Red Eye (2004) รถไฟผี - รีวิวหนังผี
December 23rd, 2012 by ฟิล์มสยอง
Red Eye (2004) รถไฟผี - รีวิวหนังผี

Red Eye (2004) รถไฟผี – รีวิวหนังผี

Red Eye (2004)
รถไฟผี
นำแสดง: Jang Shin-yeong (Mi-sun), Kwak Ji-min (So-hee), Lee Dong-kyu (Jin-kyu)
กำกับ: Kim Dong-bin
เขียนบท: Lee Yong-yeon, Seong Gi-young
ประเภท: Horror/Thriller, Drama

Red Eye (2004) รถไฟผี - รีวิวหนังผี

Red Eye (2004) รถไฟผี – รีวิวหนังผี

รู้สึกอย่างไรบ้าง ถ้าหากรถไฟขบวนที่คุณกำลังเดินทางอยู่นั้น มีโบกี้เก่าที่เคยประสบอุบัติเหตุสยองมาพ่วงอยู่ด้วย…

จุดเริ่มต้นของความหายนะเมื่อ 16 กรกฏาคม 1988 รถไฟขบวนหนึ่งที่กำลังมุ่งหน้าไปที่ Yeosu ประสบอุบัติเหตุอย่างรุนแรง มีผู้เสียชีวิตมากมายนับร้อย ซึ่งสาเหตุที่แน่ชัดไม่สามารถระบุได้…

16 ปีผ่านไป…วันครบรอบความหายนะก็มาถึง ความลึกลับปริศนาที่รอให้ Mi Sun (Jang Shin young) พนักงานรถไฟสาวที่มาทำงานในคืนวันเกิด ซึ่งความจริงนั้นเธอควรจะไปสนุก ฉลองกับเพื่อนๆ ในวันนี้ แต่เธอกลับขอแลกกะเพื่อมาทำงานในขบวนเที่ยวดึกด้วยเหตุผลส่วนตัวที่ไม่อาจบอกใครได้ รถไฟเริ่มออกเดินทางไปยังจุดมุ่งหมาย สิ่งแปลกๆ เริ่มเกิดขึ้นบนรถไฟขบวนนั้น เหตุการณ์ที่ Mi Sun พบเจอ ระหว่างปัจจุบันกับภาพหลอกหลอนในอดีตเริ่มขึ้น ทว่าจุดหมายปลายทางของรถไฟขบวนนี้กำลังจะวิ่งไปที่ไหนกัน…ชานชลาปลายทาง หรือหายนะซากที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 16 ปีก่อน ติดตามหามาดูได้ครับ

หนังของ Kim Dong-bin ที่ใช้ชื่อว่า Red Eye นี้ นำมาจากสัญลักษณ์ไฟกระพริบสีแดงที่บอกถึงสัญญาณอันตราย เรื่องถูกคลี่ปมออกขณะที่ใช้ภาพขาว – ดำ – แดงกระพริบหลอกหลอนประสาทคนดูได้อย่างน่าชม สิ่งที่ Kim Dong-bin ทำได้น่าดูอีกอย่างคือ การทำคอมพิวเตอร์กราฟฟิคที่ไม่ค่อยเห็นในหนังสยองขวัญเกาหลีเท่าไรนัก สำหรับในเรื่องนี้ มีหลายฉากที่ทำให้น่าประทับใจ หนังเนียนไม่ดูเป็นดิจิตัลมากซะจนเลี่ยนแต่กลับนำมาใช้ได้อย่างลงตัวและพอเหมาะพอควร ถือได้ว่าเป็นยุคใหม่ของหนังผีเกาหลีที่นอกจาก ผีหน้าขาวจะคลายออกมาจากมุมต่างๆ ของฉากแล้วนั้น หนังเรื่อง Red Eye พยายามจะฉีกความจำเจตรงนั้นออกไป นับได้ว่าเป็นความตั้งใจที่ดีของผู้กำกับ ใครที่เป็นแฟนหนังสยองขวัญเอเซียโดยเฉพาะญี่ปุ่น กับเกาหลีนั้น ผมแนะนำให้ลองหามาดูกันครับ หนังไม่ได้สมบูรณ์แบบแต่มุมมองและเจตนาของผู้กำกับที่นำสิ่งต่างๆ มาใช้ในหนังเรื่องนี้ เป็นสิ่งที่น่าศึกษายิ่ง…

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.50 / 6.00


VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 1.8/5 (4 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies P - R Tagged with: , , ,

Playhouse (2003) สยองจ้องสยอง หนัง Horror Black Comedy
December 16th, 2012 by ฟิล์มสยอง
Playhouse (2003) สยองจ้องสยอง หนัง Horror Black Comedy

Playhouse (2003) สยองจ้องสยอง หนัง Horror Black Comedy

Playhouse (2003)
สยองจ้องสยอง
นำแสดง: Nikitas Menotiades (Detective Eustas Black), Ross Donaldson (Janitor Connelly), David Friday (Officer Myron Koss), Andy Parks (Officer Byron Randal), Holly Bryant Scott (Jessica), Todd Betker (Kevin), Dalla Andracchio (Sarah), Ola Creston (Katie), Joe Stile (Arnold), John Yost (Tom Kichosniakowski)
กำกับและเขียนบท: Hunter F. Roberts
ประเภท: Horror Black Comedy

Playhouse (2003) สยองจ้องสยอง หนัง Horror Black Comedy

Playhouse (2003) สยองจ้องสยอง หนัง Horror Black Comedy

เรื่องย่อ…
จะเป็นยังไงเมื่อโรงละครที่คุณกำลังซ้อมแสดงอยู่ เป็นโรงละครผีสิง…เหตุเกิดที่โรงละครแห่งหนึ่งในพิสเบิร์ก เมื่อกลุ่มนักศึกษากำลังซ้อมแสดงละครเวที แล้วต้องมาพบกับเหตุการณ์แปลกประหลาดตั้งแต่อาจารย์ผู้สอนแสดงต้องมาตายอยู่บนเวที และต่อมาเพื่อนๆ ในกลุ่มของพวกเขาก็เริ่มหายตัวไปอย่างลึกลับ เหตุการณ์ประหลาดเริ่มรุนแรงขึ้น เมื่อนักสืบแบล็กและลูกน้องเข้ามาทำคดีนี้..จะเป็นอย่างไรเมื่อพวกเขาต้องเผชิญกับสิ่งเร้นลับเหนือมนุษย์ ปีศาจ ผี วิญญาณร้าย ที่เดินทำท่าออกแนวซอมบี้สยองขวัญ สั่นประสาทกระตุกต่อมฮาให้ต้องขำเล็กๆ ปนกับความขยะแขยง สุดแหวะในแบบ Horror ติดตามกันได้ในรูปแบบดีวีดีครับ…

เรื่องราวที่ถ่ายทอดจากประสบการณ์จริง…
เรื่องนี้อันที่จริงแล้วถ่ายทอดมาจากเหตุการณ์จริง ที่ว่าด้วยเรื่องราวของผีในโรงละคร Pittsburgh ตัวละครหลายตัวในเรื่องนี้รวมทั้งตัวผู้กำกับ Hunter F. Robert ก็เคยใช้โรงละครที่ว่านี้มาแล้ว ตอนก่อนถ่ายทำทางทีมงานก็ว่าจะใช้โรงละครที่มีร่ำลือว่ามีผีนี้เป็นสถานที่ถ่ายทำจริง แต่แล้วก็มีเหตุจำเป็นให้ต้องเปลี่ยนไปใช้สถานที่อื่นใน Pittsburgh แทน

