polonia ทำให้นึกถึงหนัง Terror House ในปี 1998 ที่เขาเคยสร้างโดยใช้บ้านผีเป็นตัวเอกของเรื่องมาแล้ว หนังไม่ได้มีการพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงแตกต่างไปจากเดิมเลย ผมว่าหนังใหม่ๆ ของ Polonia คงจะมีพัฒนาการมากขึ้นกว่าเก่า คงต้องรอคอยติดตามดูกันต่อไปครับ สำหรับผู้กำกับและผู้เขียนบทคนนี้

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 1.50 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 2.5/5 (4 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: , , ,

House on Haunted Hill (1999) หนังผี หนังสยองขวัญ
November 11th, 2012 by ฟิล์มสยอง
House on Haunted Hill (1999) หนังผี หนังสยองขวัญ

House on Haunted Hill (1999) หนังผี หนังสยองขวัญ

House on Haunted Hill (1999)
นำแสดง: Geoffrey Rush (Stephen H. Price), Famke Janssen (Evelyn Stockard-Price), Taye Diggs (Eddie Baker), Peter Gallagher (Donald W. Blackburn, M.D.), Chris Kattan (Watson Pritchett), Ali Larter (Sara Wolfe), Bridgette Wilson (Melissa Margaret Marr), Max Perlich (Carl Schecter), Jeffrey Combs (Dr. Richard Benjamin Vannacutt)
กำกับ: William Malone
เขียนบท: Robb White (story) และ Dick Beebe (screenplay)
ประเภท: Horror/Thriller

House on Haunted Hill (1999) หนังผี หนังสยองขวัญ

House on Haunted Hill (1999) หนังผี หนังสยองขวัญ

หนังที่นำเอาเนื้อเรื่องของ Robb White นักเขียนผู้นิยมเรื่องราวของภูติผีปีศาจชนิดเข้าใส้ ผลงานของเขาถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์สยองหลายๆ เรื่อง และเรื่องนี้ก็เช่นกัน…เรื่องราวนี้เคยถูกนำไปสร้างเป็นหนังขาว – ดำในปี 1959 มาแล้ว นักวิจารณ์ภาพยนตร์สยองยกย่องให้หนังในปี 1959 เป็นต้นแบบหนังจำพวก “บ้านสยอง” ทั้งหลายแหล่ ในยุค 90’s เรื่องราวนี้ถูกหยิบขึ้นมาปัดฝุ่นสร้างใหม่อีกครั้งในปี 1999 โดยผู้กำกับ William Malone (ผู้กำกับ FearDotCom) รับหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่ White เขียน…

เรื่องย่อ…
มหาเศรษฐื Price เจ้าของสวนสนุกสุดเสียว เพี้ยน สยอง จัดงานวันเกิดให้กับ Evelyn ภรรยาสาวสวยสุดเซ็กส์ซี่ ที่นิยมความวิปริตจิตไม่ปกติของเขา Evelyn เห็นสถานที่แห่งหนึ่งจากในทีวี สถานที่ที่เหมาะกับการจัด Party ของเธอ Price และ Evelyn ได้เลือกสถานที่ที่เป็นสถาบันสำหรับฆาตรกรโรคจิต สถาบันที่เคยเป็นที่ทดลองทางการแพทย์ที่น่ากลัวสุดสยอง สถานที่ที่บริหารงานโดยนายแพทย์วิกลจริตชื่อว่า Dr. Vannacutt สถานที่ที่มีชื่อว่า Vannacutt Psychiatric Institiution

ในขณะที่ Price กำลังพิมพ์รายชื่อของแขก Private ที่เขาและภรรยาต้องการเชิญมาร่วมปาร์ตี้นี้ด้วย หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่มีรายชื่อแขกของ Price ก็ถูกลบออกไป และดูเหมือนว่า คอมพิวเตอร์กำลังพิมพ์รายชื่อแขกให้ใหม่!…รายชื่อที่มีใครสักคนต้องการให้ไปรวมตัวกัน…รายชื่อที่เฉพาะเจาะจง!

แขกทั้งหมดเดินทางมาถึงอาคารที่จัดงาน Priceและภรรยางงมากที่มีแต่แขกที่เขาไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า ส่วนบรรดาแขกที่มีบัตรเชิญเข้างานก็งงเช่นกันว่า ทำไมถึงถูกเชิญให้มางานนี้ Price เองก็ไม่ปฏิเสธการจัดปาร์ตี้ เขาจึงได้ตั้งรางวัลก้อนโตถึง $1,000,000 สำหรับผู้ที่อยู่ค้างคืนที่นี่ได้จนถึงเช้า…แขกผู้ร่วมงานนึกถึงเงินก้อนโต ก็ไม่ปฎิเสธที่จะอยู่เล่นเกมส์ ความหายนะสยองขวัญจึงได้เริ่มต้นขึ้น ความลับในสถาบันโรคจิตแห่งนี้มี อะไรซ่อนอยู่ ใต้ผนัง เพดาน อาคาร มีอะไรซ่อนอยู่…เชิญคุณค้นหาได้เลย!

