Category: Horror Movies P – R

Runaway Jury (2003) จากนวนิยายของ John Grisham เจ้าพ่อนักเขียนแนวอาชญากรรม
January 10th, 2013 by ฟิล์มสยอง
Runaway Jury (2003) จากนวนิยายของ John Grisham เจ้าพ่อนักเขียนแนวอาชญากรรม

Runaway Jury (2003) จากนวนิยายของ John Grisham เจ้าพ่อนักเขียนแนวอาชญากรรม

Runaway Jury (2003)
นำแสดง: John Cusack (Nicholas Easter), Gene Hackman (Rankin Fitch), Dustin Hoffman (Wendell Rohr), Rachel Weisz(Marlee), Bruce Davison (Durwood Cable), Bruce McGill (Judge Harkin), Jeremy Piven (Lawrence Green), Nick Searcy (Doyle), Stanley Anderson (Henry Jankle), Joanna Going (Celeste Wood)
กำกับ: Gary Fleder
เขียนบท: จากนวนิยายของ John Grisham, Brian Koppelman..
ประเภท: Thriller/ Drama/Crime

Runaway Jury (2003) จากนวนิยายของ John Grisham เจ้าพ่อนักเขียนแนวอาชญากรรม

Runaway Jury (2003) จากนวนิยายของ John Grisham เจ้าพ่อนักเขียนแนวอาชญากรรม

จากนวนิยายของ John Grisham เจ้าพ่อนักเขียนแนวอาชญากรรม ที่มีทนายเป็นตัวเอก ผมเริ่มต้นรู้จัก Grisham ตั้งแต่ได้อ่านนวนิยายเรื่อง The Firm (ถูกนำมาสร้างเป็นหนังที่มี พี่ Tom Cruise เป็นพระเอก) ,The Client, A Time To Kill จนถึง Runaway Jury นวนิยายอีกเรื่องที่ถูกหยิบไปทำเป็นภาพยนตร์ และก็ทำได้ไม่ผิดหวังไปจากต้นฉบับ

หนังเริ่มต้นด้วยเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันของผู้ร้ายที่ใช้ปืนบุกเข้าไปยิงในออฟฟิศแห่งหนึ่งอย่างป่าเถื่อน ภาพของผู้ชายคนหนึ่งถูกยิงตาย…ซึ่งผู้ชายคนนั้น เป็นพ่อของเด็กหกขวบ และเป็นสามีผู้รักครอบครัวของ Celeste Wood (Joanna Going) เธอจำต้องฟ้องศาลเอาผิดกับบริษัทจำหน่ายปืน เนื่องด้วยผู้ร้ายที่ได้ฆ่าตัวตายไป และไม่มีใครจะมารับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น…ด้วยปัญหาการถกเถียงกันในเรื่องการปล่อยให้จำหน่ายปืนอย่างเสรี ด้วยข้ออ้างเพื่อการป้องกันตัว หรือจะเป็นด้วยเหตุผลทางการค้า…

“กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม” จึงต้องเข้ามาตัดสินในเหตุการณ์ดังกล่าว…ทำให้ต้องมีการเลือกลูกขุน เข้ามาร่วมในกระบวนการยุติธรรมของศาล (ขอเล่านิดนึงเรื่องศาลครับ… บางทีดูหนังพวกอาชญากรรม อาจจะสงสัยว่าทำไมกระบวนการยุติธรรม ระบบศาลของไทยเรากับหนังที่เราดูของฮอลิวู้ดถึงได้แตกต่างกัน ก็เพราะว่าใช้ระบบกฎหมายต่างกันนะครับ ของพี่ไทยเรายึดตามตัวบทกฎหมายที่เป็นลายลักษณ์อักษร หรือที่เรียกว่า ประมวลกฎหมาย ในระบบ Civil Law ส่วนของสหรัฐฯ เขาใช้ระบบกฎหมายแบบ Common Law เป็นหลักครับ เขาจะยึดจากคำพิพากษาของศาล และเพื่อความยุติธรรม เขาจึงใช้ Jury หรือ คณะลูกขุนผู้ที่ถูกคัดเลือกเข้ามาช่วยตัดสินคดีด้วย) บทบาทของ Nicholas Easter(John Cusack) หนึ่งในผู้ที่ต้องการจะเป็นลูกขุนในการตัดสินคดีนี้จึงเริ่มต้นขึ้น

หากใครได้ดูหนังเรื่องนี้ คงต้องตั้งคำถามว่า สิ่งที่ตัวนำ Nicholas Easter(John Cusack) และ Marlee (Rachel Weisz) พยายามทำเพื่อการโน้มน้าวลูกขุนนั้น เป็นเพราะเหตุผลเรื่องเงินอย่างเดียวหรือ…ซึ่งความจริงได้เฉลยในตอนท้ายของเรื่อง หนังนอกจากจะแสดงการดำเนินเรื่องอย่างเหนือชั้นแล้ว ยังได้นักแสดงเจ้าบทบาทอย่าง Dustin Hoffman มาแสดงเป็นทนาย Wendell Rohr ในฝั่งของโจกท์ผู้เรียกร้องความยุติธรรม ในขณะที่ Gene Hackman แสดงบทเป็น Rankin Fitch ทนายฝ่ายจำเลย หรือ บริษัทปืน ผู้มากด้วยเล่ห์เหลี่ยมและใช้กลโกง ทุกวิธีการเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะในศาล

หนัง Drama/Crime/Thriller เรื่องนี้เด่นในหลายๆ ด้านครับ ตั้งแต่
– ผู้กำกับ Gary Fleder เท่าที่จำได้ Gary เคยฝากผลงานไว้ในเรื่อง Kiss the Girls (หนัง Crime Thriller ที่มี Morgan Freeman เป็นตัวนำ..ใครพอจำได้บ้าง) การกำกับหนังแนวอาชญากรรม สืบสวน สอบสวนแบบนี้ Gary ไม่ทำให้ผิดหวังครับ…
– นักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง Gene Hackman, Dustin Hoffman และ John Cusack ทั้งสาม ดำเนินเรื่องได้อย่างเข้มข้น น่าติดตาม ลีลา Acting นั้น…หายห่วง
– บทนวนิยายจากนักเขียนสุดเก๋า John Grisham เรื่องราวในศาล ทนาย และบทหักมุมมีอยู่แน่นอนในผลงานของ Grisham ใครชอบหนังจำพวกนี้ ติดตามหาผลงานของเขามาอ่านกันได้เลย

อีกหนึ่งหนัง Drama/Thriller ที่แนะนำครับ…อย่าพลาด…

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 4.50 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 4.0/5 (1 vote cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies P - R Tagged with: , , ,

Riki - Oh (1991) สนุกในแบบฉบับของหนังกังฟูครับ ยิ่งมีความสยองที่ผมนิยมใส่ลงไปด้วยแล้ว น่าสนใจมากครับ
January 10th, 2013 by ฟิล์มสยอง
Riki - Oh (1991) - หนังกังฟูแท้ๆ ในแบบของ Gory Horror แหวะๆ ครับ

Riki – Oh (1991) – หนังกังฟูแท้ๆ ในแบบของ Gory Horror แหวะๆ ครับ

Riki – Oh (1991)
The Story of Ricky | King of Strength | Lik wong
นำแสดง: Siu-Wong Fan (Riki-Oh Saiga), Mui Sang Fan (Assistant Warden as Faan Mooi Saang), Ka-Kui Ho (The Warden), Yukari Oshima (Yomi), Frankie Chin (Narumi Hai), Tetsuro Tamba (Riki’s Master), Gloria Yip (Keiko: Riki’s girlfriend), Philip Kwok (Lin Hung)
กำกับ: Kim Dong-bin
เขียนบท: Ngai Kai Lam และ Tetsuya Saruwatari (จากการ์ตูนเรื่อง Riki-oh)
ประเภท: Gory Fu Flick, Horror, Action, Fantasy, Comedy

Riki - Oh (1991) สนุกในแบบฉบับของหนังกังฟูครับ ยิ่งมีความสยองที่ผมนิยมใส่ลงไปด้วยแล้ว น่าสนใจมากครับ

Riki – Oh (1991) สนุกในแบบฉบับของหนังกังฟูครับ ยิ่งมีความสยองที่ผมนิยมใส่ลงไปด้วยแล้ว น่าสนใจมากครับ

หนังฮ่องกงที่ออกมาในแบบฉบับของหนังกังฟู บู๊ล้างผลาญ แต่ขอโทษครับ มันไม่ใช่หนังกังฟูธรรมดาๆ ตามหนังจีนช่อง 7 ที่เราคุ้นเคย แต่มันเป็นหนังกังฟู บู๊ล้างผลาญในแบบ “Gore” จนหน้าปกต้องลงคำโปรยว่าเป็นหนังที่มีส่วนผสมระหว่าง Evil Dead, Braindead และ The Matrix ในลีลากังฟูแบบ บรู๊ซ ลี หรือถ้าไทยๆ เราก็คงเป็นแบบจา พนม ยังไงยังงั้น…

เรื่องย่อ: Ricky หนุ่มหน้าตาดี ผู้มีพรสวรรค์ทางด้านหมัดมวย และความแข็งแกร่งของร่างกายที่เป็นเลิศ เขาดำรงชีวิตในแบบหนุ่มมหาวิทยาลัยธรรมดา แต่ชีวิตต้องผกผันเมื่อพ่อค้าฝิ่นจับตัวแฟนสาวของเขา และทำให้แฟนสาวต้องหนี จนต้องกระโดดตึกลงมาตาย…Ricky จำเป็นต้องแก้แค้นโดยการฆ่าพ่อค้าฝิ่น จนทำให้เขาต้องมาอยู่ในคุก…และที่นี่แหละ คือนรกที่ Ricky ต้องกวาดล้าง!