อีกหนึ่งผลงานในแบบ Horror Black/Dark Comedy ที่น่าสนใจ…
ชื่อหนัง Playhouse ที่ชี้ให้เห็นเลยว่าเป็นโรงละคร การถ่ายทำและภาพจึงออกมาในลักษณะของการถ่ายทำละคร มีมุมมอง มุมกล้องแปลกๆ การตัดต่อภาพที่น่าสนใจ บทและท่าทางที่ล้อเลียนหนังจำพวกตลกใบ้ นำมาใช้ในเรื่องนี้ได้อย่างมีสเน่ห์เหลือหลาย อย่างที่บอกครับ หนังเป็น Black/Dark Comedy ตลก(โหด)ร้าย ที่ทำเอาเรายิ้มมุมปากได้นิดนึงแล้วก็ต้องแหวะ เพราะ Hunter Robert ใส่ความสยองหัวแบะในแบบ Horror เข้าไปเยอะทีเดียว นอกจากนี้แล้ว ผีที่ว่าในเรื่องยังออกแนว ผีซอมบี้ เดินโหย่งๆ ในโรงละครให้พล่าน ยิ่งกว่านั้น เจ้าผีที่มาในคาแรกเตอร์ของซอมบี้ ยังหายตัว แว็บไป แว็บมาได้อีกต่างหาก

รางวัลรับประกันคุณภาพ…
เห็นเป็นหนังตลกร้าย Black Comedy พันธุ์ Horror ยังงี้…Playhouse ก็ได้รับรางวัลมาแล้วเหมือนกัน อาทิ ชนะเลิศ Best Feature : รางวัล Honorable Mention จาก Denver Underground Film Festival และเข้าชิงรางวัล EERIE Horror และ Int’l Film Festival อีกด้วย

ใครนิยมหนังสยอง แล้วก็อยากดูหนังขำๆ มุมปากเล็กน้อย ผสานกับหนังแปลก ๆ ทั้งมุมกล้อง บท การถ่ายทำ การตัดต่อภาพ ที่ดูแล้วแปลกไปจากหนังตลาดทั่วไป ลองหาซื้อ Playhouse มาดูกันครับ เปิดหูเปิดตากันหน่อย

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 4.00 / 6.00


VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 4.0/5 (3 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies P - R Tagged with: , , ,

One Missed Call 2 (2005) สายไม่รับ ดับสยอง ภาค 2
December 15th, 2012 by ฟิล์มสยอง
One Missed Call 2 (2005) สายไม่รับ ดับสยอง ภาค 2

One Missed Call 2 (2005) สายไม่รับ ดับสยอง ภาค 2

One Missed Call 2 (Chakushin ari2) (2005)
สายไม่รับ…ดับสยอง 2
นำแสดง: Mimura(Kyoko), Yu Yoshizawa(Naoto), Asaka Seto(Takako), Renji Ishibashi (Motomiya), Peter Ho (You Ting)
กำกับ: Renpei Tsukamoto
เขียนบท: Minako Daira
ประเภท: Horror

One Missed Call 2 (2005) สายไม่รับ ดับสยอง ภาค 2

One Missed Call 2 (2005) สายไม่รับ ดับสยอง ภาค 2

เรื่องนี้ ลุง Takashi Miike ไม่ได้กำกับครับ แต่เป็นผลงานการกำกับของ Renpei Tsukamoto ซึ่งผู้กำกับคนนี้ กำกับหนังมาหลากหลายแนวทางเหลือเกินไม่ว่าจะเป็น Drama, Horror จนถึงหนังวัยรุ่นให้แง่คิดอย่างเรื่อง Dragon Sakura หรือชื่อไทย “นายซ่า ท้าเด็กแนว” หนังทีวีซีรีย์ที่ทางไอทีวีนำมาฉายและเพิ่งจบไปไม่นานนี้เอง ต้องขอชมว่าเขาเป็นผู้กำกับมากความสามารถในหนังหลากหลายรูปแบบ แต่ไม่ถึงเป็นปรมาจารย์หนังคัลต์ในแขนง Horror คุณจะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนในหนังของ Takashi กับ Renpei หนังของ Takashi จะกำกับได้ออกมาในมุมมองที่อึดอัด การตัดภาพย้อนไปย้อนมา ไปจนถึงฉากแหวะทั้งการฆ่าไปจนถึงผีในมุมมองของ Takashi ทำออกมาได้รุนแรงและสยอง ในขณะเดียวกัน หนัง Horror ที่ Renpei กำกับนั้นจะมีแนวทางของ Drama หรือ Romantic เข้ามาผสมด้วย (ในทุกเรื่องที่เขาเคยกำกับมา) ใน One Missed Call ภาคสองนี้ก็เช่นกัน ดูไปดูมาจนถึงตอนจบ ยังนึกว่านั่งดูหนัง Romance Drama สุดเศร้าผสม Horror ยังไงยั้งงั้นเลยทีเดียว จะว่าไปแล้วก็เป็นหนัง Horror อีกแบบที่ไม่ค่อยมีผีคลานหน้าขาวยั้วเยี้ยเต็มไปหมดทั้งเรื่อง

ใน One Missed Call 2 แทบจะไม่ค่อยมีฉากเลือดสาด แหวะ สยองเท่าในภาคแรก แต่กลับมีการเล่นบทบาทของตัวละครกับช่วงเวลาได้อย่างน่าสนใจ รวมถึงมุมมองของการ เสียสละ ความรักที่มีให้กันจนยอมตายแทนได้…นี่แหละคือความสามารถของ Renpei

เวลาหนึ่งปีผ่านไป หลังจากที่หลายคนรู้จัก “โทรศัทพ์มรณะ” ผ่านรายการโทรทัศน์ในภาคแรกแล้ว เหตุการณ์กลับมาเกิดขึ้นอีกครั้งในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ด้วยโทรศัพท์ Missed Call ที่ผู้รับกดรับแล้วต้องเสียชีวิต หนังนำเอานักสืบอาวุโสโมโตมิยะในภาคแรกเป็นตัวละครเชื่อมต่อหนังทั้งสองภาค หนังเริ่มเฉลยข้อสงสัยในภาคหนึ่ง ทั้งเรื่องของยูมิในฉากสุดท้ายที่ถือมืดยืนอยู่ข้างเตียงของพระเอกที่หลายคนคิดว่าเรื่องราวคงจะจบไปด้วยดีแต่อาจจะไม่เป็นอย่างที่คุณคิดก็เป็นได้ จนถึงภูมิหลังทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเด็กผีที่ทำร้ายน้องสาวตัวเอง ตัวหนังพยายามผูกเรื่องให้เห็นที่มาทั้งหมดในภาคแรกไปจนถึงสาเหตุของเรื่องราวความโกรธแค้นทั้งหมดที่มีที่มาจากไต้หวัน ในหมู่บ้านเหมืองแร่ ต้นตอความโกรธแค้นทั้งหมดมีมาจากเด็กคนหนึ่งที่มีพรสวรรค์รับรู้ว่า “ใครจะตายภายในกี่วัน” ไอ้พรสวรรค์ที่ว่าเนี่ย มันเกิดมาจากว่า ในหมู่บ้านมีโรคระบาด และสาวน้อยคนนี้แหละ พอจะรู้ว่าภายในกี่วันใครจะต้องตาย คนในหมู่บ้านไม่เชื่อเรื่องโรคระบาด กลับไปคิดว่า คำพูดที่ออกจากปากของเด็กคนนี้เป็นคำสาปมรณะที่เมื่อไร สาวน้อยพูดขึ้นมาว่าใครจะตาย แล้วคนคนนั้นจะต้องตายจริง…และนี่แหละคือสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมดทั้งภาค 1 และภาค 2 หนังพยายามผูกคนทั้งหมดเกี่ยวเข้าด้วยกัน ให้เห็นว่า หนังมีน้ำหนักในความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครทั้งหมด