ไม่ขำ!…สยองตามมาตรฐาน
ผมเห็นหนังที่มีผีเดินเรื่องอยู่ในบ้านสยอง โรงพยาบาลสยอง อาคาร ตึกสยอง มาก็หลายเรื่อง ส่วนใหญ่ถ้าไม่เน้นสยองตลกโปกฮา ก็ออกแนวไร้สาระ ไร้เหตุผลและน้ำหนักของหนังไปเลย ไม่ค่อยจะเจอไอ้ที่มันสยอง และเดินเรื่องได้น้ำหนักเท่าไรนัก…แต่เรื่องนี้ทำได้ดีครับ House on Haunted Hill ในฉบับของปี 1959 (หนังขาว-ดำ) ที่เคยดูนั้น ถูกยกย่องให้เป็นหนังคัลต์อย่างที่ผมเกริ่นไว้ในช่วงแรก ซึ่งสำหรับผมแล้วรู้สึกว่าหนังเดินเรื่องแบบไม่ค่อยกระชากอารมณ์สยองเท่าไร มีเพียงหน้าตาของ Price ที่ไม่รู้ตั้งใจเลือกนักแสดงให้หน้าเหมือนกันหรือเปล่า หน้าของ Frederick Loren กับ Geoffrey Rush หน้าตาคล้ายกันมากทีเดียว หนังในเวอร์ชั่นใหม่ทำได้สยองน่าติดตามดีไม่แพ้เวอร์ชั่นเก่า แต่กระตุกอารมณ์สยองได้มากกว่าเวอร์ชั่นเก่าครับ อาจจะเนื่องด้วย ภาพสี เทคนิค ความทันสมัยจึงทำให้ออกมาดูดีมีสีสัน

ใครที่นิยมความสยอง ดูเรื่องนี้ก็คงไม่ผิดหวัง ความวังเวงและ อารมณ์ของสถานที่ สร้างสถานการณ์ได้น่าติดตาม ฉากโหดๆ มีอยู่ให้เห็นเป็นระยะๆ บทถูกเขียนให้เห็นถึงอารมณ์วิปริตและสันดานดิบที่มีอยู่ในมนุษย์ทุกคน..ผมว่า White เขียนเรื่องดี และ Malone ก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีทีเดียว

หนังชนะเลิศรางวัล Blockbuster Entertainment Award สาขา Favorite Supporting Actor – Horror (Taye Diggs) ในปี 2000 และได้เข้าชิงรางวัล Golden Trailer ในปี 2001 ด้วย ใครที่เบื่อกับหนังจำพวก “บ้านสยอง” ก็ลองหาหนังเรื่องนี้มาดูได้นะ..ผมว่าอาจเปลี่ยนทัศนคติของคุณได้ไม่น้อย…หนังในแบบ “บ้านสยอง” ดีๆ ก็มีให้เห็นอยู่เหมือนกันครับ

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 4.00 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 3.8/5 (4 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: , , , ,

Bunshinsaba (2004)
September 22nd, 2012 by ฟิล์มสยอง
Bunshinsaba (2004)

Bunshinsaba (2004)

Bunshinsaba (2004)
บุนชินซาบา ผีแค้น
นำแสดง: Kim Gyu-Ri, Lee Se-Eun, Lee Yu-Ri, Choi Seong-Min, Choi Jeong-Yun, Ha Ji-Won, Lee Eung-Gyeong, Eun Seo-Wu, Lee Byeong-Wuk
กำกับและเขียนบท: Ahn Byueong-ki
ประเภท: Horror/Drama

Bunshinsaba (2004)

Bunshinsaba (2004)

เรื่องย่อ…
“เรื่องราวการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นกับแม่และลูกสาวตาบอดคู่หนึ่งเมื่อ 30 ปีที่แล้ว โดยผู้เป็นแม่พยายามที่จะเลี้ยงลูกสาวให้สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างเป็นปกติสุขเฉกเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ หากบรรดาชาวบ้านต่างก็กลับกล่าวหาว่าเธอเป็นแม่มดและปีศาจที่ชั่วร้ายพร้อมทั้งจัดการจับสองแม่ – ลูกเผาทั้งเป็น แต่ก่อนที่เธอจะหมดลมหายใจเธอก็เปล่งคำสาปแช่งให้ทุกคนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ต้องพบกับความวิบัติ เพื่อชดใช้หนี้กรรมที่ผู้อื่นได้ก่อเอาไว้กับเธอ…