ฉากสยอง: ต้องบอกไว้ก่อนครับ หลักๆ ของหนังเรื่องนี้เป็นคิวบู๊ กังฟู เตะต่อย แต่สิ่งที่ Ngai Kai Lam เติมแต่งเข้าไปในเรื่องนี้คือ มันไม่ใช่การเตะต่อยธรรมดาครับ มันเป็นการต่อยประเภทที่ว่า พุงทะลุ ไส้ทะลัก หัวเบะ หรือจะเป็นฉากที่ควักไส้ตัวเอง ออกมาเป็นอาวุธใช้ในการรัดคอ ก็มีให้เห็น นอกจากนี้ยังมีจินตนาการในแบบฉบับของการแปลงร่างจากร่างกายผอมๆ ให้บึกบึนร่างยักษ์ก็มีให้เห็นเช่นกัน ฉากการบดเนื้อมนุษย์ในโรงครัว ในคุกก็เลือดท่วมจอจนล้นปริ่ม หรือจะเป็นการเฉือนหน้าแหวะเห็นกระดูกขาวในแบบที่เราเคยเห็นใน Ichi The Killer ก็มีให้เห็นเช่นกัน จะว่าไปต้องลองพิสูจน์กันเองครับ…

ความแปลกใหม่ของผู้ชมทั่วโลก!
ต้องบอกว่าเมื่อหนังเรื่องนี้ออกมานั้น มันฮือฮา และได้รับคำกล่าวขานบอกต่อกันในเหล่านักดูหนังสยองทั่วโลก…ผลงานชิ้นนี้เป็นของผู้กำกับหนังเรื่อง Erotic Ghost Story ที่สร้างชื่อให้กับผู้กำกับ Ngai Kai Lam มาแล้วไม่น้อย จนมาถึง The Story of Ricky เป็นการนำเอาพล๊อตหนังบู๊ ในแบบกังฟู เฉินหลง, บรู๊ซ ลี ที่เราคุ้นเคย มาใส่ความสยดสยองในแบบ Gory เข้าไป จนสื่อบางสื่อขนานนามในหนังเรื่องนี้เป็น หนังโคตรพ่อโคตรแม่ต้นแบบในฉบับของ Gory Fu Flick กันเลยทีเดียว!

ผมว่า คนไทยอย่างเราๆ คุ้นเคยหนังบู๊ กังฟู เตะต่อยกันมาตั้งแต่เด็กแล้วนะครับ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่ามันมีหนังกังฟูสยองแบบนี้ด้วยหรือ! เพราะหนังสยองของจีน ฮ่องกง ส่วนใหญ่จะเล่นกับความแหวะในเรื่องใกล้ตัวอย่าง อาหาร เชื้อโรค หรือเน้นออกไปในทางของแก๊งมาเฟีย การพนันก็ว่ากันไป แต่นี่เป็นหนังกังฟูแท้ๆ ในแบบของ Gory ครับ ผมว่าใครยังไม่ได้ดูต้องหามาดูให้ได้ครับ เป็นหนังที่สร้างสรรค์เป็นอีกปรากฏการณ์หนึ่งในหนังกังฟู สยองกันเลยก็ว่าได้!

สนุกในแบบฉบับของหนังกังฟูครับ ยิ่งมีความสยองที่ผมนิยมใส่ลงไปด้วยแล้ว ต้องบอกเลยว่า เรื่องนี้ยิ่งน่าสนใจมากยิ่งขึ้นครับ เอาเป็นว่าใครมีโอกาสก็ลองเสาะหาดูละกันครับ!

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 5.00 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 5.0/5 (1 vote cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies P - R Tagged with: , , ,

Reincarnation (2005) คนถ่ายผี - หนังผีผลงานผู้กำกับ Takashi Shimizu
December 23rd, 2012 by ฟิล์มสยอง
Reincarnation (2005)  Rinne คนถ่ายผี ผลงานของผู้กำกับ Takashi Shimizu

Reincarnation (2005) Rinne คนถ่ายผี ผลงานของผู้กำกับ Takashi Shimizu

Reincarnation (2005)
Rinne
นำแสดง:Yuka (Sugiura), Karina, Kippei Shiina (Matsumura), Tetta Sugimoto, Shun Oguri, Marika Matsumoto, Mantaro Koichi, Atsushi Haruta, Miki Sanjo
กำกับ: Takashi Shimizu
เขียนบท: Takashi Shimizu และ Masaki Adachi
ประเภท: Horror

Reincarnation (2005) คนถ่ายผี - หนังผีผลงานผู้กำกับ Takashi Shimizu

Reincarnation (2005) คนถ่ายผี – หนังผีผลงานผู้กำกับ Takashi Shimizu

Reincarnation คือภาพยนตร์เรื่องที่ 3 จากโปรเจ็กต์ J-Horror (มีทั้งหมด 6 เรื่อง) โดยสอง เรื่องก่อนหน้านี้คือ Premonition (Yogen รู้ เห็น ตาย) และ Infection (Kansen โรง พยาบาลผี) ตอนนี้เป็นคิวสยองของนักเล่นกล้องทุกประเภทที่จะต้องจับตาความตาย ห้ามกระพริบ เป็นอันขาด…

เรื่องย่อ:
เรื่องเล่าจาก 35 ปีก่อน ครอบครัวแสนสุขเดินทางไปพักผ่อน ณ รีสอร์ทอันสงบเงียบแห่งหนึ่ง แต่แล้วเหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อหัวหน้าครอบครัวเกิดอาการคุ้มคลั่งคว้าอีโต้ไล่ฟันครอบครัวตัวเอง รวมทั้งแขกและพนักงานที่นั่นตายสยอง 11 ศพ ที่สำคัญ เขาได้บันทึกทุกวินาทีฆ่าไว้ในกล้อง 8 มม. เวลาผ่านไปกว่า 3 ทศวรรษ ภาพเหตุสะเทือนขวัญบนฟิล์มเปื้อนเลือดกลายเป็นแรงบันดาลใจ ให้ผู้กำกับดาวรุ่งนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ และแล้วความสยองก็ถูกปลุกให้ฟื้นคืนชีพ เมื่อกองถ่ายเดินทางไปถ่ายทำยังที่เกิดเหตุจริงและนางเอกของเรื่องได้เห็นภาพหลอนของเหยื่อนับสิบ ราวกับว่าเหตุผวานั้นเพิ่งเกิดขึ้น นอกจากนั้น หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องการถ่ายติดภาพวิญญาณในกล้องวิดีโอมาบ้าง ซึ่งนั่นอาจเป็นเพราะวิญญาณเหล่านั้นต้องการสื่อบางอย่างกับเรา เรื่องราวใน Reincarnation “คนถ่ายผี” ก็คือ ตัวอย่างหนึ่งของความน่ากลัวที่มาจากกล้องวิดีโอ เพราะมัน คืออุปกรณ์บันทึกจุดจบอันโหดร้ายของเหยื่อฆาตกรรมที่ตายพร้อมความอาฆาต ดังนั้นเมื่อมีคนเปิดม้วนฟิล์มนี้ขึ้นอีกครั้ง ความสะพรึงของแรงพยาบาทก็กลับมา เพราะเรื่องบางเรื่อง คนเราอาจลืมไปแล้ว แต่วิญญาณเหล่านั้นยังไม่ลืม

หนึ่งผลงานของ Takashi Shimizu
ทาคาชิ ชิมิสุ เป็นที่รู้จักในหมู่คอหนังสยองทั่วโลกจากหนังผีภาคต่อ Ju-on (ผีดุ) ที่กวาดรายได้สะพรึงถล่มบ๊อกซ์ออฟฟิศญี่ปุ่นจนฮอลลีวู้ดซื้อไปรีเมคภายใต้ชื่อ The Grudge (โคตรผีดุ) ซึ่งชิมิสึเองนั่นแหละที่เป็นผู้กำกับ และมันก็ทำรายได้ถล่มบ๊อกซ์ออฟฟิศอเมริกาไม่แพ้ต้นฉบับ นอกจากนั้น Shimizu ยังได้ทำหนังคุณภาพอย่าง Marebito และหนังในซีรียส์ Dark Tales of Japan อีกด้วย

หากผลงานที่ผ่านมาของ Shimizu ทำให้หนังเรื่อง Reincarnation หรือ Rinne ถูกจับตามอง แต่สำหรับผมแล้ว Rinne ที่ยังเทียบความดุ หลอน ของหนังผีในยุคแรก ๆ ที่เขากำกับไว้ อย่าง Ju-on ไม่ได้ หนังเรื่องนี้อาจเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ต้องการจะฉีกภาพเดิมๆ ของหนังผี หน้าขาว Ju-on ที่เขาเคยทำไว้ก็อาจเป็นได้