หนังเพิ่มความซับซ้อนจากการรับโทรศัทพ์ที่มีเสียงริงโทนมรณะแล้วคนรับจะต้องตายในภาคแรก มาเป็นเรื่องราวที่ว่า ริงโทนที่ดังมาที่โทรศัพท์ไม่จำเป็นต้องเป็นมือถือของตนเอง หากแต่ใครก็ตามที่รับโทรศัพท์ต้องตาย และตรงจุดนี้เอง Renpei นำมาเป็นจุดสำคัญในการพลิกเรื่องตอนจบที่มีการเสียสละชีวิตเพื่อคนรัก

ดูได้เรื่อยๆ ครับ สำหรับภาคสอง เป็นเหมือนหนังเฉลยเรื่องราวใน One Missed Call ทั้งหมด ใครที่หวังจะให้มีฉากผวา ซาดิสม์ สะดุ้งถี่ยิบอย่างในภาคแรก อาจจะต้องผิดหวังกันบ้าง ใครสนใจลองหามาดูได้…

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.50 / 6.00


VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 3.0/5 (1 vote cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies M - O Tagged with: , , , ,

One Missed Call (2003) สายไม่รับ ดับสยอง ผลงานจาก Takashi Miike
December 15th, 2012 by ฟิล์มสยอง
One Missed Call (2003) สายไม่รับ ดับสยอง ผลงานจาก Takashi Miike

One Missed Call (2003) สายไม่รับ ดับสยอง ผลงานจาก Takashi Miike

One Missed Call (Chakushin ari)(2003)
สายไม่รับ…ดับสยอง
นำแสดง: Kou Shibasaki (Yumi Nakamura), Shinichi Tsutsumi (Hiroshi Yamashita), Mariko Tsutsui (Mizunuma Marie), Kazue Fukiishi (Natsumi Konishi), Atsushi Ida (Kawai Kenji), Renji Ishibashi (Motomiya Detective), Goro Kishitani (Oka), Yutaka Matsushige (Fujieda Ichiro), Anna Nagata (Okazaki Yoko)
กำกับ: Takashi Miike
เขียนบท: Yasushi Akimoto, Minako Daira
ประเภท: Horror

One Missed Call (2003) สายไม่รับ ดับสยอง ผลงานจาก Takashi Miike

One Missed Call (2003) สายไม่รับ ดับสยอง ผลงานจาก Takashi Miike

“เขาเล่ากันว่า…
มีผู้หญิงคนหนึ่งตาย เพราะความเครียดแค้นชิงชัง…
เธอจะคืบคลานมาหาเราผ่านมือถือ…
จากหน่วยความจำหนึ่งไปสู่หน่วยความจำหนึ่ง…
ไปสู่คนต่อๆ ไป…”

คุณจะรู้สึกอย่างไรบ้าง ถ้ามีโทรศัพท์ที่ขึ้นชื่อตัวของคุณเองโทรเข้ามา ทิ้งเป็น Missed Call ไว้ และเมื่อคุณกดฟังข้อความนั้น กลับกลายเป็นเสียงของตัวคุณเอง และเป็นเสียงในอนาคตที่เป็นสัญญาณเตือนบอกว่า ‘คุณกำลังจะตาย!’

หนังเริ่มด้วยภาพของการสังสรรค์ชี้ให้เห็นความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่กำลังจะจัดทริปไปเที่ยว พร้อมกับการแลกเบอร์มือถือกันไว้ ระหว่างการสังสรรค์โทรศัพท์ของสาวในกลุ่มดังขึ้น พร้อมด้วยเสียงริงโทนที่เธอไม่เคยได้ตั้งเอาไว้ เสียงริงโทนดังจนหยุดไปและขึ้นข้อความ ‘missed call’ – ‘สายที่ไม่ได้รับ’ เมื่อสาวในกลุ่มกดฟังข้อความเสียงนั้น ปรากฏว่าเป็นเสียงของตัวเธอเองที่กำลังประสบความหายนะอยู่ และที่สำคัญข้อความที่ถูกส่งมานั้น ระบุวันที่อีกสามวันข้างหน้า…ความตายเริ่มคืบคลานไปสู่ผู้ที่มีชื่อในโทรศัพท์มือถือที่เกี่ยวข้องกัน และเมื่อมี Missed Call เข้ามาด้วยเสียงริงโทนสุดสยองนั้นแล้ว เขาผู้นั้นจะต้องตาย!

หลังจากดูหนังเรื่องนี้จบ หลายคนคงตั้งข้อสงสัยในหลายๆ เรื่อง หรืออาจจะคิดว่าหนังไม่ค่อยมีเหตุผลในเหตุการณ์หลายๆ ตอน ผมก็เป็นคนนึงที่คิดเช่นนั้นเหมือนกัน อย่างแค่ตอนจบที่ยูมิถือมีดยืนอยู่ข้างเตียงของยามาชิตะ พระเอกผู้ซึ่งตามหาความจริง เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับน้องสาวของเขาเองด้วย ยูมิก้มลง และคายลูกอมเม็ดสีแดงกลมโตให้ ยามาชิตะอมลูกอมและยิ้ม ซาวนด์ประกอบก็เปลี่ยนเป็นเพลงดนตรีสดใส ราวกับว่าเรื่องราวร้ายๆ ได้ผ่านพ้นไปแล้วนั้น…หลายคนคงนึกว่าเป็นอย่างงี้หรือเปล่าครับ ถ้าใช่..คุณอาจคิด ผิดครับ หากได้ดู One Missed Call : 2 ที่จะเฉลยข้อกังขา และความข้องใจในหลายๆ เรื่องได้ ยังไงลองหามาดูภาคสองด้วยละกัน

หนังเรื่องนี้ได้นางเอกมากความสามารถ ‘Shibasaki Kou’ เจ้าบทบาทแห่งหนังโคตรโหดอย่าง Battle Royal และพระเอกในเรื่องนี้เราคงคุ้นหน้ากันเพราะเป็นตัวนำในละครซีรีย์ญี่ปุ่นที่ชื่อ GoodLuck ซีรีย์ชื่อดังที่ไอทีวีนำมาฉาย เรียกว่านักแสดงในเรื่องมีส่วนช่วยให้ตัวหนังแข็งแรง และน่าดูมากยิ่งขึ้น

มาดูในส่วนของผู้กำกับหนังเรื่องนี้กันบ้าง…ลุง Takashi Miike ผู้กำกับหนังคัลต์ที่ทำหนังได้โรคจิตไม่เสื่อมคลายมารับหน้าที่กำกับหนังเรื่องนี้ ในเรื่องนี้ MinaKo Daira และ Yasushi Akimoto เขียนบท โดยใช้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่กลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของคนเรา นั่นคือ โทรศัพท์มือถือ มาเป็นตัวดำเนินเรื่อง ลุง Takashi แกมีเอกลักษณ์ในแผ่นฟิล์มดีครับ ดูแล้วได้อารมณ์ ราวกับมีลายเซ็นบนแผ่นฟิล์มอย่างไงอย่างงั้น สิ่งหนึ่งที่ลุง Takashi ชอบใช้ในหนังของแก คงไม่พ้น เรื่องราวที่มีอดีต เรื่องของการกดขี่เพศหญิง ความสัมพันธ์แบบวิปริตของครอบครัว และเรื่องนี้ก็เช่นกัน “ความรู้สึกแย่ๆ ที่มีต่อแม่” คือ สิ่งที่ยูมิ และผีเด็กที่มีความรู้สึกเดียวกัน การสื่อสารและจิตใต้สำนึกสามารถสื่อเข้าถึงกันได้…ลุง Takashi แกทำหนังเอาคนงงได้ไม่น้อยจากจุดตรงนี้…เรียกว่าหนังมันสามารถจินตนาการออกมาได้หลายรูปแบบครับ ลองคิดเล่นๆ กันไปก่อน และหาภาคสองมาดู น่าจะเฉลยข้อสงสัยหลายๆ อย่างได้ เห็นทางฮอลิวูดมีโครงการจะนำหนังเรื่องนี้มารีเมคกันด้วย คาดว่าถ้าทำออกมาจะเสร็จในปี 2007 นี้ ก็คงเหมือนหนังญี่ปุ่นหลายๆ เรื่องที่ถูกนำไปทำใหม่ในเวอร์ชั่นของฮอลิวูด คงต้องรอติดตามดูกันต่อไปครับ …