อุนจู เป็นครูสอนวิชาศิลปะที่พบกับเหตุการณ์ประหลาดตั้งแต่วันแรกที่มาถึงโรงเรียนแห่งนี้ เธอสัมผัสได้ถึงดวงวิญญาณของเด็กนัก เรียนที่เสียชีวิตไปแล้ว อีกทั้งยังต้องเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ประหลาดเมื่อจู่ ๆ ตัวเองต้องตกอยู่ท่ามกลางคำสาปแช่งซึ่งยากจะไถ่ถอน ยุนจิน เป็นเด็กนักเรียนที่เพิ่งย้ายมาจากกรุงโซล และถุกกลั่นแกล้งจากบรรดานักเรียนเจ้าถิ่นตั้งแต่วันแรกที่เดินทางมาเข้าเรียนแต่ที่ทำให้เธอแปลกใจยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเธอพบว่าบรรดาเพื่อนนักเรียนในชั้นของเธอถูกคำสาปที่กลายเป็นความจริงในเวลาต่อมา ดังนั้นเธอจึงเฝ้าเพียรพยายามที่จะค้นหาคำตอบก่อนที่เธอจะต้องกลายมาเป็นเหยื่อคนต่อไป อินซุคเริ่มปรากฏกายเมื่อยุนจินเริ่มลงมือประกอบพิธีบุนชินซาบ้า แท้ที่จริงนั้นอินซุคก็คือดวงวิญญาณที่ต้องการจะหลุดพ้นจากคำสาปแช่งที่เกิดขึ้นกับเธอเมื่อ 30 ปีที่แล้ว การตายของเธอเป็นดั่งความลับมืดดำ โดยที่ไม่เคยมีผู้ใดที่ล่วงรู้ถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับเธอ”

บุนชินซาบา ผีแค้น
หนังสยองที่ยังคงพล๊อตเรื่องแห่งการล้างแค้น ทำนองสิบปีแก้แค้นไม่สาย แต่ในเรื่องนี้ คงต้องพูดว่า 30 ปีแก้แค้นยังไม่สาย หนัง Horror ที่ดูแล้วอาจมีอาการ (แอบ) สงสารผีในเรื่องนี้พอควร จากการที่ถูกคนในหมู่บ้านทำร้าย กระทำชำเรา และขับไล่ อารมณ์ในแบบนี้แหละครับ ก่อให้เกิดเรื่องที่ว่าด้วยการล้างแค้น และเป็นต้นตอของหนังในแนวๆ นี้ทั้งนั้น Bunshinsaba ก็ยังหนีไม่พ้นครับ ยังคงเป็นแบบเดิมๆ เพียงแต่การดำเนินเรื่องเปลี่ยนรูปแบบมาใช้ การเล่น “Bunshinsaba” เรียกวิญญาณ การเล่นแบบนี้ก็คล้ายกับการเล่นผีถ้วยแก้วในบ้านเรานี่แหละครับ ในระหว่างการเล่นห้ามลืมตา หากลืมตาเมื่อไร ผีร้ายก็จะเข้าตัวทันที

Bunshinsaba กำกับโดย Ahn Byueong-ki ผู้กำกับที่สร้างผลงานสยองขวัญมาแล้วจากเรื่อง Gawi ในปี 2000 เรื่องนี้นี่เองเขาได้ร่วมงานกับ Kim Gyu-Ri , Choi Jeong-Yun และ Ha Ji-Won นักแสดงนำในเรื่อง Gawi คงจะมีการตัดใจฝีมือการแสดง จึงได้ชักชวนมาร่วมแสดงในเรื่อง Bunshinsaba กันอีกครั้ง นอกจากนักแสดงที่ขนมาจากเรื่อง Gawi แล้ว ก็ยังมีนักแสดงที่มาจากทีวีซีรีย์ชื่อดัง “แดจังกึม” ด้วยนะครับ ไม่แน่ใจว่ามีกี่คน แต่ที่แน่ๆ ตัวเอกในเรื่อง Lee Se-Eun (สาวน้อยนางในตัวร้าย ตาโต น่ารัก) สาวน้อยตาโตคนนี้แหละ มาจากซีรีย์ จังกึมด้วย
สำหรับผู้กำกับ Ahn Byueong-ki นับว่าเป็นผู้กำกับไฟแรงในหนังแนวสยองขวัญก็ว่าได้ ทั้ง Gawi ในปี 2000 จนถึง Phone ในปี 2002 จนถึง Bunshinsaba ปี 2004 ล้วนแล้วแต่เป็นการกำกับหนังสยองขวัญล้วนๆ ครับ คงต้องติดตามผลงานการกำกับของผู้กำกับหนังสยองเลือดโสมคนนี้กันต่อไปครับ เพราะกระแสหนังของเขาแต่ละเรื่อง นั้นกระแสตอบรับในเอเซียดีพอสมควรเลยทีเดียว

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.00 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 2.5/5 (4 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies A - C Tagged with: , , , ,

Clive Barker's Book of Blood ถลกหนังบัญญัติเลือด
September 17th, 2012 by ฟิล์มสยอง
Clive Barker's Book of Blood ถลกหนังบัญญัติเลือด

Clive Barker’s Book of Blood ถลกหนังบัญญัติเลือด

Book of Blood (2008)
Clive Barker’s Book of Blood, ถลกหนังบัญญัติเลือด
กำกับ: John Harrison
เขียนบท: John Harrison และ Darin Silverman นำมาจากหนังสือเรื่องสั้นสุดสยองของ Clive Barker ในชื่อ The Book of Blood
นำแสดง: Jonas Armstrong (Simon McNeal), Sophie Ward (Mary Florescu), Clive Russell (Wyburd), Paul Blair (Reg Fuller), Romana Abercromby (Janie)
ประเภท: Horror / Fantasy / Mystery