Reincarnation กับชื่อ “คนถ่ายผี”
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ทำไมช่วงนี้บ้านเราถึงนำเข้าหนังประเภทกลับชาติมาเกิดมาพร้อมกันสองเรื่อง คือ Reincarnation ของ Takashi Shimizu และ Re-cycle ของสองที่น้อง Pang ที่กำลังรอเข้าโรงต่อจาก Reincarnation อาจจะเป็นเหตุผลทางการตลาด หรือสิ่งอื่นใดก็มิอาจทราบได้ แต่ที่แน่ๆ การนำเรื่อง Reincarnation ซึ่งเป็นหนังตั้งแต่ปี 2005 (เพิ่งจะได้นำ มาฉายบ้านเราในปี 2006 นี้) มาตั้งชื่อเป็น “คนถ่ายผี” และนำ theme เรื่องของการเล่นกล้องมาเป็นจุดขายในบ้านเรา ผมว่ามันออกจะแปร่งๆ ไปสักนิด และไม่เข้ากันอยู่สักหน่อย เพราะเรื่องราวจริงๆ ที่ Shimizu ต้องการจะทำในหนังผีเรื่องนี้ คือ การเล่นเรื่องราวของจิตวิทยา และจิตวิญญาณหลังความตายซะมากกว่า หากแต่การตั้งชื่อเรื่องแบบนี้ อาจสร้างจุดสนใจให้ผู้ชมไปดูได้ไม่น้อย…ผมต้องขอบอกไว้ตรงนี้ก่อนครับว่า คนถ่ายผี ไม่ใช่หนังจำพวกที่เน้นเรื่องราวเกี่ยวกับคนเล่นกล้อง หรือ ผู้นิยมหนัง 8 มิล. หรือ หนังที่คนคาดคิดว่าจะออกมาในสไตล์ชัตเตอร์ หนังผีสัญชาติไทยของเรา แต่มันเป็นหนังผีจิตวิทยาที่เน้นความหลอนมากกว่าความน่ากลัวสะดุ้งแบบสุดๆ ครับ

Rinne ผี…จิต…หลอน
Reincarnation เป็นหนังผีจำพวกที่ไม่ได้เน้นฉากหวือหวาให้เราสะดุ้งผวากันเป็นระยะ ๆ อย่างหนังเรื่อง Ju-on ที่ Shimizu เคยทำเอาไว้นะครับ จึงขอเตือนด้วยความห่วงใย สำหรับผู้ที่สนใจหนังเรื่องนี้ว่า มันจะน่ากลัว เลือดสาด และสะดุ้งผวา ชนิดหนุ่มสาวเข้าชม แล้วกอดกันตัวกลมเป็นหนึ่งเดียว อะไรเทือกนั้นนะ…

Rinne กลับเป็นหนังผี จำพวกที่เล่นกับเรื่องราวของศาสนา จิตวิทยา และโรคประสาทในทางการแพทย์อย่างเข้มข้น อาการทางประสาทที่ว่านั้นวิทยาศาสตร์เรียกว่า Klepto-Amnasia หรือการซึมซับความทรงจำอื่นเข้ามาในความทรงจำของตนเอง และปล่อยให้มันแทนที่จนความทรงจำเก่าสูญหาย และการผสมผสานความเชื่อทางด้านพุทธศาสนาเข้ามาด้วย ซึ่งผมว่านี่น่าจะ เป็น theme สำคัญ ที่ Shimizu ต้องการจะถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมดออกมาในเรื่องนี้…และเขาก็ตีโจทย์ให้แตกได้พอสมควรเลย ตัวหนังค่อยๆ คลี่คลาย ปมปริศนาทุกอย่างตั้งแต่ต้นเรื่อง จนถึงคำตอบสุดท้ายได้อย่างแนบเนียน และคาดไม่ถึง

ในทางกลับกัน…สิ่งที่ผมว่าหนังเรื่องนี้ ถ้าไม่ตั้งใจดู อาจแพ้ภัยตัวเองให้หลับได้นั้น อาจเป็นเพราะ..ตัวหนังไม่สามารถฉุดอารมณ์การคลี่คลายปริศนาให้น่าดู ลุ้นระทึก อย่างสุดขั้ว และไม่มี จุด peak ของหนังที่เด่นชัด มันกลับกลายเป็นว่า หนังเรื่องนี้ถ่ายทอดเรื่องราวกันไปเรื่อยๆ ขนาดตัวหนังผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้ว ผมยังคิดอยู่ในใจเลยว่า เอ…สามสิบนาทีสุดท้ายก่อนที่หนังจะจบ คงจะมีอะไรเด็ดๆ ใน Rinne แน่นอน…แต่มันก็ไม่ใช่ครับ หนังยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ ด้วยเรื่องราวที่ไม่หวือหวา และคอยเฉลยคำตอบ คลี่คลาย ปมปริศนาของหนังไปเรื่อยๆ เมื่อหนังไม่มีจุด Peak ที่จะฉุดอารมณ์ของคนดู สเน่ห์ในตัวของ Reincarnation ก็ลดลง อย่างไม่น่าให้อภัยกันเลย…

คงต้องฝากไว้ครับ สำหรับคนที่สนใจก็ขอให้ตั้งใจดู และซึมซับกับมุมมองของหนังผี ที่ Shimizu กล่าวไว้ว่า Reincarnation เป็นนิยามใหม่ของหนังสยองขวัญที่เราควรจับตามอง…พิสูจน์กันได้ครับ

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.00 / 6.00


VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 3.0/5 (1 vote cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies P - R Tagged with: , , , , ,

Red Eye (2004) รถไฟผี - รีวิวหนังผี
December 23rd, 2012 by ฟิล์มสยอง
Red Eye (2004) รถไฟผี - รีวิวหนังผี

Red Eye (2004) รถไฟผี – รีวิวหนังผี

Red Eye (2004)
รถไฟผี
นำแสดง: Jang Shin-yeong (Mi-sun), Kwak Ji-min (So-hee), Lee Dong-kyu (Jin-kyu)
กำกับ: Kim Dong-bin
เขียนบท: Lee Yong-yeon, Seong Gi-young
ประเภท: Horror/Thriller, Drama

Red Eye (2004) รถไฟผี - รีวิวหนังผี

Red Eye (2004) รถไฟผี – รีวิวหนังผี

รู้สึกอย่างไรบ้าง ถ้าหากรถไฟขบวนที่คุณกำลังเดินทางอยู่นั้น มีโบกี้เก่าที่เคยประสบอุบัติเหตุสยองมาพ่วงอยู่ด้วย…

จุดเริ่มต้นของความหายนะเมื่อ 16 กรกฏาคม 1988 รถไฟขบวนหนึ่งที่กำลังมุ่งหน้าไปที่ Yeosu ประสบอุบัติเหตุอย่างรุนแรง มีผู้เสียชีวิตมากมายนับร้อย ซึ่งสาเหตุที่แน่ชัดไม่สามารถระบุได้…

16 ปีผ่านไป…วันครบรอบความหายนะก็มาถึง ความลึกลับปริศนาที่รอให้ Mi Sun (Jang Shin young) พนักงานรถไฟสาวที่มาทำงานในคืนวันเกิด ซึ่งความจริงนั้นเธอควรจะไปสนุก ฉลองกับเพื่อนๆ ในวันนี้ แต่เธอกลับขอแลกกะเพื่อมาทำงานในขบวนเที่ยวดึกด้วยเหตุผลส่วนตัวที่ไม่อาจบอกใครได้ รถไฟเริ่มออกเดินทางไปยังจุดมุ่งหมาย สิ่งแปลกๆ เริ่มเกิดขึ้นบนรถไฟขบวนนั้น เหตุการณ์ที่ Mi Sun พบเจอ ระหว่างปัจจุบันกับภาพหลอกหลอนในอดีตเริ่มขึ้น ทว่าจุดหมายปลายทางของรถไฟขบวนนี้กำลังจะวิ่งไปที่ไหนกัน…ชานชลาปลายทาง หรือหายนะซากที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 16 ปีก่อน ติดตามหามาดูได้ครับ

หนังของ Kim Dong-bin ที่ใช้ชื่อว่า Red Eye นี้ นำมาจากสัญลักษณ์ไฟกระพริบสีแดงที่บอกถึงสัญญาณอันตราย เรื่องถูกคลี่ปมออกขณะที่ใช้ภาพขาว – ดำ – แดงกระพริบหลอกหลอนประสาทคนดูได้อย่างน่าชม สิ่งที่ Kim Dong-bin ทำได้น่าดูอีกอย่างคือ การทำคอมพิวเตอร์กราฟฟิคที่ไม่ค่อยเห็นในหนังสยองขวัญเกาหลีเท่าไรนัก สำหรับในเรื่องนี้ มีหลายฉากที่ทำให้น่าประทับใจ หนังเนียนไม่ดูเป็นดิจิตัลมากซะจนเลี่ยนแต่กลับนำมาใช้ได้อย่างลงตัวและพอเหมาะพอควร ถือได้ว่าเป็นยุคใหม่ของหนังผีเกาหลีที่นอกจาก ผีหน้าขาวจะคลายออกมาจากมุมต่างๆ ของฉากแล้วนั้น หนังเรื่อง Red Eye พยายามจะฉีกความจำเจตรงนั้นออกไป นับได้ว่าเป็นความตั้งใจที่ดีของผู้กำกับ ใครที่เป็นแฟนหนังสยองขวัญเอเซียโดยเฉพาะญี่ปุ่น กับเกาหลีนั้น ผมแนะนำให้ลองหามาดูกันครับ หนังไม่ได้สมบูรณ์แบบแต่มุมมองและเจตนาของผู้กำกับที่นำสิ่งต่างๆ มาใช้ในหนังเรื่องนี้ เป็นสิ่งที่น่าศึกษายิ่ง…