“พี่ชายคะ…คนแต่ละคนมีชะตาเป็นของตัวเอง” คำพูดที่เสมือนคีย์เวิร์ดของหนังเรื่องนี้ ก็ว่าได้ครับ…

อัพเดท 15/12/2012: ผมรีวิวหนังเรื่องนี้สักประมาณปี 2006 ได้นะครับ ก่อนหน้านี้ที่เขียนว่ามีข่าวว่าฮอลิวู้ดจะซื้อหนังเรื่องนี้ ก็เป็นไปตามนั้นนะครับ มีการซื้อและทำออกมาในฉบับฮอลิวู๊ดในปี 2008 ที่ผ่านมานี่เอง ใครได้ดูฉบับฮอลิวู้ดแล้ว ก็แสดงความคิดเห็นกันหน่อยครับว่าเป็นยังไงบ้าง เพราะผมยังไม่ได้ดูเลย ไว้มีโอกาสได้ดูจะนำมาเขียนให้ได้อ่านกันต่อไปครับ

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 4.00 / 6.00


VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 4.7/5 (3 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies M - O Tagged with: , , , , , ,

The Nun (2005) หนังผีแม่ชีสเปน!
December 12th, 2012 by ฟิล์มสยอง
The Nun (2005) หนังผีแม่ชีสเปน แค้นนี้ต้องชำระ

The Nun (2005) หนังผีแม่ชีสเปน แค้นนี้ต้องชำระ

The Nun (2005)
La monja
นำแสดง: Belen Blanco (Julia), Oriana Bonet (Eulalia), Anita Briem (Eva), Tete Delgado (Cristy), Natalia Dicenta (Susana), Alistair Freeland (Joel), Manu Fullola (Gabriel), Paulina Galvez (Zoe), Lola Marceli (Mary), Cristina Piaget (The Nun), Montse Pla (Joana)
กำกับ: Luis De La Madrid
เขียนบท: Jaume Balaguero, Manu Diez
ประเภท: Horror

The Nun (2005) หนังผีแม่ชีสเปน!

The Nun (2005) หนังผีแม่ชีสเปน!

เรื่องย่อ: กลุ่มนักเรียนหญิงวัย 15 ปี 6 คนต้องทนทุกข์อยู่ในโรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง แต่ละวันพวกเธอต้องเผชิญกับแม่ชีที่ทั้งคุกคามและปฏิบัติต่อพวกเธออย่างทารุณ วันหนึ่งแม่ชีคนนั้นพบว่านักเรียนคนหนึ่งในกลุ่มตั้งท้อง เธอรู้สึกอับอายมาก และพยายามจะชำระความบริสุทธิ์ให้ เพื่อนๆของนักเรียนสาวคนนั้นเห็นเธอทรมาน ด้วยความกลัวระคนโกรธแค้น ทั้งหกจึงตัดสินใจช่วยเพื่อนเอาไว้ หลังจากวันนั้นก็ไม่มีใครเห็นแม่ชีคนนั้นอีกเลย และไม่กี่สัปดาห์โรงเรียนแห่งนั้นก็ถูกปิด

…17 ปีต่อมา นักเรียนสาว 6 คนนั้นต่างก็มีชีวิตของตนเอง พวกเธอสร้างชีวิตใหม่โดยไม่ติดต่อกันเลย เพราะต่างก็หวังว่าความลับครั้งนั้นจะถูกฝังไว้ในอดีตตลอดกาล แต่แล้วคืนหนึ่ง 1 ใน 6 ของกลุ่มนั้นก็ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม ไม่กี่วันถัดมาอีกคนหนึ่งก็กลายเป็นศพในสภาพที่สยดสยองไม่แพ้กัน หญิงสาวที่เหลือเริ่มคิดว่าการตายของเพื่อนๆอาจมีบางอย่างเกี่ยวพันกัน และหากเป็นเช่นนั้น ชีวิตของพวกเธอก็กำลังตกอยู่ในอันตราย ทั้งหมดจึงจำต้องกลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อหาทางหยุดวิญญาณแม่ชีตนนี้ก่อนที่พวกเธอจะกลายเป็นศพต่อไป เพราะทุกคนรู้ดีว่าแม่ชีตนนั้นกลับมาแล้ว และกำลังออกแก้แค้น…

…ทางเดียวที่จะหยุดเรื่องราวนี้ได้ก็คือต้องกลับไปยังจุดเริ่มต้น นั่นก็คือ โรงเรียนประจำแห่งนั้น อีวา คือ สาวน้อยวัย 17 ปี ที่สูญเสียแม่ไปจากการออกล้างแค้นของผีแม่ชี เธอร่วมมือกับเพื่อนๆ หาทางหยุดความคลั่งของแม่ชีตนนี้ แต่การออกตามหาความจริงครั้งนี้กลับทำให้เธอได้ค้นพบอดีตอันดำมืดและน่ากลัวของตนเอง

แม่ชีสเปน…
กำลังคิดอยู่ว่า แม่ชีสเปน จะเหมือนแมลงวันสเปนด้วยหรือเปล่า? (ไม่ได้เกี่ยวกันเลย) หนังแม่ชีจากสเปนเรื่องนี้สร้างในปี 2005 ครับ แต่บ้านเราเอามาฉายกันเมื่อประมาณต้นปี 2006 (ถ้าจำไม่ผิด) โดยมงคลเมเจอร์ ผีแม่ชี ถูกเขียนบทภาพยนตร์โดย Jaume Balaguero ผู้ซึ่งเคยฝากผลงานสุดตราตึงไว้ให้เราชมแล้วกับเรื่อง The Nameless หนัง Horror สุดคลาสสิกเมื่อปลายยุค 90 จนมาถึง Darkness หนัง Horror อีกเรื่องที่เขารับหน้าที่ทั้งเขียนบทและกำกับ นอกจากนั้น หนังที่เข้าฉายบ้านเราในเดือนพฤศจิกายน ปี 2006 เรื่อง Fragiles ก็เป็นผลงานการเขียนบทของเขาด้วยเช่นกัน (ที่จริงเรื่องนี้ สร้างในปี 2005 ครับ) และ The Nun ยังเป็นผลผลิตอีกชิ้นของ Brian Yuzna (ในหนัง ฉากที่อยู่บนเครื่องบิน ที่ Eve กำลังเดินทางไปสเปน และได้ดูหนังของ Brian Yuzna บนเครื่องบินด้วย…กลัวเขาไม่รู้กันหรือไงว่า นี่เป็นหนังของ พี่ Yuzna อิ อิ) ที่สร้างชื่อจากการกำกับหนัง The Dentist, หนังตระกูล Re-Animator และหนัง Horror อีกหลายเรื่อง…จะว่าไปนี่คือ เหตุผลที่ผมหยิบหนังผีแม่ชี มาดูครับ เพราะเท่าที่อ่านเรื่องย่อมาตั้งแต่หนังเข้าฉาย แล้วก็ไม่ได้ดึงดูดอะไรให้อยากดูเลย…