Clive Barker's Book of Blood ถลกหนังบัญญัติเลือด

Clive Barker’s Book of Blood ถลกหนังบัญญัติเลือด

เรื่องราวของ Mary Florescu ด็อกเตอร์และครูผู้สอนในเรื่องเหนือธรรมชาติ ที่พยายามค้นหาที่มาที่ไป และข้อพิสูจน์สิ่งเร้นลับมานานหลายปี เธอกับคู่หู Reg Fuller ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของอุปกรณ์พิสูจน์สิ่งเหนือธรรมชาติว่ามีอยู่จริงหรือไม่ ได้พบบ้านหลังหนึ่งที่มีประวัติเร้นลับที่น่าสนใจ เธอกับคู่หูได้ย้ายเข้าไปอยู่เพื่อพิสูจน์ บันทึกภาพและเฝ้าสังเกตการณ์ จนถึงการลองของในบ้านที่มีชื่อว่า Tollington!

การลองของของด็อกเตอร์ Mary เธอทำโดยการชักชวน Simon นักศึกษาหนุ่มในคลาสของเธอเอง นักศึกษาหนุ่มคนนี้มีภูมิหลังเกี่ยวกับการมองเห็นอนาคตที่น่าสนใจ ทำให้ Mary สนใจชักชวนให้ Simon มาร่วมพิสูจน์ลองของด้วย

เหตุการณ์กลับเริ่มซับซ้อนเมื่อด็อกเตอร์ Mary และนักศึกษาหนุ่ม Simon ไม่ใช่มีฐานะเป็นเพียงแค่เพื่อนร่วมงานกัน ทั้งคู่กลับมีใจให้กัน จนถึงไปความสัมพันธ์ลึกซึ้งดื่มด่ำ เท่านั้นยังไม่พอ ดอกเตอร์ Mary ได้ค้นพบความจริงที่ว่า สิ่งที่เธอคิดว่า Simon มีญาณพิเศษในการพิสูจน์สิ่งเร้นลับนั้น กลับกลายเป็นเรื่องแหกตา!

เรื่องราวของการพิสูจน์สิ่งเหนือธรรมชาติ กามอารมณ์ ตัณหาในความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์และลูกศิษย์ ไปจนถึงความลี้ลับของบ้าน Tollington ที่แท้จริงแล้วนั้น สถานที่แห่งนี้แหละ คือสี่แยกบนทางด่วนมรณะ จุดรวมวิญญาณหลากหลายเผ่าพันธุ์ที่จะคอยวนเวียนมา ณ บ้านหลังนี้เพื่อพยายามบอกเล่าเรื่องราวของพวก “มัน” ผ่าน “สื่อ” ใด ๆ ก็ตามที่เคราะห์ร้ายมาบรรจบพักพบในบ้าน Tollington!

เกร็ดเล็กน้อยสำหรับผู้กำกับ John Harrison
Book of Blood ผลงานของผู้กำกับ John Harrison ที่สร้างชื่อเสียงจากผลงานกำกับทีวีซีรีส์สยองสุดล้ำอย่าง Tales From The Darkside จนถึงในเวอร์ชันภาพยนตร์ที่มีชื่อเรียกว่า Tales from the Darkside: The Movie และเป็นผู้กำกับในหนังบางตอนของซีรีส์ Tales from the Crypt อีกด้วย (ในอดีตเขาคนนี้เคยทำงานเป็นผู้ช่วยผู้กำกับของเจ้าพ่อซอมบี้สยอง George A. Romero)

Book of Blood ถลกหนังบัญญัติเลือด
หนังเรื่องนี้เป็นหนัง “ผี” ที่มีเนื้อหาของการนำเรื่องของราคะ มุมมองของหนังระทึกขวัญ ดราม่าเข้ามาผสมปนเปกับหนังผีสยองขวัญ ไปจนถึงด้านมืดอันร้ายกาจของมนุษย์ที่เผยให้เห็นในตอนสุดท้ายของเรื่อง จะว่าไปหนังสยองขวัญเรื่องนี้เล่นกับอารมณ์คนดูในเชิงความเชื่อในเรื่อง “ผี” ผ่านทางบทของตัวละคร Simon นักศึกษาหนุ่มที่คอยปั่นหัวดอกเตอร์ Mary นักค้นคว้าเรื่องเหนือธรรมชาติ จน Simon โดนเรื่องเหนือธรรมชาติเล่นงานเข้ากับตัวเอง มิหนำซ้ำ ในตอนท้ายของเรื่องเผยให้เห็นถึงความสยองมืดดำในตัวของดอกเตอร์ Mary นั่นแลที่ร้ายกาจกว่า “ผี” ในเรื่องซะอีก

หนังในอารมณ์แบบเนิบๆ ไม่อุกอาจ คุมคามอารมณ์ของผู้ชม มุมมองของความสนุกในเรื่องนี้ คงหนีไม่พ้นเนื้อหาของเรื่องที่น่าติดตาม (หรือไม่ก็ชวนหลับ หากใครที่ไม่ชอบอารมณ์หนังแบบเนิบๆ) ส่วนในเรื่องของฉากสยองขวัญนั้น คงทำได้ไม่สะใจคอหนังโหดแน่นอน เพราะในหนังเรื่องนี้มีหยอดทั้งอารมณ์แบบเลือดสาด และแบบหนังผี วิญญาณที่มาแบบแฟนตาซี ความครึ่งๆ กลางๆ เหล่านี้ ทำให้หนังอยู่บนอารมณ์ที่ขาด ๆ เกินๆ พิลึกไม่น้อย