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.50 / 6.00


VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 1.8/5 (4 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies P - R Tagged with: , , ,

Paranormal Activity 1 (2007) Reality ขนหัวลุก
December 23rd, 2012 by ฟิล์มสยอง
Paranormal Activity 1 (2007) Reality ขนหัวลุก

Paranormal Activity 1 (2007) Reality ขนหัวลุก

Paranormal Activity (2007)
นำแสดง: Katie Featherston (Katie), Micah Sloat (Micah), Mark Fredrichs (The Psychic), Amber Armstrong (Amber) และ Ashley Palmer (Diane – Girl on Internet)
กำกับและเขียนบท: Oren Peli
ประเภท: Mystery / Horror / Thriller

Paranormal Activity 1 (2007) Reality ขนหัวลุก

Paranormal Activity 1 (2007) Reality ขนหัวลุก

เรื่องราวของเรียลลิตี้ขนหัวลุก กล่าวถึง คู่รัก Katie และ Micah กับบ้านสยองที่ Katie เชื่อว่ามีผีคอยตามหลอกหลอนเธออยู่ แต่มันจะเป็นอย่างไร เมื่อความลี้ลับนั้นไม่ได้เกิดจากตัวบ้าน หากแต่มันเกิดกับตัว Katie เอง ที่หมอผีหรือคนทรงเจ้าบอกกับเธอว่า ไม่ว่าเธอจะไปอยู่ที่ไหน ก็ไม่สามารถหนีพ้นได้ มันจะตามหลอกหลอนเธอไปทุกที่
Micah สามีสุดซ่าส์พยายามพิสูจน์เรื่องดังกล่าวโดยซื้อกล้องวิดีโอคอยบันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันตั้งแต่ตื่นยันช่วงเวลานอน และพวกเขาก็พบกับเหตุการณ์ประหลาดขึ้นจริงๆ !

Paranormal Activity
นี่ไม่ใช่หนังสยองเลือดสาด หรือหนังประเภทผีหน้าแหวะ หน้าขาวออกมาหลอกหลอนกันนะครับ มันเป็นหนังประเภทโฮมวิดีโอ เก็บ Footage ของหนังมาเล่าเรื่องภายหลังจากเหตุการณ์สยองได้ผ่านพ้นไปแล้ว ลักษณะเดียวกับ The Blair Witch Project (ผู้ชมบางท่านนำไปเปรียบเทียบกับ REC หรือ Quarantine ในฉบับฮอลิวู๊ด แต่ผมว่าตัวหนังไม่ได้ตื่นเต้นด้วยอารมณ์ไล่ล่าของผีซอมบี้อย่าง REC ครับ เพราะงั้นอย่าเข้าไปผิดนะ เดี๋ยวตอนหาหนังมาดูจะผิดหวังซะเปล่าๆ) หนังเริ่มบิ้วอารมณ์ตั้งแต่ประตูเปิดปิดเองได้ จนถึงเสียงหลอกหลอนใกล้ตัว เช่นเสียงเดิน เสียงวิ่ง หรือเสียงทุบ จนถึงวัตถุเคลื่อนไหวเองอย่างที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ฉากที่ Katie ลุกขึ้นมาจ้องสามีของเธอหลับยาวนาน 2 – 3 ชั่วโมงโดยที่ตัว Katie เองไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังทำอะไรอยู่ ก็หลอนได้อารมณ์ไม่น้อย Paranormal Activity ไม่ได้มีผีโผล่ออกมาให้เห็นเป็นตัวเป็นตน จะมีเฉพาะฉากที่พิสูจน์ผีโดยการโรยแป้งไว้ตามพื้นและพวกเขาก็เห็นเป็นรอยเท้าเกิดขึ้นมาจริง ๆ เท่านั้น นอกจากนั้นในฉากหลังๆ คุณคงต้องพิสูจน์กันเอง เพราะตอนจบก็ยังมีให้เลือกแบบได้ด้วย

No name กันตั้งแต่ผู้กำกับยันนักแสดง
ต้องบอกเลยว่าตั้งแต่ชื่อของผู้กำกับ Oren Peli จนถึงชื่อของดารานำหลัก 2 คนคือ Katie และ Micah ล้วนแล้วแต่ no name ครับ เป็นการดีที่ผู้กำกับไร้ชื่อสามารถสร้างชื่อได้มากมายล้นหลาม เนื่องด้วยไอเดีย ความคิดแหวกแนว และประสบการณ์สยองที่เขาได้พบเจอมากับตัวจึงสามารถถ่ายทอดเรื่องราวใกล้ตัวคุณ ได้ด้วยมุมมองที่น่าสนใจ ส่วน Katie กับ Micah ก็เป็นดาราใหม่ที่เล่นบทบาทได้อย่างเป็นธรรมชาติราวกับเป็นสามีภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกันจริงๆ (หลังจากเดินสายจากหนังเรื่องนี้ คิดว่าสองคนนี้น่าจะมีงานเข้ามากมายกันล่ะทีนี้)

หนังเริ่มออกฉายตามเทศกาลหนังสยองในปี 2007 และได้ไปเข้าตาคนในจาก Dream Works จนถูกส่งต่อถึงมือของสปีลเบิร์ก จากคำกล่าวถึงหนังเรื่องนี้ของสปีลเบิร์ก ยิ่งทำให้ยิ่งปลุกกระแสเรียลลิตี้ขนหัวลุกขึ้นไปอีก เราจะเห็นภาพการทำ PR หนังโดยเปิดฉายให้มวลชนเข้ามาตัดสินความสยองที่เกิดขึ้น การทำ PR หนังโดยถ่ายภาพผู้ชมที่กำลังอินน์ไปกับเรื่องราวสยองนี้มีให้เห็นอยู่ทั่วไป แม้แต่พี่ไทยเราก็ใช้การทำ PR แบบนี้ คือให้เห็นภาพคนกลัวจริง ๆ และก็มีการสัมภาษณ์ผู้ชมหลังจากดูจบ ซึ่งมันได้ผลเกินคาดจากกระแสตอบรับของผู้ชมสยองทั่วโลก!

หนังใช้ทุกสร้างประมาณหมื่นกว่าดอลล่าห์แต่สามารถทำเงินถล่มทลายเป็นหลักล้านกันแล้วตอนนี้ ซึ่งคาดว่ายอดรายได้น่าจะทะลุอย่างไม่หยุดยั้งไปอีกช่วงระยะเวลาหนึ่งแน่นอน ด้วยกระแสปากต่อปาก ด้วยกระแสสื่อทางอินเตอร์เน็ตทำให้หนังเรื่องนี้ไม่หยุดนิ่ง ยังคงเล่าขานกันไปเรื่อยๆ ที่แน่ ๆ เห็นข่าวว่าทางผู้กำกับมีโปรเจ็กต์ที่จะจัดทำ Paranormal Activity 2 ก็หวังว่าอย่าให้เหมือน The Blair Witch Project ที่ทำภาค 2 ออกมาห่วยได้ใจครับ

หลายคนบอกว่าหนังเรื่องนี้น่าเบื่อ ไปดูแล้วก็หลับไม่ได้อินน์หรือตื่นเต้นหลอนจริงอย่างคำโปรยจากหลาย ๆ สำนักสื่อ แต่สำหรับผมมันเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ยากจะปฏิเสธกับเหตุการณ์ลี้ลับที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้
เมื่อใกล้ตัว ตัวหนังที่เราดูก็ยิ่งรู้สึกได้อารมณ์หลอน
แนะนำครับ โดยเฉพาะผู้เคยเจอผี!