แล้วก็เป็นอย่างที่คาดครับ ตัวหนังไม่ได้มีอะไรหวือหวา ฉากน่ากลัวก็ไม่ได้น่ากลัว หรือ หลอกหลอน กดดันอย่างอึดอัด ตัวหนังกลับทำได้เชื่องช้า ผีแม่ชีที่ถูกกดน้ำตาย ก็จะปรากฏตัวโดยผ่านสื่อทางน้ำ เหมือนได้แรงบันดาลใจจากหนังผีเอเซียบ้านเราในหลายๆ เรื่อง ที่ผีปรากฏตัวผ่านสื่อตัวกลางทาง ‘น้ำ’ และก็ไม่ได้ขายความรุนแรง และเรื่องทางเพศในแบบหนังจำพวก Nunsploitation ชอบใช้อีกด้วย

จุดดีจุดเดียว น่าจะเป็นในเรื่องของบทภาพยนตร์ การนำความเชื่อทางศาสนา ในเรื่องบาปมาเชื่อมโยงโดยผ่านชื่อของตัวเอกในเรื่องทั้ง 6 คน กับลีลาการตายที่แตกต่างกัน ตามเรื่องเล่าทางศาสนา ที่กลายมาเป็นจุดพีคของเรื่อง…

หนังไม่ได้ให้ลุ้นอะไรมากครับ มีตอนจบที่หักมุมด้วยคำเฉลยของหนุ่มที่เป็นแฟนเพื่อนนางเอกคนนึง ที่ไม่รู้ว่าอยู่ดี ๆ เกิดฉลาดปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างลงตัวทั้งหมดได้อย่างไรกัน หรือว่า หนังต้องการหักมุมให้จบลงซะงั้น ดื้อ ๆ ก็ว่าได้ ใครอยากดู แม่ชีผีสเปน ก็ลองไปหาซึ้อ ดีวีดี วีซีดี ที่ขายอยู่เกลื่อนตามบ้านเราได้ครับ มีลิขสิทธิ์ออกมาให้ได้สะสมกัน

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 2.00 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 2.8/5 (5 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies M - O Tagged with: , , , , ,

The Messengers (2007) คนเห็นโคตรผี หนังผีฝีมือพี่น้องแปง
November 24th, 2012 by ฟิล์มสยอง
The Messengers (2007) คนเห็นโคตรผี หนังผีฝีมือพี่น้องแปง

The Messengers (2007) คนเห็นโคตรผี หนังผีฝีมือพี่น้องแปง

The Messengers (2007)
คนเห็นโคตรผี , Scarecrow, The Untitled Pang Brothers Horror Project, Totem
นำแสดง: Ivana Baquero (Ofelia), Sergi Lopez (Capitan Vidal), Maribel Verdu (Mercedes), Doug Jones (Pan/Pale Man), Ariadna Gil (Carmen Vidal), Alex Angulo (Dr. Ferreiro), Manolo Solo (Garces), Cesar Vea (Serrano), Roger Casamajor (Pedro), Ivan Massague (El Tarta), Gonzalo Uriarte (Frances), Eusebio Lazaro (Padre – Father), Francisco Vidal (Cura – Priest as Paco Vidal), Juanjo Cucalon (Mayor), Lina Mira (Mayor’s Wife)
กำกับ: Oxide Pang Chun, Danny Pang
เขียนบท: Mark Wheaton (screenplay), Todd Farmer (story) ประเภท:Horror / Drama / Thriller

The Messengers (2007) คนเห็นโคตรผี หนังผีฝีมือพี่น้องแปง

The Messengers (2007) คนเห็นโคตรผี หนังผีฝีมือพี่น้องแปง

เรื่องย่อ: เรื่องราวของครอบครัวโซโลมอน ที่ประกอบไปด้วย Roy และ Denise สามีภรรยาที่มีลูกสาววัยรุ่นชื่อ Jess และเด็กน้อยหน้าตาน่ารักชื่อ Ben จำต้องจากชีวิตเมืองใหญ่ในชิคาโก้ เนื่องด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง มาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฟาร์มที่ นอร์ธ ดาโกต้า โดยที่ไม่รู้ว่าบ้านและฟาร์มที่พวกเขากำลังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่นั้น มีอดีตที่ไม่น่าจดจำเกิดขึ้น มันกลายเป็นตำนานที่ชาวเมืองนอร์ธดาโกต้า เล่าขานต่อเนื่องกันมา…พวกเขาจะต้องเผชิญเหตุการณ์ต่างๆ ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น

ผู้ส่งสาร…ผี กับ คน
หลาย ๆ เรื่องที่เป็นหนังผี วิญญาณ การแก้แค้น ใช้พล็อตแบบนี้มาแล้วทั้งนั้น…พล็อตที่ว่า บ้านหรือสถานที่ที่มีวิญญาณ ที่ตายจากอย่างไม่ “ปกติ” มักจะสิงสู่หลอกหลอน และไม่ไปสู่สุขติเหมือนลักษณะการตายทั่วๆ ไป วิญญาณที่ถูกจองจำตายไปแบบมีความแค้นนี้แหละ พยายามจะส่ง “สาร” กับ “สื่อ” ที่มีลักษณะการรับรู้ หรือเซนส์ เหนือคนธรรมดาทั่วไป ผี เหล่านี้พยายามจะบอกให้คนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณนั้นรู้ว่า พวกเขาตายอย่างไร ใครเป็นคนฆ่า จนทำให้ผู้อยู่อาศัยต้องติดตามหาสาเหตุ จนเป็นที่มาของการช่วยเหลือผี ให้ได้แก้แค้น เพื่อ “พวกเขา” จะได้จากไปอย่างสงบสุข และนี่แหละครับ คือเนื้อเรื่องทั้งหมดของ The Messengers พอๆ จะคุ้นกับหนังเรื่องไหนบ้างมั้ยครับ ที่มีลักษณะการเล่าเรื่อง ทำนองนี้…เค้าเรียกพล็อตรุ่นนิยมครับ

หนังผีของพี่น้องแปง
เป็นเรื่องแรกของพี่น้องแปงที่ได้ทำงานผีอินเตอร์กับฮอลิวู๊ดแบบเต็มตัวครับ…พวกเขาสร้างชื่อจากผีเอเซียมามากมาย จนคนดูจะอาเจียนมาเป็น “เห็นผี” อยู่แล้ว แฟนหนังสยองหลายคนคงเบื่อผลงานของสองพี่น้องนี้เต็มที เนื่องจากผลงานหนังผีตั้งแต่ The Eye สองภาคแรกแล้ว นอกนั้น ผมว่าพี่น้องแปงไม่สามารถทำอะไรที่มันแตกต่างจะความเป็นผีเดิมๆ ได้เลย (หนังอย่าง Re-Cycle ที่พวกเขาพยายามลองของ เพื่อความแตกต่างนั้น ก็ยังดูน่าฉงนกับบทที่ขาดน้ำหนักและเหตุผลในหลายฉากหลายตอน) จนบางทีผมเองยังเคยคุยกับเพื่อนๆ เลยว่า พี่น้องแปงกำกับหนังอย่าง Bangkok Dangerous หรือ ส้ม-แบงค์ ที่ออกไซด์เคยกำกับไว้ ยังจะดีซะกว่าทำหนังผีเลย…คนมีฝีมือครับ แต่อาจจะตันกับไอเดียผีๆ คงต้องใช้เวลาพิสูจน์ผลงานผี ๆ ของสองพี่น้องนี้กันต่อไป