ใครชื่นชอบหนังผี หรือหนังพันธุ์พิสูจน์สิ่งเร้นลับ เหนือธรรมชาติ หยิบ Book of Blood มาดูก็ไม่น่าเสียหาย
ใครชื่นชอบหนังโหด ฆ่า หั่น ชำแหละ และนึกว่าชื่อ Book of Blood จะเป็นหนังที่มีแต่เลือดล่ะก็…คุณคิดผิดแล้วครับ

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.00 / 6.00

สยองในแบบ Clive Barker
หากพูดถึงนักเขียนแนวสยองขวัญ หลายคนคงนึกถึงผลงานของ Stephen King เพราะพี่แกร่ายความสยองผ่านน้ำหมึกออกผลงานแนวสยองขวัญมามากมายและหลาย ๆ เรื่องก็ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์สยองขวัญ ที่ถูกนำมาฉายผ่านสายตาคนไทยเราด้วย Clive Barker ก็มีชื่อเสียงในต่างประเทศไม่แพ้กันครับ แม้ชื่อของเขาจะไม่ใช่พิมพ์นิยมในบ้านเราก็ตาม หากแต่เอ่ยชื่อภาพยนตร์สยองชื่อดัง คุ้นหูอย่าง Hellraiser, Candyman, Lord of Illusion จนถึงหนังที่ถูกกล่าวถึงมากมายในช่วงปีที่ผ่านมาอย่าง The Midnight Meat Train ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผลงานการเขียนของ Clive Barker ทั้งนั้นครับ สไตล์การเขียนแบบลึกลับเขย่าขวัญที่มาในแบบแฟนตาซีด้านมืดสุดสยองที่เป็นเอกลักษณ์ของ Clive นั้น หากใครติดใจ หรือเคยผ่านตากับผลงานของ Clive Barker ในเรื่องที่พูดถึงมานั้น ก็อย่าเสียโอกาสหาผลงานอื่นๆ ของเขามาชำเราด้วย อย่าง Demonik, Nightbreed หรืออย่างหนังเรื่องที่กำลังกล่าวถึงนี้อย่าง Book of Blood ในชื่อไทยว่า ถลกหนังบัญญัติเลือด

จริงๆ หนังสือที่ Clive Barker เขียนในชื่อ Books of Blood นั้น มีสำนักพิมพ์ไทยเราอย่างหมึกจีนนำมาแปลขายกันเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วในชื่อหนังสือว่า จารีกเลือด Books of Blood หากใครสนใจก็ลองหาซื้อมาอ่านดูนะครับ

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 3.5/5 (2 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies A - C Tagged with: , , , , , ,

รีวิวหนัง Black Night ลาง หลอก หลอน (2006)
September 15th, 2012 by ฟิล์มสยอง
รีวิวหนัง Black Night ลาง หลอก หลอน (2006)

รีวิวหนัง Black Night ลาง หลอก หลอน (2006)

Black Night (2006)
ลาง – หลอก – หลอน
นำแสดง: พิชญ์นาฎ สาขากร (ปราง), ขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย (วิทย์), นัชชา บุตรศรี (แพรว), ดีแลน กัว (โจ), แอนนี่ หลิว (เจน), เรซ หว่อง (โฮซี่) , อาซากะ เซโตะ (ยูกิ), ทาคาชิ คาชิวาบาระ (ซาโตชิ), โทโมโรโว ทากาอุจิ (ดร. คาไว)
กำกับและเขียนบท:ธนิตย์ จิตนุกูล, แพทริก เหลียง, ทาคาฮิโกะ อากิยามา
ประเภท: Horror

รีวิวหนัง Black Night ลาง หลอก หลอน (2006)

รีวิวหนัง Black Night ลาง หลอก หลอน (2006)

“ภาพยนตร์ทดสอบความกล้ากับสิ่งที่ทุกชาติเรียกว่าผี” โอ้ว…คำโปรยสุดท้าทายจากภาพยนตร์สามชาติสยองขวัญเรื่อง ลาง – หลอก – หลอน ที่ช่างเป็นลาง หลอน หลอกตัวผมเองเหลือเกิน เรื่องราวเป็นยังไง…ติดตามกันได้

หนังสามชาติที่ประกอบไปด้วยเรื่อง The Lost Memory ส่งเข้าประกวดโดยพี่ไทย, Next Door ส่งเข้าประกวดโดย ฮ่องกง และสุดท้าย Dark Hole ส่งเข้าประกวดจากญี่ปุ่น หนังสามชาติที่ใช้ชื่อร่วมว่า Black Night หรือชื่อไทย ลาง – หลอก – หลอน เรื่องราวที่ใช้ theme ที่ว่าด้วยเรื่องของ “น้ำ”