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 5.50 / 6.00

Updated 23/12/2012: ขณะกำลังนำบทความที่เขียนไว้หลายปีที่แล้วขึ้นเว็บฟิล์มสยองตอนนี้ ในปี 2012 Paranormal Activity ถูกทำออกมาจนถึงภาคที่ 4 แล้วนะครับ เดินทางมาได้ไกลทีเดียว ตัว Oren Peli ผู้กำกับนั้นก็โด่งดังไปด้วยชื่อเสียง เงินทอง สำหรับผมยกย่องให้ภาค 1 ภาคนี้ภาคเดียวที่ได้ใจไปเลย นอกนั้น เพื่อนๆ หลายคนคงได้ดูกันแล้ว ใครที่ยังไม่ได้ดีก็ไปหามาดูกัน และตัดสินกันเอาเองครับ ไว้มีเวลาจะนำภาคอื่นๆ มาเขียนรีวิวให้อ่านกัน


VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 5.0/5 (1 vote cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies P - R Tagged with: , , , , ,

The Quiet Family (1998) ผลงานยอดเยี่ยมชิ้นแรกจาก Kim Ji-Woon ผู้กำกับหนังเรื่องดังอย่าง A Tale of Two Sisters
December 23rd, 2012 by ฟิล์มสยอง
The Quiet Family (1998) ผลงานยอดเยี่ยมชิ้นแรกจาก Kim Ji-Woon ผู้กำกับหนังเรื่องดังอย่าง A Tale of Two Sisters

The Quiet Family (1998) ผลงานยอดเยี่ยมชิ้นแรกจาก Kim Ji-Woon ผู้กำกับหนังเรื่องดังอย่าง A Tale of Two Sisters

The Quiet Family (1998)
Choyonghan kajok
นำแสดง: Park In-hwan (Kang Tae-gu : Father), Na Mun-hee (Mrs. Kang), Song Kang-ho (Kang Yeong-min : Son), Choi Min-sik (Kang Chang-ku : Uncle) , Go Ho-kyung (Kang Mi-na : Daughter), Lee Yun-seong (Kang Mi-su : Daughter)
กำกับและเขียนบท: Kim Ji-woon
ประเภท: Comedy/ Thriller / Crime / Horror

The Quiet Family (1998) ผลงานยอดเยี่ยมชิ้นแรกจาก Kim Ji-Woon ผู้กำกับหนังเรื่องดังอย่าง A Tale of Two Sisters

The Quiet Family (1998) ผลงานยอดเยี่ยมชิ้นแรกจาก Kim Ji-Woon ผู้กำกับหนังเรื่องดังอย่าง A Tale of Two Sisters

หนังตลกร้ายชั้นดีของผู้กำกับ Kim Ji-Woon ผลงานเรื่องแรกที่สร้างเอาไว้ได้อย่างน่าประทับใจยิ่งนัก ซึ่งผลงานภาพยนตร์ของเขาผู้นี้ ผมว่าหลายคนน่าจะรู้จัก Kim Ji-Woon กันดีอยู่แล้วจากภาพยนตร์สยอง เรื่อง A Tale of Two Sisters, Three : Extreme II ในตอน Memories และ ล่าสุด A Bittersweet Life เรียกว่าหนังแต่ละเรื่องที่เป็นผลงานของ Kim Ji-Woon นั้นการันตีความสนุกสนาน สยอง และเขย่าขวัญได้ ไม่แพ้ผู้กำกับชื่อดังคนอื่นๆ

The Quiet Family เป็นผลงานชิ้นแรกของ Kim Ji-Woon ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขันในแบบตลกร้าย ทั้งฮาแบบอันลิมิต ทั้งเขย่าขวัญ ทั้งสยองด้วยการนำเรื่องราวการฆาตกรรมมาบอกเล่าบนโต๊ะอาหาร ราวกับว่าเป็นเรื่องราวในชีวิตประจำวัน ธรรมดาๆ ซะงั้น…

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ครอบครัวคัง ซึ่งเป็นครอบครัวธรรมดาๆ ครอบครัวหนึ่ง ไปปักหลักตั้ง Lodge หรือ บ้านพักอาศัยอยู่บริเวณภูเขา กะว่าจะเป็นที่พักสำหรับนักไต่ปืนเขาทั่วไป แต่แล้ว กิจการที่เขาเพิ่งซื้อมา กลับไม่เป็นอย่างที่คิด ผู้คนที่จะเข้ามาพักนั้นมีน้อยเหลือเกิน โชคร้ายเท่านั้นยังไม่พอ แขกรายหนึ่งที่มาพักเป็นรายแรก ดันมาฆ่าตัวตายในบ้านพักของพวกเขาอีกด้วย พวกเขาไม่กล้าที่จะแจ้งตำรวจ เพราะกลัวโดนปิดกิจการ จึงได้นำศพไปฝังเอาไว้ โชคร้ายที่พวกเขาดันหากระเป๋าเงินของผู้ตายไม่เจอ จนแขกรายต่อๆ ไปมาพบเข้า ด้วยความที่ต้องทำลายหลักฐาน การฆ่าปิดปากจึงได้เริ่มต้นให้ครอบครัวคัง กลายเป็นครอบครัวที่เห็นเรื่องการ “ฆ่า” เป็นเรื่องธรรมดาที่กระทำในชีวิตประจำวัน…

The Quiet Family พยายามฉายภาพให้เห็นถึงการตกกระไดพลอยโจน (เขียนงี้เปล่า?) กับการ “ฆ่าปิดปาก” ซึ่งเป็นเหตุผลในการสร้างฆาตรกรจำเป็นขึ้นมา โดยมีพื้นฐานเป็นแววด้านมืดของครอบครัวคัง ภาพยนตร์เป็น Black Comedy ที่แฝงไปด้วยฉากโหด ๆ แต่นำบทขำ ๆ ด้วยตัวละครที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองมากลบเกลื่อนความโหดที่แอบแฝงอยู่ในหนังตลอดเรื่อง ผนวกกับอารมณ์เพลงประกอบภาพยนตร์ที่ลงตัว และเหมาะเจาะในทุกฉาก มันสร้างแรงกระตุ้นให้ลุ้นถึงฉากต่อๆ ไปของหนังได้อย่างกลมกล่อมเลยทีเดียว

ตัวหนังได้รางวัล Fantasia Section Award สาขา Best Film : Live Action จากงาน Fantasporto ในปี 1999 จนถึงปี 2000 หนังได้สองรางวัลควบทั้ง Best Director และ Best Film จากงาน Malaga International Week of Fantastic Cinema ด้วย จะว่าไป The Quiet Family เป็นผลงานที่สร้างชื่อให้กับ Kim Ji-woon เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และกลับมาตอกย้ำความดังอีกครั้งในเรื่อง A Tale of Two Sisters อีกด้วย

การันตีความสนุก ฮา เขย่าขวัญ กันแบบนี้แล้ว และใครที่ชื่นชอบผลงานเรื่อง A Tale Of Two Sisters แล้วนั้น ห้ามพลาด The Quiet Family ด้วยประการทั้งปวงครับ

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 5.50 / 6.00


VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 5.0/5 (2 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies P - R Tagged with: , ,

รีวิวหนังสยอง P2 (2007) ลานสยอง จ้องเชือด
December 20th, 2012 by ฟิล์มสยอง
รีวิวหนังสยอง P2 - ลานสยอง จ้องเชือด

รีวิวหนังสยอง P2 – ลานสยอง จ้องเชือด

P2 (2007)
พี 2 ลานสยอง จ้องเชือด
กำกับ: Franck Khalfoun
เขียนบท: Alexandre Aja (story) & Gregory Levasseur (story)
นำแสดง: Wes Bentley (Thomas), Rachel Nichols (Angela)
ประเภท: Thriller / Horror

รีวิวหนังสยอง P2 (2007) ลานสยอง จ้องเชือด

รีวิวหนังสยอง P2 (2007) ลานสยอง จ้องเชือด

“Merry Christmas, TOM!!!”

เมื่อ “โทมัส” หรือ “ทอม” ยามหนุ่มโรคจิตเฝ้ามองพฤติกรรมของ “แองเจลล่า” สาวออฟฟิศผู้อุทิศตนให้กับงานจนลืมแบ่งเวลาให้กับชีวิตส่วนตัว เขาเฝ้ามองอยู่นาน ไม่ใช่แค่วัน…แต่เป็นเดือน จากการเฝ้ามองลุ่มลึกสู่ความชอบพอ จนถึงความหลงใหล

วันเกิดเหตุเป็นคืนวันคริสมาสต์อีฟ ทุกคนในออฟฟิศต่างพากันกลับบ้านเร็วเพื่อไปฉลองกับครอบครัว แองเจลล่า เธอยังนั่งทำงานอยู่อย่างขะมักเขม้น ครอบครัวโทรตามตัวให้รีบกลับไปให้ทันฉลองกับที่บ้าน เธอสัญญาไว้แบบนั้นจึงรีบเคลียร์งาน แต่ก็กลับเป็นคนสุดท้ายของออฟฟิศอยู่ดี ด้วยเหตุที่บังเอิญหรือไม่ ไม่ทราบ รถเธอสตาร์ทไม่ติด ยามหนุ่มหยิบยื่นมิตรไมตรีช่วยเหลือเธอ แต่หารู้ไม่ว่า ความสยดสยองกำลังจะเริ่มต้นขึ้นที่ลานจอดรถชั้น “P 2”

P 2 ลานสยอง จ้องเชือด
หนังเรื่องนี้ได้ดารานำอย่าง Wes Bentley มารับบทเป็น Thomas หรือ ทอม ยามหนุ่มโรคจิต หนุ่มคนนี้เคยรับบทเป็น Blackheart ใน Ghost Rider (จำกันได้มั้ยครับ) หน้าตาพี่เขาแสดงบทบาทของคนโรคจิตได้นิ่งดีครับ ความหลากหลายของพฤติกรรม และอารมณ์ที่แปรปรวนอยู่ตลอดเวลา เขาทำให้เราเห็นทั้งภาพของคนโรคจิต ภาพของคนที่หลง(ใหล)รักผู้หญิง ภาพของคนที่น่าสงสาร (ออกไปทางน่าสมเพช) ภาพของคนเหงาที่ต้องลำพังในสถานที่ไร้ผู้คนในยามวิกาล โดยเฉพาะการแสดงที่ต้องแสดงกันอยู่ 2 คนแบบนี้ ถือว่าสอบผ่านอย่างสบายๆ เลย สำหรับสาวออฟฟิศเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายนั้น รับบทโดย Rachel Nichols เธอคนนี้ผ่านงานแสดงซีรีส์มาก็เยอะ ความเซ็กส์ซี่คงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเป็นหนึ่งในจุดขายของเธอ หรือของภาพยนตร์เรื่องนี้ หากพูดถึงการแสดงก็ถือว่าไม่ดี แต่ก็ไม่เลวร้ายครับ โดยเฉพาะหนังประเภทแบบนี้ อารมณ์หวีดแตกของเหยื่อน่าจะทำให้ได้เร้ามากกว่านี้คงจะดี