นักแสดง…
หนังได้นักแสดงมากความสามารถเป็นตัวดึงดูดแฟนหนัง อย่างสาวตาสวย Kristen Stewart ที่เคยเล่น Panic Room (2002), Zathura: A Space Adventure (2005), Dylan McDermott นักแสดงหนุ่มใหญ่ที่มีผลงานฝากไว้ในวงการฮอลิวูดเพียบครับ มารับบทเป็น Roy หัวหน้าครอบครัวผู้ต้องการกอบกู้สถานะของครอบครัวให้กลับมาดีดังเดิม และ John Corbett รับบทเป็น Burwell หนุ่มนิรนามที่เข้ามาช่วย Roy ทำไร่ปลูกดอกทานตะวัน นายคนนี้ก็ฝากผลงานการแสดงไว้เพียบเช่นกัน ดังนั้น เรื่องฝีมือการแสดงของนักแสดงในเรื่องนี้ไว้ใจได้ครับ ทุกคนถ่ายทอดออกมาได้อย่างไม่น่าผิดหวัง อ่อ…อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คงเป็น Evan Turner เด็กน้อยตาใสในบทจะเป็นเด็กที่มองเห็นผีเหมือนเป็น “The Messengers” หรือผู้ส่งสารเชื่อมต่อระหว่างคนกับผี ที่แม้จะเล่นหนังผี แต่แกช่างน่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกิน

คนเห็นโคตรผี…คิดได้ไงวะ ชื่อเรื่องแบบนี้?!!?
หนัง “เห็นผี” อีกเรื่องของพี่น้องแปง แปงกำกับทีไร คนตั้งชื่อหนังต้องให้มีคำว่า เห็นผี ทุกทีไป เทคนิกการตั้งชื่อหนังตามการตลาดหน่ะครับ พี่น้องแปงเป็นที่รู้จักจากหนังเรื่อง The Eye ก็ไม่แปลกที่เวลาตั้งชื่อหนังจะนำคำว่า คนเห็นผี มาใช้ แต่คราวนี้เป็น “โคตรผี” แทน ฮ่า ฮ่า ชื่อหนังมันไม่ได้เกี่ยวกับตัวหนังเลยสักนิด…ความเห็นผมนะ ผมว่าหลายคน เบื่อฝีมือการทำหนังผีของแปงเต็มทีแล้วแหละ มันน่าเบื่อ เกร่อ เต็มไปด้วยมุขเดิมๆ ฝืดๆ และไม่ได้ทำให้น่ากลัวเลยสักนิด แต่สำหรับเรื่อง The Messengers ที่เป็นผลงานการกำกับหนังฮอลิวูดสยองเรื่องแรกของพี่น้องแปงนั้น ทำได้เสมอตัวครับ ไม่ห่วยจัด ไม่ดีและก็ไม่เลว ดูได้เพลินๆ ไม่ถึงกับต้องเขวี้ยงแผ่นทิ้ง หรือเดินหนีออกจากโรงภาพยนตร์ไป ผมว่าการเอาชื่อของพี่น้องแปงมาขายตั้งแต่ต้นนั้น อาจพาลให้แฟนหนังสยองชาวไทยเอียน ไม่อยากดูเลยก็ได้ ฝ่ายการตลาดน่า จะทำการบ้านตรงนี้หน่อย หาจุดขายที่นอกเหนือจาก ตระกูล “เห็นผี” คงจะดีไม่น้อย..ลองนำไปพิจารณาดู

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.00 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 4.0/5 (1 vote cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies M - O Tagged with: , , ,

the House that Screamed (2000) หนังสยองขวัญ หนังผี
November 11th, 2012 by ฟิล์มสยอง
House That Screamed (2000) หนังสยองขวัญ หนังผี

House That Screamed (2000) หนังสยองขวัญ หนังผี

the House That Screamed (2000)
บ้านผีหวง
นำแสดง: Bob Dennis, Robert Thomas, Steven Anselmi
กำกับ และ เขียนบท: John Polonia, Mark Polonia
ประเภท: Horror, Ghost, Suspense

the House that Screamed (2000) หนังสยองขวัญ หนังผี

the House that Screamed (2000) หนังสยองขวัญ หนังผี

“เรื่องสยองขวัญที่คุณอาจเจอ…โดยไม่จำเป็นต้องมีความเชื่อ” คำโปรยบทหน้าปกแผ่นวีซีดีเรื่อง “บ้านผีหวง” ครับ
สำหรับใครที่ชอบค้นกระบะวีซีดี ดีวีดีตาม Big C, Tesco คงจะทราบครับว่ามีหนังเจ๋งๆ หลายเรื่องที่ถูกนำมาทำลงกระบะหนังราคาถูกบ้านเราอยู่มากมายหลายเรื่อง
เรื่องไหนที่ไม่รู้จักก็สุ่มหยิบเอาบ้าง อ่านคำโปรยหน้าปกดูบ้าง the House that Screamed ก็อ่านจากคำโปรยนี่แหละครับ ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน
จะว่าไปแล้วคำโปรยบทหน้าปกแผ่นวีซีดี/ดีวีดีของภาพยนตร์เนี่ย ถ้าเขียนให้น่าสนใจได้มากเท่าไร ก็ทำให้คนดูอย่างซื้อไปดูมากเท่านั้น โดยเฉพาะภาพยนตร์ที่ไม่ได้ฉายตามโรงหนังทั่วไป ที่เป็นภาพยนตร์ฮอลิวู๊ดทุนสร้างหลายร้อย หลายพันล้านบาท และโดยเฉพาะคนประเภทเดียวกันกับผม ที่คอยเสาะหาหนังแปลกๆ มาดู

กลับมาพูดกับถึงเรื่อง House That Screamed กันต่อ ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเรื่องราวพล๊อตเรื่องเดิม ๆ ที่หลาย ๆ เรื่องใช้ นั่นคือ ใช้บทบาทของนักเขียนนวนิยายสยองขวัญเป็นตัวดำเนินเรื่องราวทั้งหมด สำหรับในเรื่องนี้ มีนักเขียนนวนิยายสยองขวัญชื่อ มาร์ตี้ ( Bob Dennis) ต้องการให้ได้บรรยากาศในการเขียนเรื่องราวสยองขวัญให้สมจริงมากที่สุด จึงหาบ้านเช่าที่มีคนลือกันว่ามีผีสิง ทั้ง ๆ ที่ตัวเขาเองไม่เคยเชื่อเรื่องผีเลย เขาจึงไม่มีความกลัวในการที่จะอยู่บ้านหลังนี้ พูดมาถึงตรงจุดนี้แล้ว หลาย ๆ คนคงจะเดาเรื่องราวออกกันแล้วนะครับ…แน่นอน พล๊อตเรื่องเดิม ๆ ที่เจ้ามาร์ตี้ นักเขียนนวนิยายต้องเจอเรื่องราวแปลกประหลาด ภาพหลอน รวมไปถึงสิ่งที่ถูกเรื่องว่าผี ตามหลอกหลอน…เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรนั้น ใครสนใจก็ลองไปหาซื้อมาดูละกัน

หนังเรื่องนี้ทำออกมาในปี 2000 ครับ ถ้าใครได้อ่านเนื้อเรื่องคร่าวๆ น่าจะนึกถึงภาพยนตร์อย่าง 1408 หนังผีสยองขวัญที่ได้ดารานำอย่าง John Cusack และ Samuel L. Jackson นำแสดง หนังเรื่อง 1408 ทำออกมาในปี 2007 เนื้อหาไม่ได้แตกต่างไปจาก the House that Screamed เลย ไม่แน่ใจว่าได้รับแรงบันดาลใจจากพล็อตของเรื่องนี้หรือไม่ ยังไงก็ลองไปพิสูจน์กันเอานะ