ว่ากันทีละเรื่องครับ…

Next Door (ฮ่องกง) กำกับ: แพทริค เหลียง
เขียนบท: แพทริค เหลียง, ซาร์ลี ซอย
หนังจากฮ่องกงที่ผมตั้งใจจะมาดูผลงานจากผู้กำกับ แพทริค เหลียง ผู้ที่สร้างชื่อจากการทำหนังเรื่อง The Twins Effect II หนังบู๊ เทคนิกตระการตาที่กอบโกยเงินไปพอสมควร สำหรับหนังแสดงหลักในเรื่องนี้ประกอบไปด้วย ดีแลน กัว (โจ), แอนนี่ หลิว (เจน) และเรซ หว่อง (โฮซี่) เรียกว่า ได้นักแสดงมากความสามารถ และมีชื่อเสียงในฮ่องกงมาร่วมงานด้วย ในเรื่องบทบาทการแสดงของนักแสดงทั้งสามหายห่วงครับ เรื่องราวที่ปูเรื่องด้วยความเชื่อในคืนปล่อยผี ช่วงเดือนอาถรรพ์ คล้ายกับวันพระใหญ่ในบ้านเรา ที่จะมีความเชื่อว่า ภูติผีที่ไร้ญาติจะคอยออกมาขอแบ่งส่วนบุญ ในช่วงนี้แหละ ที่จะมีเหตุการณ์สยองเกิดขึ้นได้บ่อยๆ…

เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ “เจน” สาวนักดนตรีสุดเซ็กซี่เดินทางกลับมาหาแฟนหนุ่ม “โจ” ที่เป็นตำรวจอยู่ที่จีนแผ่นดินใหญ่ จากระยะเวลาที่เจนห่างหายไปจากโจไป ทำให้โจไปมีความสัมพันธ์กับสาวแผ่นดินใหญ่ที่อยู่ข้างห้อง ด้วยความเจ้าชู้ของโจ เมื่อเจนกลับมาทำให้ โจกลับไปมีความสัมพันธ์สวาทกับเจนอีกครั้ง ซึ่งในขณะเดียวกันนั้น โจ หารู้ไม่ว่า แฟนสาวแผ่นดินใหญ่ที่อยู่ข้างห้องนั้น…เธอได้ตายไปแล้ว…

หนังเดินตามสูตรหนังผี หนังสยองทั่วไป ด้วยการฉายภาพปัจจุบัน แล้วค่อยย้อนอดีต เฉลยปมหนังผ่อนคลายไปทีละปล้อง จะว่าไปแล้ว “Next Door” เป็นหนังที่เต็มไปด้วยความรัก เซ็กส์ ความสัมพันธ์สวาท และความเครียดแค้นอยู่เต็มไปทุกอนูของหนัง เรียกว่าเป็นหนังตามสูตรที่ผมว่า เพื่อนๆ คงจะเอียนความเนื้อเรื่องในพล็อตแบบนี้แล้ว

Dark Hole
กำกับ: ทากาฮิโกะ อากิยาม่า
เขียนบท: ทากาฮิโกะ อากิยาม่า, มายูโกะ โต
จากการโปรโมตว่า ทากาฮิโกะ นั้นเคยเป็นผู้กำกับเทคนิกพิเศษในหนังเรื่อง Final Fantasy: The Spirits Within นอกจากนี้หนังยังได้นักแสดงนำ อาซากะ เซโตะจากหนังเรื่อง One Missed Call ภาคสอง, ทากาชิ คาชิวาบาร่า และ โทโมโรโวะ ทากูจิมาร่วมสร้างความสยองขวัญอีกด้วย Dark Hole เป็นหนังที่นำเรื่องของความทรงจำ อดีตที่ฝังใจในช่วงเด็กมาเป็น theme หลักของเรื่องราวทั้งหมด (จะว่าไปส่วนใหญ่ผู้กำกับหนังญี่ปุ่นมักชอบที่จะนำเรื่องแบบนี้มาใช้เป็นพื้นฐานสร้างให้หนังมีน้ำหนักและเหตุผลกับเหตุการณ์ในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความรุนแรง สุดสยอง) เหตุการณ์เริ่มที่ ยูกิ ต้องพบเจอกับฝันร้ายอันสุดแสนทรมานในเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ มาตลอด ทำให้เธอต้องไปพบกับจิตแพทย์ เมื่อเธอโดนจิตแพทย์สะกดจิต ความลับ ความทรงจำในตอนเด็กทุกอย่างก็เริ่มกลับมา ปริศนาเกี่ยวกับความฝันของเธอเริ่มจะมีคำตอบ…