ผู้กำกับ Franck Khalfoun เคยรับบทเป็นจิมมี่ในหนังเรื่อง Haute Tension ของผู้กำกับมากฝีมือ Alexandre Aja ครั้งนี้ Franck กลับมาด้วยบทบาทของผู้กำกับ และได้ Alexandre Aja มาทำหน้าที่เขียนบทภาพยนตร์ให้ ตัว Aja เองก็ยังได้ดึงมือเขียนบทคู่ใจอย่าง Gregory Levasseur ผู้ทำหน้าที่เขียนบทร่วมกับ Aja มาแล้ว ในเรื่อง Haute Tension และ The Hills Have Eyes สำหรับ P 2 มือเขียนบททั้งสองได้แรงบันดาลใจจากข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับพนักงานออฟฟิศที่ถูกยามคุมคามในที่จอดรถ เรื่องราวของ P 2 จึงได้เกิดขึ้น…

สำหรับเรื่องนี้ หลายคนอาจจะบอกว่า นี่เป็นพล๊อตหนังแบบฉบับของภาพยนตร์ Thriller / Horror แบบเดิม ๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ความกดดัน อึดอัด เหยื่อผู้ถูกคุมคาม และผู้ล่าเหยื่อที่มีอำนาจเหนือ เป็นสิ่งที่ปรากฏอยู่ในหนังประเภทนี้อยู่แล้ว หากในความคิดของผมนั้น ผมว่า มุมมองการถ่ายทอดในแบบเสมือนจริง ที่ผู้ล่าเหยื่อยังมีความเป็นมนุษย์ที่สามารถที่จะผิดพลาด มีความเกรงกลัวต่อเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้แบบนี้ เป็นสิ่งที่ฆาตกรโรคจิตในยุคนี้แทบจะไม่มีครับ ส่วนใหญ่จะโหดและเก่งชนิดไร้ที่ติด ภาพยนตร์ระทึกขวัญในแบบ Thriller เรื่องนี้จึงไม่ได้แย่มากมาย ผสมกับความโหดสยองในแบบ Horror ที่เราเห็นได้ทั้งฉากที่ฆ่าผู้ชายคนที่มาลวนลามนางเอกอย่างโหดเหี้ยม ทั้งใช้กระบองตี ขับรถบี้อัดติดกับกำแพงอย่างทารุณ โหดเหี้ยม จนถึงในหลายๆ ฉากของสถานการณ์จนตรอกของนางเอกสาวที่ต้องเดินหน้าลุย…เพื่อความอยู่รอด มีอัดใส่ความรุนแรงสยองในแบบ Horror มาเป็นระยะ ๆ

หากมองว่าเป็นหนังระทึกขวัญ สยองขวัญธรรมดาๆ ก็มองได้…
แล้วแต่มุมมองของใครที่จะอินกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมากที่สุด

ส่วนตัวผมโอเคนะ…ลุ้นเอาใจช่วยนางเอกอยู่ตลอด ^ ^

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.00 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 3.5/5 (6 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies P - R Tagged with: , ,

Porn of the DEAD (2005) หนังซอมบี้โป๊ดิบๆ จากผลงานของ Rob Rotten
December 16th, 2012 by ฟิล์มสยอง
Porn of the DEAD (2005) หนังซอมบี้โป๊ดิบๆ จากผลงานของ Rob Rotten

Porn of the DEAD (2005) หนังซอมบี้โป๊ดิบๆ จากผลงานของ Rob Rotten

Porn Of The Dead (2005)
นำแสดง: Joey Ray, Johnny Thrust, Buster Good, Trent Tesoro, Alec Knight, Dirty Harry
กำกับ: Rob Rotten
ประเภท: Porn / Horror / Exploitation

Porn of the DEAD (2005) หนังซอมบี้โป๊ดิบๆ จากผลงานของ Rob Rotten

Porn of the DEAD (2005) หนังซอมบี้โป๊ดิบๆ จากผลงานของ Rob Rotten

ภาพยนตร์ (โป๊) ของ Rob Rotten หนุ่มพังก์ ดาราหนังโป๊ผู้โด่งดัง และเจ้าของสังกัด Punx Productions ด้วยการเคารพต่อลุง George A. Romero เฮีย Rob แกเลยขอสังเวยภาพยนตร์ (โป๊) ในเส้นทางของ Romero จนได้ผลงานออกมาเป็น Porn of the Dead ภาพยนตร์ (โป๊) ที่สร้างชื่อให้เฮียแกไม่น้อย…เรื่องราวของหนังจะเป็นอย่างไรนั้น ลองติดตามกัน…

หนังเปิดตัวขึ้นมาด้วยภาพของหนุ่มโรคจิตขับรถผ่านสาวดูท่าทางแปลกๆ และจัดการรับสาวคนนั้นกลับไปด้วย โดยหวังว่าจะได้ชำแหละหล่อนในบ้านแห่งหนึ่งที่ดูสภาพไม่ต่างกับโรงฆ่าสัตว์…แต่ก่อนที่หนุ่มโรคจิตจะชำแหละ สาวที่ดูราวซอมบี้กลับกระชากเสื้อผ้าของหนุ่มโรคจิตออก และเริ่มต้นบทเซ็กส์ด้วยการทำ Oral อย่างกระหายและเมามัน…ฉากร่วมรักเกือบ 20 นาที ก่อนจะจบที่ความสุขหรรษา หนุ่มหลั่งน้ำออกมา ก่อนที่หญิงโรคจิตจะกัดน้องชายออกเป็นท่อนๆ ราวถูกมีดทื่อๆ เฉือนก็ไม่ปาน…

พาร์ทสอง เปิดภาพมาด้วยสาวน้อยหน้าใส บรรจงดูดไอติม พร้อมช่วยตัวเองอย่างเมามัน Rob ทำภาพออกมาสีนวล สวยงาม ตัดกับพาร์ทแรกที่สีสันออกมาดิบ เถื่อน…ก่อนที่จะเปิดพาร์ทสามด้วยเพลง Death metal โหดสะท้าน ฟิล์มกลับไปในแนวเดียวกับพาร์ทแรกด้วยสีทะมึน มืด ๆ พร้อมฉากร่วมรักของหนุ่มเพ้นท์หน้าตาราวกับคนป่า กับสาวหน้าตาสวย…ฉากรักเร่าร้อน รุนแรง กับลีลา 108 ท่วงท่า ประกอบเพลงเมทัล ทั้ง Death ทั้ง Grind ทั้ง Brutal อาทิ Decapitated, Enthroned, Gorrotted เป็นต้น

หมดพาร์ทสาม ต่อด้วย พาร์ทสี่จะเป็นฉากการร่วมรักที่ดูเหมือนว่าจะอยู่ในกองถ่ายทำ แล้วก็มีไอ้มนุษย์สุดโหดที่แต่งหน้าตาแบบคนป่าในพาร์ทสามมาคอยด้อมๆ มองๆ และลงมือฆ่าคนในกองถ่ายอย่างโหดเหี้ยม ภาพการควักตับไต ไส้พุงของคนในกองถ่ายมากินอย่างเอร็ดอร่อย…ตอนนี้มนุษย์คนป่ากระหายเซ็กส์ไม่ได้มาตนเดียวครับ แกมากันสามตน..ฉากร่วมรักแบบเซ็กซ์หมู่จึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง…จบพาร์ทสี่ ต่อด้วยพาร์ทห้า

สาวคนนึงถูกจับวางนอนลงบนแท่นบูชา หนุ่มหื่นในชุดกราวนด์บรรจงเล้าโลมหล่อนจนอารมณ์ได้ที่ แล้วฉากเซ็กส์บรรเจิดก็เริ่มต้นอีกครั้ง ในพาร์ทที่หก เปิดฉากด้วยห้องกักขังสาวบ้าคลั่งศาสนาที่ดูเหมือนหล่อนมีสภาพเป็นศพไปแล้ว ในห้องที่เต็มไปด้วยภาพของไม้กางเขนกลับหัวอยู่เต็มห้องไปหมด เจ้าหน้าที่หนุ่มแอบถอดเสื้อสาวบ้าผู้นั้นออกแล้วจัดการรักร่วมศพ

แต่เหตุการณ์ไม่เป็นอย่างที่คิด ศพที่นอนตายอยู่กลับเริ่มเคลื่อนไหวและมีปฎิกริยาตอบโต้..อยู่ดีๆ สาวบ้าสภาพศพก็กระโจนลุกขึ้นถอดกางเกงของเจ้าหน้าที่ออก แล้วบรรจงทำ Oral อย่างเมามันอีกครั้ง…ภาพความรุนแรงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง เมื่อเจ้าหน้าที่เกิดอารมณ์เอานิ้วแหย่ให้สาวศพอม แต่หล่อนไม่อบอย่างเดียว หล่อนจัดการกัดนิ้วเจ้าหน้าที่ขาดเลือกโชก ความแค้นของเจ้าหน้าที่ปะทุขึ้น จึงประเคนเซ็กส์บทหนักให้กับสาวศพ…ฉากสุดท้ายที่เต็มไปด้วยความรุนแรงอีกครั้ง เมื่อสาวศพกัดน้องชายของเจ้าหน้าที่ขาดกระจุย นอกจากนั้นหล่อนยังกัดท้อง ควักไส้ออกมากัดกินอย่างเอร็ดอร่อย….