สำหรับตัวผมเอง ค่อนข้างจะผิดหวังกับ the House that Screamed พอสมควรเลย…การตัดต่อภาพ การดำเนินเรื่องเป็นไปด้วยความขัดแย้งและไม่ลื่นไหล บทหนังเดิมๆ ที่ดูแค่สิบนาทีแรกก็พอจะเดาเรื่องทั้งหมดได้อย่างไม่น่าแปลกใจ เมื่อยิ่งได้รู้ว่าเรื่องนี้ถูกกำกับและเขียนบทโดยนาย John Polonia ทำให้นึกถึงหนัง Terror House ในปี 1998 ที่เขาเคยสร้างโดยใช้บ้านผีเป็นตัวเอกของเรื่องมาแล้ว หนังไม่ได้มีการพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงแตกต่างไปจากเดิมเลย ผมว่าหนังใหม่ๆ ของ Polonia คงจะมีพัฒนาการมากขึ้นกว่าเก่า คงต้องรอคอยติดตามดูกันต่อไปครับ สำหรับผู้กำกับและผู้เขียนบทคนนี้

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 1.50 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 2.5/5 (4 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: , , ,

Ghost Train (2006) รางหลอน ซ่อนตาย - รีวิวหนังผี
October 13th, 2012 by ฟิล์มสยอง
Ghost Train (2006) รางหลอน ซ่อนตาย - รีวิวหนังผี

Ghost Train (2006) รางหลอน ซ่อนตาย – รีวิวหนังผี

Ghost Train (2006)
Otoshimono | รางหลอน ซ่อนตาย
นำแสดง: Erika Sawajiri, Chinatsu Wakatsuki, Shun Oguri, Aya Sugimoto, Itsuji Itao, Miyoko Asada
กำกับ: Takeshi Furusawa
เขียนบท: Takeshi Furusawa, Erika Tanaka
ประเภท: Horror

Ghost Train (2006) รางหลอน ซ่อนตาย - รีวิวหนังผี

Ghost Train (2006) รางหลอน ซ่อนตาย – รีวิวหนังผี

ถึงชื่อเสียงของผู้กำกับ Takeshi Furosawa จะไม่เป็นที่โด่งดัง รู้จักกันในวงการหนังบ้านเรา แต่เขาผู้นี้ก็เคยเป็นผู้ช่วยผู้กำกับของหนังเรื่อง Kairo (ผีอินเตอร์เน็ท) ที่เคยสร้างความหลอกหลอนให้กับผู้ชมชาวไทยมาแล้วในปี 2001 นี่ถือได้ว่าเป็นการกำกับหนังที่มุ่งสู่ตลาดอินเตอร์เรื่องแรกของ Takeshi Furosawa ก็ว่าได้

เรื่องย่อ: หลังเลิกเรียน นานะ (Erika Sawajiri) ได้พบเห็นอุบัติเหตุรถไฟระหว่างทางกลับบ้านโดยเธอไม่คิดเลยว่านั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ประหลาดชวนขนลุก หลังเหตุการณ์วันนั้นน้องสาวของนานะก็หายตัวอย่างลึกลับไปกับรถไฟขบวนปริศนา ส่วนคานาเอะ (Chinatsu Wakatsuki) เพื่อนร่วมชั้นของเธอก็ถูกวิญญาณตามล่าหลังเก็บสร้อยข้อมือเส้นหนึ่งได้จากบนรถไฟ ความน่ากลัวเกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน ทั้งรอยนิ้วมือสีแดง, วิญญาณสาวบนชานชาลาสถานีรถไฟ, คำทำนายของหญิงลึกลับ นานะจึงต้องร่วมมือกับอดีตคนขับรถไฟ (Shun Oguri) เพื่อสืบหาเรื่องราวที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังสร้อยข้อมือเส้นนั้น ไม่นานพวกเขาก็ค้นพบความจริงชวนสะพรึงเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เสียชีวิตในอุบัติเหตุรถไฟขบวนเดียวกันอันเป็นที่มาของความสยองทั้งหมด

Ghost Train เป็นภาพยนตร์สยองที่แฝงไปด้วย มุมกล้อง และภาพสวยๆ อยู่ในหลาย ๆ ตอน ซึ่งถือได้ว่าเป็นข้อดีข้อหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่กลับเต็มไปด้วยข้อเสีย อาทิ บทภาพยนตร์ที่อ่อนแอไร้น้ำหนักอย่างเหลือเชื่อ และการแสดงของ Erika Sawajiri สาวรุ่นน่ารัก ที่สร้างชื่อจากหนัง Action แฟนตาซีสุดโรแมนติกเรื่อง Shinobi แต่ผมว่ากับการแสดงบทซีเรียสๆ ในหนัง Horror อย่าง Ghost Train เธอยังไม่เข้าถึงบทแบบสุดขีดในหลายๆ ฉากที่ควรจะเป็นครับ นอกจากบท และฝีมือการแสดงแล้ว ผีในเรื่องก็ยังคงเป็นไปตามสูตรสำเร็จเดิมๆ ของหนังผีตลาดญี่ปุ่นทั่วไปอีกด้วย

สำหรับผมแล้ว Ghost Train ถือได้ว่าเป็นหนังผีตลาดๆ ในยุคปัจจุบันที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรเลยครับ ดูได้เพลินๆ จนถึงขั้นงีบได้โดยไม่รู้ตัว..เหอ..เหอ

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 2.00 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 3.3/5 (6 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: , , , ,

เด็กหอ Dorm (2006)
September 29th, 2012 by ฟิล์มสยอง
เด็กหอ Dorm (2006)

เด็กหอ Dorm (2006)

Dorm (Dekhor) 2006
เด็กหอ
นำแสดง: จินตหรา สุขพัฒน์, สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล, นิภาวรรณ ทวีพรสวรรค์, ชาลี ไตรรัตน์, ศิรชัช เจียรถาวร, ณฐพร เตมีรักษ์, จิรัฎร์ สุขเจริญ, ธนบดินทร์ สุขเสรีทรัพย์, ปกาสิต พันธุ รัตน์, อนุชิต ปนัดเศรณี, มณฑล อานุภาพมาศ
กำกับ: ทรงยศ สุขมากอนันต์
บทภาพยนตร์: ชลลดา เตียวสุวรรณ, วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์, ทรงยศ สุขมากอนันต์
ประเภท: Drama/Horror

เด็กหอ Dorm (2006)

เด็กหอ Dorm (2006)

“คุณเคยถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำมั้ย?
คุณรับมือกับความเหงาและการไม่มีเพื่อนยังไง?”
คำโปรยที่เป็นโครงสร้างหลักทั้งหมดของหนังเรื่อง “เด็กหอ” ผลงานของหนึ่งในผู้กำกับหนังเรื่อง “แฟนฉัน” ที่สร้างรายได้และความ ประทับใจของผู้ชมมาแล้ว “เด็กหอ” จึงเป็นเป็นผลงานที่ต้องพิสูจน์ของทรงยศ…

“ผมยังจำครั้งแรกที่จากบ้านไปไกลได้ดี…ผมอายุ 12 เรียน ม.1 ผมถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำ อย่างฉุกละหุก สาเหตุนะหรือครับ ก็เพื่อที่ผมจะได้พ้นไปจากบ้าน ไกลไปเสียจากพ่อ คุณอาจจะ สงสัยว่าทำไม แต่ผมไม่แปลกใจหรอก เพราะผมนี่แหละคือคนที่รู้ความลับของเขา การต้องย้าย โรงเรียนกลางเทอมเป็นเรื่องโหดร้ายจริงๆ ไหนจะห้องเรียนใหม่ ไหนจะเรือนนอนที่ไม่สนิทใจ เหมือนอยู่บ้าน…มีเรื่องเล่ามากมายในโรงเรียนประจำ คุณเชื่อเรื่องเล่าในโรงเรียนประจำมั้ย ครับ…” (เรื่องย่อบางส่วนจากเว็บไซต์ dekhor.com)