เศร้า เศร้า เศร้า…
หมายถึงตัวผมเองนะครับ ผิดหวังมากๆ กับเนื้อเรื่องที่เชื่อมโยงกับสัตว์เลี้ยง (สุดสยอง) ของยูกิ ซึ่งหน้าตามันน่ารักมั่กมากก..ถ้านึกภาพไม่ออกก็ให้นึกถึงหน้าตาสัตว์ประหลาดพวกขบวนการ 5 สีทั้งหลายนั่นแหละครับ ดูไปดูมานึกว่า เป็นหนังขบวนการ 5 สี ปราบเหล่าร้าย ซะงั้น ~~ เนื้อเรื่องปูมาด้วยเรื่องเกี่ยวกับจิตแพทย์ การใช้มุมกล้องที่น่าสนใจ แต่ไหงกลับมาทำหนังที่ไร้น้ำหนัก เบาโหวง สุดๆ ได้แบบนี้…ขอให้ท่านผู้ที่คิดจะดู ทำใจไว้ล่วงหน้าครับ

The Lost Memory กำกับ: ธนิตย์ จิตนุกูล
เขียนบท: ธนิตย์ จิตนุกูล, ฐิติพงศ์ ใช้สติ, เยาวพิน เจริญลู่ลิขิตกุล, วรรธนะ วันชูเพลา
ผลงานการกำกับของผู้กำกับ ธนิตย์ ที่ทำหนังน่ารัก หนุกหนานได้โดยใจผมในเรื่อง ซึมน้อยหน่อย กะล่อนมากหน่อย และหนังปลุกใจ แนวรักชาติเรื่องบางระจันได้ดีทีเดียว คราวนี้ ธนิตย์ หันมาลองจับหนังสยองขวัญกันบ้าง และก็ทำได้ไม่ผิดหวังครับ… นักแสดงนำในเรื่องนี้ประกอบไปด้วย พิชญ์นาฎ สาขากร(ปราง) , ขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย(วิทย์) , นัชชา บุตรศรี (แพรว) และ เด็กชายอธิพันธ์ ฉันทอภิชัย (ซัน) เรื่องราวของ “ปราง” คุณแม่ยังสาวที่ต้องเลิกลากับสามีจอมเจ้าชู้ “วิทย์” ในขณะที่มีลูกชายวัยกำลังซนอย่าง “ซัน” ที่ปรางคิดว่าจะมาเป็นแก้วตาดวงใจให้สามีเลิกเจ้าชู้ได้ เรื่องถูกผูกไว้ด้วยเพื่อนคนสำคัญแสนสนิทของปราง นั่นคือ แพรว ผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์บางอย่างกับวิทย์…

ธนิตย์พยายามหลอกล่อให้คนดูตายใจ ด้วยความตายของแพรวที่ดันกลายมาเป็นผี หลอกหลอน ปรางเพื่อนสนิทของตนเองอย่างไร้เหตุผล และเหตุผล น้ำหนักต่างๆ ก็เริ่มปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ ต้องยอมรับว่าภายในเวลาช่วงสั้นๆ ของหนัง ธนิตย์พยายามรวบรัดเนื้อหาต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม สิ่งหนึ่งที่เราเห็นธนิตย์พยายามทำในหนังผีของเขาคือ การฉีกผีในอุดมคติที่จะต้องหน้าขาว คลานช้าๆ ออกมาจากมุมต่างๆ ของห้อง ในเรื่องนี้ ธนิตย์กลับใช้ผีตัวดำ อีกทั้งยังมีการจู่โจมที่รวดเร็วในระยะประชิดอีกด้วย จุดตรงนี้สร้างความหลอกหลอนให้คนดูได้ไม่น้อย คงไม่เฉลยครับ สำหรับเรื่องราวในเรื่องนี้ แต่ถ้าอยากดูธนิตย์กำกับหนังผีแบบซีเรียส ก็อย่าพลาดเลยแหละ เขาทำได้ไม่เลวเลยทีเดียว

บทสรุป ลาง หลอก หลอน
ต้องยอมรับว่า ข้อ1. The Lost Memory และ Next Door ทำได้สมตัวครับ ไม่แย่หรือดีแบบเห็นได้ชัด เสมอตัวในความเป็นหนังผี ส่วน Dark Hole นั้นก็ต้องขอสดุดี อันเชิญให้หนังเรื่องนี้กลับลงหลุมต่อไป อาจจะเนื่องจากว่า สัตว์เลี้ยงตัวน้อยตัวนั้น เป็นหนึ่งในตำนานพื้นบ้านของญี่ปุ่นที่คนไทยอย่างผมไม่อาจเข้าใจก็เป็นได้

ข้อ2. ผิดหวังกับหนังร่วมทุน สามชาติ สร้างอีกแล้ว… หลังจากที่ผิดหวังกับหนังสามชาติในเรื่องก่อนๆ ที่ทำโปรโมชั่นดี๊ดี จนเราอยากไปดูและก็ต้องมาผิดหวัง …คราวนี้เพียงอยากพิสูจน์ว่า มาตรฐานการทำหนังสามชาติจะกลับมาดีเหมือนเรื่องแรกๆ ที่ทำออกมาบ้างมั้ย กลับกลายเป็นว่า หนังสามชาติเริ่มตกต่ำ ไร้ความสนุกและดึงดูง ผมว่าหลายคนคงเข็ด หากมีเรื่องต่อๆ ไปอีก เข็ดว่ามันจะเป็น “ลาง” ที่คอยแต่จะ “หลอก” เงินในกระเป๋าของเรา ซึ่งหากเรายอมเสียตังส์ไปดูแล้ว มันคงจะ “หลอน” ให้เราเข็ดไปอีกนาน… ..ราวกับเพื่อนเล่าให้ฟังถึง หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาสวยดุจนางฟ้า แต่พอเรากลับไปเห็นตัวจริงแล้วก็ต้องร้อง “ยี๊” ออกมาดังๆ…