Porn of the Dead ก็คือหนังโป๊ ที่แต่งหน้าตาดาราในสไตล์ซอมบี้…ความยาวร่วมกว่า 100 นาที ประกอบกับดนตรี Metal โหดสุดขั้วเปิดประกอบฉากร่วมรัก พ่วงด้วยบทจบขึ้นสรวงสวรรค์ในแบบ Gore ด้วยภาพโคตรรุนแรง ที่ห้ามพลาดช็อตนั้นกันเลยทีเดียว นอกจากนั้นยังใส่ฉากการควักไส้ควักพุง กินตับไตไส้พุงมาให้ดูกันด้วย…

หนังโป๊ซอมบี้ในอีกรูปแบบที่คอหนังสยองอย่างเราๆ ไม่ควรพลาดนะ เหอ เหอ เหอ

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 2.69 / 6.00


VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 2.3/5 (3 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies P - R Tagged with: , , , ,

Playhouse (2003) สยองจ้องสยอง หนัง Horror Black Comedy
December 16th, 2012 by ฟิล์มสยอง
Playhouse (2003) สยองจ้องสยอง หนัง Horror Black Comedy

Playhouse (2003) สยองจ้องสยอง หนัง Horror Black Comedy

Playhouse (2003)
สยองจ้องสยอง
นำแสดง: Nikitas Menotiades (Detective Eustas Black), Ross Donaldson (Janitor Connelly), David Friday (Officer Myron Koss), Andy Parks (Officer Byron Randal), Holly Bryant Scott (Jessica), Todd Betker (Kevin), Dalla Andracchio (Sarah), Ola Creston (Katie), Joe Stile (Arnold), John Yost (Tom Kichosniakowski)
กำกับและเขียนบท: Hunter F. Roberts
ประเภท: Horror Black Comedy

Playhouse (2003) สยองจ้องสยอง หนัง Horror Black Comedy

Playhouse (2003) สยองจ้องสยอง หนัง Horror Black Comedy

เรื่องย่อ…
จะเป็นยังไงเมื่อโรงละครที่คุณกำลังซ้อมแสดงอยู่ เป็นโรงละครผีสิง…เหตุเกิดที่โรงละครแห่งหนึ่งในพิสเบิร์ก เมื่อกลุ่มนักศึกษากำลังซ้อมแสดงละครเวที แล้วต้องมาพบกับเหตุการณ์แปลกประหลาดตั้งแต่อาจารย์ผู้สอนแสดงต้องมาตายอยู่บนเวที และต่อมาเพื่อนๆ ในกลุ่มของพวกเขาก็เริ่มหายตัวไปอย่างลึกลับ เหตุการณ์ประหลาดเริ่มรุนแรงขึ้น เมื่อนักสืบแบล็กและลูกน้องเข้ามาทำคดีนี้..จะเป็นอย่างไรเมื่อพวกเขาต้องเผชิญกับสิ่งเร้นลับเหนือมนุษย์ ปีศาจ ผี วิญญาณร้าย ที่เดินทำท่าออกแนวซอมบี้สยองขวัญ สั่นประสาทกระตุกต่อมฮาให้ต้องขำเล็กๆ ปนกับความขยะแขยง สุดแหวะในแบบ Horror ติดตามกันได้ในรูปแบบดีวีดีครับ…

เรื่องราวที่ถ่ายทอดจากประสบการณ์จริง…
เรื่องนี้อันที่จริงแล้วถ่ายทอดมาจากเหตุการณ์จริง ที่ว่าด้วยเรื่องราวของผีในโรงละคร Pittsburgh ตัวละครหลายตัวในเรื่องนี้รวมทั้งตัวผู้กำกับ Hunter F. Robert ก็เคยใช้โรงละครที่ว่านี้มาแล้ว ตอนก่อนถ่ายทำทางทีมงานก็ว่าจะใช้โรงละครที่มีร่ำลือว่ามีผีนี้เป็นสถานที่ถ่ายทำจริง แต่แล้วก็มีเหตุจำเป็นให้ต้องเปลี่ยนไปใช้สถานที่อื่นใน Pittsburgh แทน

อีกหนึ่งผลงานในแบบ Horror Black/Dark Comedy ที่น่าสนใจ…
ชื่อหนัง Playhouse ที่ชี้ให้เห็นเลยว่าเป็นโรงละคร การถ่ายทำและภาพจึงออกมาในลักษณะของการถ่ายทำละคร มีมุมมอง มุมกล้องแปลกๆ การตัดต่อภาพที่น่าสนใจ บทและท่าทางที่ล้อเลียนหนังจำพวกตลกใบ้ นำมาใช้ในเรื่องนี้ได้อย่างมีสเน่ห์เหลือหลาย อย่างที่บอกครับ หนังเป็น Black/Dark Comedy ตลก(โหด)ร้าย ที่ทำเอาเรายิ้มมุมปากได้นิดนึงแล้วก็ต้องแหวะ เพราะ Hunter Robert ใส่ความสยองหัวแบะในแบบ Horror เข้าไปเยอะทีเดียว นอกจากนี้แล้ว ผีที่ว่าในเรื่องยังออกแนว ผีซอมบี้ เดินโหย่งๆ ในโรงละครให้พล่าน ยิ่งกว่านั้น เจ้าผีที่มาในคาแรกเตอร์ของซอมบี้ ยังหายตัว แว็บไป แว็บมาได้อีกต่างหาก

รางวัลรับประกันคุณภาพ…
เห็นเป็นหนังตลกร้าย Black Comedy พันธุ์ Horror ยังงี้…Playhouse ก็ได้รับรางวัลมาแล้วเหมือนกัน อาทิ ชนะเลิศ Best Feature : รางวัล Honorable Mention จาก Denver Underground Film Festival และเข้าชิงรางวัล EERIE Horror และ Int’l Film Festival อีกด้วย

ใครนิยมหนังสยอง แล้วก็อยากดูหนังขำๆ มุมปากเล็กน้อย ผสานกับหนังแปลก ๆ ทั้งมุมกล้อง บท การถ่ายทำ การตัดต่อภาพ ที่ดูแล้วแปลกไปจากหนังตลาดทั่วไป ลองหาซื้อ Playhouse มาดูกันครับ เปิดหูเปิดตากันหน่อย

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 4.00 / 6.00


VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 4.0/5 (3 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies P - R Tagged with: , , ,

Pan's Labyrinth (2006) อัศจรรย์แดนฝัน มหัศจรรย์เขาวงกต
December 15th, 2012 by ฟิล์มสยอง
Pan's Labyrinth (2006) อัศจรรย์แดนฝัน มหัศจรรย์เขาวงกต

Pan’s Labyrinth (2006) อัศจรรย์แดนฝัน มหัศจรรย์เขาวงกต

Pan’s Labyrinth (2006)
The Labyrinth of the Faun | Laberinto del fauno, El | อัศจรรย์แดนฝัน มหัศจรรย์เขาวงกต
นำแสดง: Ivana Baquero (Ofelia), Sergi Lopez (Capitan Vidal), Maribel Verdu (Mercedes), Doug Jones (Pan/Pale Man), Ariadna Gil (Carmen Vidal), Alex Angulo (Dr. Ferreiro), Manolo Solo (Garces), Cesar Vea (Serrano), Roger Casamajor (Pedro), Ivan Massague (El Tarta), Gonzalo Uriarte (Frances), Eusebio Lazaro (Padre – Father), Francisco Vidal (Cura – Priest as Paco Vidal), Juanjo Cucalon (Mayor), Lina Mira (Mayor’s Wife)
กำกับและเขียนบท: Guillermo del Toro
ประเภท: Drama / Fantasy / Thriller

Pan's Labyrinth (2006) อัศจรรย์แดนฝัน มหัศจรรย์เขาวงกต

Pan’s Labyrinth (2006) อัศจรรย์แดนฝัน มหัศจรรย์เขาวงกต

หลังจากที่ Del Toro สร้างความประทับใจให้ผมไปไม่น้อยกับหนังเรื่อง The Devil’s Backbone (2001) และ ก็ต้องยอมรับว่ากับผลงานเรื่อง Blade II และ Hellboy ไม่ค่อยสะดุดต่อมน่าสนใจเท่าไร จึงขอผ่านไปแต่โดยดี…กลับมาอีกที คือ ผลงานของเขากับเรื่อง Pan’s Labyrinth “Dark Goth fairy tale” หม่นหมอง ย้อมความหดหู่ ในหัวใจได้สนิท…