นั่นแหละครับ เป็นเรื่องย่อบางส่วนที่ผมคัดมา เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นมาจากจุดนั้นครับ การที่ ต้องไปอยู่ห่างไกลจากบ้าน อารมณ์ความรู้สึกที่ทำออกมา ทำได้ดีทีเดียวครับ เรียกได้ว่า ถ้าใคร เคยไปเรียนห่างไกลบ้านและต้องไปอยู่หอ อยู่โรงเรียนประจำนั้นจะต้องนึกถึงอารมณ์ตอนช่วง นั้นได้แน่นอน (ผมเองก็ไปเรียนต่างจังหวัด และเคยอยู่หอเช่นกัน) พล็อตเรื่องดำเนินไปอย่างรวด เร็ว บทบาทของต้น ชาตรี (น้องแน็ค ชาลี จาก “แฟนฉัน”) และวิเชียร (น้องไมเคิล ศิรชัช) นั้น คงจะทำให้ผู้ชมประทับใจได้ไม่ยากครับ เพราะเรื่องมีทั้งดราม่า ตลก ไปจนถึงพล็อตหนัง Horror ที่พยายามจะไม่นำผี ประเภทหน้าขาว ชุดคลุมยาว โผล่มาตามผนัง เพดาน สระน้ำ เลื้อยคลานอยู่ใต้เตียงมาเล่นในหนังเรื่องนี้ แต่กลับเล่นกับอารมณ์ของคนดูมากกว่า เรื่องสามารถ คาดเดาได้ตั้งแต่ช่วงกลางเรื่อง แต่ก็ไม่ทำให้หนังหมดสนุกในช่วงกลางถึงท้ายเรื่อง กลับสร้าง อารมณ์ในแบบดรามา เข้ามาแทน เทคนิกการเล่าเรื่องใกล้ตัวของทรงยศนั้นเป็นเรื่องที่เรียกได้ว่า “ถนัด” และสามารถดึงอารมณ์ร่วมของคนดูได้เป็นอย่างดีครับ

ใครเป็นแฟนหนังของผู้กำกับคนนี้อยู่แล้ว ดูได้ไม่ผิดหวังครับ เป็นหนึ่งในหนังที่พยายามฉีกแนว ความจำเจของหนัง Horror จำพวกผีทั่วไปได้ดี และนำดราม่ามาสร้างความประทับใจได้ไม่ น้อย ตอนนี้หนังกำลังเข้าโรงอยู่ครับ ใครสนใจใคร่ดู ก็อย่ารีรอครับ…

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 4.50 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 4.8/5 (4 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies D - F Tagged with: , , , ,

The Doll Master (2004)
September 29th, 2012 by ฟิล์มสยอง
The Doll Master (2004)

The Doll Master (2004)

The Doll Master (2004)
Inhyeongsa | คำสาป หุ่นมรณะ
นำแสดง: Kim Yu-mi (Hae-mi), Lim Eun-kyeong (Mi-na), Shim Hyeong-tak (Tae-seong), Ok Ji-young (Yeong-ha), Lim Hyeong-jun (Jeong-ki)
กำกับและเขียนบท: Jeong Yong-ki
ประเภท: Horror / Drama

 

The Doll Master (2004)

The Doll Master (2004)

เรื่องย่อ: หญิงชายแปลกหน้าห้าคนถูกเชิญมายังบ้านแสดงตุ๊กตาแห่งหนึ่ง ณ ใจกลางป่า โดยที่ทั้งหมดไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มีทั้งนักแต่งนิยาย ช่างภาพ นักเรียน นักประติมากรรม และนายแบบ ทว่าบ้านที่ถูกตกแต่งด้วยตุ๊กตา แต่งตัวสวยงามนั้น มีอะไรไม่ชอบมาพากลด้วยบรรยากาศ เจ้าของบ้าน ไปจนถึง หญิงสาววัยกลางคนที่นั่งรถเข็นตลอดเวลา ผู้เป็นคนปั้นตุ๊กตาในบ้านทั้งหมด ภายใต้ความสวยงามของตุ๊กตานั้น มีความลับอะไรซ่อนอยู่กันแน่ ความผูกพัน ความทรงจำ หรือความแค้น…

แค้นฝังหุ่นฉบับดราม่าเกาหลี…

พล๊อตเรื่องจำพวกตุ๊กตา ของเล่น ที่เราเคยมีความผูกพัน เล่นกับมันในตอนวัยเด็ก และทิ้งมันไป เมื่อเรารู้สึกเบื่อ หรือว่าได้ของเล่นใหม่มาแล้ว และเจ้าของเล่นหรือตุ๊กตาที่ว่า เกิดความผูกพันที่อยากจะอยู่กับเจ้าของไปตลอดนั้น มีการนำมาพูดถึงในบทภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่องครับ ทั้งหนังจำพวก Drama, Fantasy , Family ไปจนถึงหนัง Horror อย่างล่าสุดเมื่อปี 2006 หนังสัญชาติเอเซีย อย่าง Re-Cycle ยังมีการพูดถึง สิ่งของ หรือ สิ่งที่ถูกทอดทิ้งไปแล้วด้วยเช่นกัน ย้อนกลับลงไปอีกยังมีหนังจำพวกแค้นฝังหุ่นอย่าง Child’s Play หรือย้อนลงไปอีกก็มีหนังอย่าง Puppet Master ที่นำเอาของเล่น หุ่น หรือตุ๊กตาที่มีวิญญาณ (ทั้งรัก ทั้งแค้น) มาเล่าในบทภาพยนตร์

The Doll Master หรือ คำสาป หุ่นมรณะ เป็นหนังที่เล่นทั้งความสยองในแบบ Horror มีผสม Mystery พวกเวทมนตร์ คาถา บวกกับโทนหนังดราม่าครับ จะว่าไปหนังเกาหลีชอบเอาโทนหนังแบบดราม่า มาผสมกับเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อ จิต วิญญาณ อยู่หลาย ๆ เรื่อง The Doll Master ก็ทำแบบทำนองนั้นแหละครับ แต่ว่ามันค่อนข้างจะอ่อนแอในบทภาพยนตร์ที่นำมาผสมกันจนมั่วไม่ได้ที่ ไม่ได้รสชาดที่กลมกล่อม บางช่วงของหนังก็เปรี้ยวจี๊ด บางช่วงก็จืดซะ บางช่วงก็เค็มแหลม ไม่ได้ความพอดี หรือลงตัวเลย ทั้งๆ ที่ ถ้าหนังเรื่องนี้เน้นไปในทิศทางใด ทิศทางหนึ่งน่าจะดีไม่น้อยครับ เพราะอย่างที่เห็น ฉากตุ๊กตาติดฝาบ้าน เพดาน ห้องน้ำ ที่ทำออกมา ไอเดียดีนะครับ หลอนได้ที่เลย แต่กลับนำสิ่งดีๆ ตรงนี้มาใช้เพียงนิดเดียวเอง

หนังสยองเกาหลีที่ดูได้เพลินๆ อีกเรื่องครับ ใครเบื่อๆ ไปสอยมาดูได้ตามอัธยาศัย…

ปล…เรื่องนี้ ตุ๊กตาน่ารักครับ ทั้งตุ๊กตาจริงๆ และคนที่รับบทบาทเป็นตุ๊กตา ใครดูอาจจะรู้สึกรักข้าวของเก่าๆ ของท่านได้ครับ (ถ้าอินกับภาพยนตร์) แต่ผมรักตุ๊กตาตัวนั้นจังครับ (…น่ารักมาก^^)

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 2.50 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 3.5/5 (6 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies D - F Tagged with: , , , ,