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 2.50 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 3.3/5 (4 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies A - C Tagged with: , , , , , , ,

The Task 2011 หนังที่น่าผิดหวังจาก After Dark
September 14th, 2012 by ฟิล์มสยอง
The Task 2011 หนังที่น่าผิดหวังจาก After Dark

The Task 2011 หนังที่น่าผิดหวังจาก After Dark

The Task (2011)
มิติสยอง 7 ป่าช้า : เรียลลิตี้ท้าตาย
กำกับ: Alex Orwell
เขียนบท: Kenny Yakkel
นำแสดง: Alexandra Staden, Victor McGuire, Adam Rayner, Antonia Campbell-Hughes, Ashley Mulheron, Tom Payne, Texas Battle

The Task 2011 หนังที่น่าผิดหวังจาก After Dark

The Task 2011 หนังที่น่าผิดหวังจาก After Dark

หนัง Reality show สยองขวัญ ส่งเข้าประกวดโดยค่าย After Dark หนึ่งใน 8 เรื่องสยองประจำปี 2011 เมื่อประทับตรา After Dark ก็ต้องขอหยิบมาดูหน่อยละครับ
แม้ว่าเราจะผิดหวังจากหนัง After Dark มาหลายครั้งหลายครา แต่มันก็น่าจะมีสักเรื่องที่โดนบ้างล่ะวะ!

The Task มิติสยอง 7 ป่าช้า : เรียลลิตี้ท้าทาย
ภารกิจที่ผู้กล้าท้าตาย 6 คนต้องเข้าไปในเรือนจำร้างที่มีประวัติสยองโชกโชนมาก่อน ใครปฏิบัติภารกิจสำเร็จในแต่ละฐานก็จะได้เงินรางวัลก้อนโตล่อใจ…เนื้อเรื่องก็มีอยู่เท่านั้นแหละครับ ไม่ต้องคิดอะไรมาก
เนื้อเรื่องสั้นง่าย แต่การดำเนินเรื่องอืดอาดปานยานอนหลับชั้นดี เรื่องดำเนินไปจนเกือบหนึ่งชั่วโมงครึ่ง มีหักมุมตอนท้ายในช่วง 5 นาทีท้ายสุด ก่อนที่จะหักมุมอีกต่อในแบบที่คาดเดาได้ไม่ยาก
ส่วนความสยอง ระทึกขวัญ โหด เลือดสาดนั้น ไม่ต้องพูดถึงครับ! คือไม่ต้องพูดถึงมันเลยครับ เพราะไม่ได้เร้าอารมณ์ให้ความรู้สึกเป็นหนังจำพวกนั้นเลย แต่หากท่านอยากซื้อหามาดูเพลินๆ ไปหาหนังตลกน่ารักๆ มาดู ยังจะเพลินกว่าครับ
หรือหากท่านอยากดูหนังจำพวก Reality Show ก็ขอแนะนำหนังสยองระทึกของพี่ไทยจะดีกว่าครับ

Reality Show สยองของบ้านเรา
พูดถึงเรื่องนี้ ก็ต้องเอาหนังโชว์แขกของบ้านเรามาพูดถึงสักหน่อย ซึ่งต้องบอกว่าดูดี มีคุณภาพมากกว่าเยอะ โดยเฉพาะหากเปรียบเทียบกับ The Task อย่างเรื่อง Ghost Game ล่า-ท้า-ผี หนังไทยสยองขวัญที่นำนักแสดงจาก Academy fantasia ในยุคแรก (AF1) แสดงนำ ตอนนั้นรายการ Reality Show เพิ่งเป็นที่นิยมในเมืองไทย ก็สนองตอบกระแสความแรงของนักแสดงบ้าน AF ซึ่งสำหรับนักแสดงหน้าใหม่ในขณะนั้นก็ถือว่าทำออกมาใช้ได้นะครับ เรื่อง Ghost Game แม้จะไม่เด่น ไม่ดัง ไม่ขึ้นหิ้งหนังสยองทรงคุณค่า แต่ก็ไม่เน่าเท่า The Task แน่นอนครับ
หนังพี่ไทยอีกเรื่องที่ต้องบอกว่าเป็นแนว Reality Show ระทึกขวัญที่ขึ้นแท่นหนังพี่ไทยสยองทรงคุณค่าอีกเรื่อง นั่นคือ 13 เกมสยอง หรือ 13 Beloved หนังไทยจากฝีมือการกำกับของชูเกียรติ นำแสดงโดยน้อย วงพรู ใครยังไม่ได้ดูสองเรื่องนี้ ก็ไปหาซื้ออุดหนุนหนังไทยเราดีกว่าเยอะเลยครับ

โดย ศร-รณ
Rating: 1.00 / 5.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 3.6/5 (8 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies S - U Tagged with: , , , ,