เรื่องย่อ: สาวน้อยโอฟีเลีย ต้องเดินทางกับคุณแม่ท้องแก่เพื่อไปอยู่กับกัปตันวิดัล นายทหารผู้คอยปราบกบฏอยู่ในเขตชนบททางตอนเหนือของประเทศสเปน ตอนปี 1944 หลังการได้รับชัยชนะของฟรานโก ภาพแห่งสงครามการต่อสู้ระหว่างนายทหารกับกลุ่มกบฏกับชีวิตความเป็นอยู่ตามแบบของลัทธิฟาสซิสต์ จึงเป็นภาพสุดโหดร้ายในสายตาของสาวน้อยโอฟีเลีย

ในขณะโลกแห่งความเป็นจริงมีแต่ความโหดร้าย สาวน้อยโอลีเฟีย เธอได้สร้างโลกจินตนาการอันสวยงามของเธอเอง เพื่อจรรโลงใจ และหลีกหนีความโหดร้ายในโลกความจริง การดำรงชีวิตที่เต็มไปด้วยการต่อสู้…ความจริงหรือจินตนาการ ร่วมผจญภัยไปกับสาวน้อยโอฟีเลียได้ครับ…

อัศจรรย์แดนฝัน มหัศจรรย์เขาวงกต…หดหู่ ดำมืด สงคราม ความรุนแรง และโหด!
“อัศจรรย์แดนฝัน มหัศจรรย์เขาวงกต” ชื่อภาษาไทยของหนังเรื่องนี้ที่ผมว่า ตอนหนังเข้าโรงคงมีผู้ใหญ่หลายคนหลงพาเจ้าตัวเล็กเข้าไปดูไม่น้อยล่ะครับ ไม่แน่ใจเพราะทางการตลาดที่ต้องการจะเจาะกลุ่มลูกค้า พ่อ แม่ ผู้ใหญ่ จูงลูกหลานมาดูด้วยอีกกลุ่มหรือไม่ แต่ต้องขอเตือน คุณพ่อ คุณแม่ที่จะไปซื้อ DVD มาให้ลูกหลานดู เพราะนึกว่าเป็นหนังเทพนิยาย Fantasy น่ารักจุ๋มจิ๋ม เพลินเพลิดตระการตา หาไม่ได้ครับ…ยังไงขอเตือนไว้ก่อน พลาดไปซื้อมา แล้วจะมาด่าคนนำลิขสิทธิ์มาขายทีหลัง มันก็ไม่ถูกจริงมั้ยครับ…

แล้วไอ้เหตุผลที่ว่าทำไมเจ้าตัวเล็กถึงไม่ควรดู ก็เหมือนอย่างที่ผมจั่วหัวไปนั่นแหละครับ…”หดหู่ ดำมืด สงคราม ความรุนแรง และโหด!” หนังครบรสชาดความเป็น Thriller/Drama Fairy Tale ที่ใช้ความเป็น Dark Goth ด้วยภาพและเนื้อเรื่องเจ๋งๆ มาดำเนินได้อย่างเยี่ยมยอด ตั้งแต่บรรยากาศความตึงเครียดของชีวิตหลังสงคราม กบฏ ผู้จดจ้องจะกอบกู้อิสระภาพ และความเป็นธรรมในมุมมองของชนผู้น้อย ไม่รู้เฮีย Toro แกชื่นชอบบรรยากาศสงครามหรืออย่างไร เพราะเห็นหลายๆ เรื่องที่เป็นผลงานของ Toro มักชื่นชอบนำบรรยากาศในภาวะสงครามมาเป็นองค์ประกอบหนึ่งของหนังอยู่บ่อยๆ

นอกจากบรรยากาศหดหู่ในชีวิตจริงที่สาวน้อยโอฟีเลียต้องเผชิญกับการล้างเผ่าพันธุ์กบฏของพ่อเลี้ยง “กัปตันวิดัล” แล้ว สาวน้อยโอฟีเลียยังมีภาพชีวิตในฝันตามจินตนาการ และภาพที่เด็กน้อยคอยสร้างสรรจากเทพนิยายที่เธอชอบอ่านไม่ว่าจะเพื่อหลบหนีความจริงอันโหดร้าย หรืออย่างไรก็ตาม โลกแฟนตาซีของ โอฟีเลีย ใช่สดสวยงดงามอย่างที่เด็กคนอื่นนิยม ก็หาใช่ มันกลับกลายเป็นเทพนิยายหม่นหมอง อย่างตอนที่สาวน้อยโอฟีเลียนอนกอดคุณแม่ เอาหูแนบท้องกลมป่อง บอกเล่านิทานให้น้องชายในท้องฟังด้วยเรื่องของดอกกุหลาบที่เต็มไปด้วยหนามมีพิษ..(โอ้ว..ธรรมดาสักทีไหนล่ะ กับ บทที่เฮีย Toro แกเขียนเนี่ย)

ในฉากสุดท้ายที่เราได้ดูกัน คงเกิดคำถามว่า เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเป็นจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงจินตนาการของสาวน้อยโอฟีเลีย ที่เราเห็นภาพของกัปตันวิดัลยืนมองไปที่โอฟีเลียที่กำลังยืนคุยอยู่คนเดียว สิ่งนี้คงเป็นปมที่ Toro ทิ้งไว้ให้คนดูเอาไปคิดต่อสนุกๆ แต่ที่สำคัญหลังจากนี้คือ ฉากการเสียสละของโอฟีเลียให้น้องชายต่างบิดาที่เพิ่งคลอดลืมตาออกมาดูโลก..นั่นแหละคือสิ่งที่หนังหดหู่ มืดหม่นเรื่องนี้ กำลังสอนคนดูอย่างเรา ๆ

ส่วนเรื่องฉากโหดๆ นั้น มีให้เห็นอยู่ไม่กี่ฉากครับ แต่รับรองว่า ทำให้คุณเสียวท้องน้อยได้เลยแหละ
– ตั้งแต่กัปตันวิดัลเอาก้นขวดบรรจงทุบเข้าไปที่หน้าของชาวบ้านที่แกนึกว่าเป็นพวกกบฎ แต่ที่ไหนได้..นั่นเป็นชาวบ้านที่ออกมาล่ากระต่ายเท่านั้น (เฮีย Toro ตบมุขสุดท้ายเข้าไปที่การค้นกระเป๋าแล้วพบซากกระต่าย ก่อนที่จะบอกให้ทหารอีกนายตรวจตราสืบสวนให้ดีก่อน…เหตุการณ์นี้ เกิดหลังจากที่กัปตันฆ่าชาวบ้านทั้งสองคนตายแล้ว!)
– ฉากเจ้า Pale ปีศาจอีกตัวที่อยู่ใต้ดิน นำแสดงโดย โดก์ โจนส์ ที่คราวนี้ต้องมารับบทเป็นทั้ง Pale และ Faun (หรือ Pan เทพเจ้าผู้พิทักษ์แห่งเทือกสวนไร่น่าป่าเขา) ในฉากเมืองใต้ดินที่สาวน้อยโอฟีเลียทำผิดกฏ ดันไปกินผลไม้ที่ Faun สั่งห้าม ทำให้เจ้า Pale ตื่นขึ้นจากภวังค์ ในฉากนี้ สาวน้อยโอฟีเลียต้องสูญเสียแมลงนางฟ้า โดยเจ้า Pale จับแมลง นางฟ้ากัดกินอย่างเอร็ดอร่อย (ได้อ่านมาจากเว็บไซต์ว่า เบื้องหลังฉากนี้คือเจ้า Pale ต้องกัดกินถุงยางบรรจุเลือดสดๆ กัน เลยทีเดียว)
– ฉากการรักษาของหมอเฟอเรโร่ที่ต้องหั่นขาเพื่อรักษาชีวิตของกบฏ (ฉากนี้ มีเพียงไม่กี่วินาที แต่ให้อารมณ์หยองได้ไม่น้อยเลย)
– ภาพความเข้มแข็งของเมอร์เซเดส แม่บ้านสาวกบฏที่แฝงตัวมาอยู่กับกัปตันวิดัล จนเธอถูกกัปตันวิดัลจับได้ แต่ด้วยความเข้มแข็ง เธอใช้มีดสั้นหั่นครัว จิ้มแทงปาดเข้าไปที่หลังของกัปตัน ก่อนที่จะปักเข้าที่หน้าอก และจบลงด้วยเอาเอามีดปักเข้าไปในปาก แล้วปาดกระพุ้งแก้มขาดกระจุย..โอ้ว…เฮีย Toro ยังไม่หยุดแค่นั้น ภาพตัดมาที่การเยียวยาตัวเองของกัปตันวิดัลด้วยการใช้เข็มเย็บมุมปากที่ขาดแหว่งด้วยตัวเอง…รับรองซีดส์ไปตามๆ กันแน่ครับ เอาตัวอย่างไปอ่านเพลินๆ ก่อนไปซื้อหนังเรื่องนี้มาชำเราด้วยตัวท่านเองครับ

หนังได้รางวัลออสการ์ 3 รางวัลคือ Best Achievement in Art Direction (Eugenio Caballero (art director) และ Pilar Revuelta (set decorator)) , Best Achievement in Cinematography (Guillermo Navarro) และ Best Achievement in Makeup (David Marti, Montse Ribe) และนอกจากออสการ์ เฮีย Toro และพรรคพวกกวาดรางวัลอีกมากกว่า 50 รางวัลทั่วโลก!

** ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะไม่ดูหนังเรื่องนี้ครับ **

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 6.00 / 6.00


VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 4.0/5 (4 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies P - R Tagged with: , , , ,