The Letters of Death (2006) เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็น ส่งตาย
November 18th, 2012 by ฟิล์มสยอง
The Letters of Death (2006)  เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็น ส่งตาย

The Letters of Death (2006) เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็น ส่งตาย

The Letters of Death (2006)
เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็น ส่งตาย
นำแสดง : มหาสมุทร บุณยรักษ์, ชลลดา เมฆราตรี, กรรชัย กำเนิดพลอย, ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์, แอนดี้ เขมภิมุก, อโณมา ศรันย์ศิขริน
กำกับ : กพล ทองพลับ
ประเภท :Horror

 

The Letters of Death (2006)  เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็น ส่งตาย

The Letters of Death (2006) เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็น ส่งตาย

เรื่องย่อ: เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อชัยวัฒน์ เพื่อนร่วมรุ่นตายไปต่อหน้าต่อตาเสรี เหลือเพียงซีดีที่ชัยวัฒน์ ให้เป็นข้อมูล ในซีดีแผ่นนี้ มีแต่ภาพคนตาย ซึ่งทั้งหมดเป็นเพื่อนนักเรียนตอนอยู่ ป.6 ห้องเดียวกับเขาทั้งสิ้น แต่น่าแปลกใจคือ ผู้ตายได้รับ “จดหมายลูกโซ่ปริศนา” ทุกคน !!!

เสรีและนาตยาเริ่มสืบหาสาเหตุจากข้อมูลที่มีอยู่ และถ้าไม่สามารถแก้ปริศนาได้ภายในเวลาที่กำหนดในจดหมาย ความตายเท่านั้นที่เป็นคำตอบสุดท้าย ตอนนี้ นาตยา เพื่อนสาวร่วมรุ่นได้รับจดหมายแล้ว และเพื่อนที่เหลืออยู่ ทุกคนก็ได้รับจดหมายเช่นกัน เสรีได้บอกทุกคนเรื่องความตายจากจดหมายปริศนาที่ทุกคนได้รับ แต่ไม่ใครเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง น่าจะเป็นเหตุบังเอิญมากกว่า จนกระทั่งพวกเขาทุกคนได้เผชิญหน้ากับความตายไปทีละคนอย่างไม่มีทางเลือก

การค้นหาคำตอบเริ่มชัดเจน เมื่อพฤกษ์ตั้งข้อสันนิษฐานว่า จดหมายปริศนาน่าจะเกี่ยวข้องกับ “ไอ้แว่น” เพื่อนคนหนึ่งสมัย ป.6 ที่มักถูกเพื่อนๆ แกล้งเสมอ ขณะที่ปมปริศนากำลังจะถูกคลี่คลาย เวลาของพฤกษ์ก็หมดลง เช่นเดียวกับเพื่อนคนอื่นๆ เหลือแต่เสรีกับนาตยา สองคนสุดท้ายในรุ่น ที่จะต้องแก้ปมปริศนาต่อไป พวกเขาจะสามารถหาคำตอบได้ทันหรือไม่ เพราะเวลาของพวกเขาทั้งสองกำลังจะหมดลงเหมือนกับเพื่อนของเขาอีกในไม่ช้า…….

หนังไทยที่โปรโมตมากมาย…
หนังจาก “เจ้าพ่อผีเมืองไทย ดีเจ ป๋อง กพล ทองพลับ…ดีเจ ป๋อง เดอะ ช็อก…ผู้รู้จริงเรื่องผี ผู้คร่ำหวอดในเรื่องภูตผีวิญญาณมานานร่วม 20 ปี…” และอีกมากมายคำโปรโมตที่ หรืออาจจะเรียกว่า บุคคลที่หากินกับผี ก็คงจะว่าได้ (แซวเล่นนะครับ ^^ หนังจะคุณภาพสนุกสยองดั่งคำยกย่องหรือเปล่า เพื่อนๆ คงต้องไปพิสูจน์เองนะ)…

นอกจากทางค่ายหนัง เอ จี เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จะใช้ชื่อเสียงของผู้กำกับกระพือโปรโมตหนังเรื่องนี้แล้ว ทาง AG ยังใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่เล่นกับเรื่องราวความเชื่อของคนไทย กับ “จดหมายลูกโช่” ที่เป็น theme หลักของหนังเรื่องนี้ จนกระทั่งมีคนไม่พอใจถึงกับว่ากันไปถึงเรื่องราวของกฏหมาย ซึ่งทางบริษัทฯ เองก็ออกมาขอโทษเป็นที่เรียบร้อย (หลังจากสร้างกระแสได้อย่างล้นหลาม…จนเรียกว่าคุ้มค่า และยอมโดนด่า) สำหรับใครที่ไม่ได้ติดตามข่าวสาร ผมก็ขอนำข้อความข่าวจากเว็บไซต์ Manager Online มาลงให้อ่านกันบางส่วนครับ

“กลายเป็นปัญหาขึ้นมาอีกจนได้สำหรับวิธีการโปรโมตหนังในบ้านเรา ล่าสุดเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่อง “เดอะ เลตเตอร์ เขียนเป็นส่งตาย” ของบริษัทเอจี เอนเตอร์เทนเม้นท์ กำกับโดย “ป๋อง กพล ทองพลับ” ที่ได้มีนักศึกษาส่วนหนึ่งเข้าร้องเรียนไปยังสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคภายหลังได้รับจดหมายลูกโซ่มีเนื้อหาใจความในลักษณะที่ว่าจดหมายฉบับที่ว่าเขียนมาจากเพื่อนคนหนึ่งบอกว่าตนคงจะตายไปแล้วที่จดหมายฉบับนี้มาถึงมือผู้รับ และคนที่ได้รับจดหมายนี้จะต้องเขียนจดหมายส่งต่อไปอีกจำนวน 29 ฉบับ มิเช่นนั้นก็จะต้องจบชีวิตเช่นเดียวกับตน พร้อมกับลงท้ายเป็นรูปลายเส้นภาพแขวนคอและข้อความว่าแล้วเจอกันวันที่ 23 พ.ย….

ทั้งนี้หลังจากการได้รับการร้องเรียน ในวันนี้(16)ทางผู้บริหารค่ายเอจี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ โดยนาย “สมศักดิ์ ทรงธรรมากุล” ประธานบริหาร พร้อมด้วยทนายความส่วนตัว และ “ป๋อง กพล ทองพลับ” ในฐานะของผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวจึงได้เข้าไปชี้แจงต่อนายนพปฎล เมฆเมฆา ผู้อำนวยการสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคเป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วงสายที่ผ่านมา โดยบอกว่าจดหมายที่ว่านั้นถูกทำออกมาเพื่อเป็นการโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง “เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็นส่งตาย” จำนวนทั้งสิ้น 2,000 ฉบับด้วยกัน เน้นไปที่กลุ่มนักเรียน – นักศึกษา และมิได้มีเจตนาที่จะสร้างความตกใจให้กับผู้รับแต่อย่างใด เนื่องจากจะมีการส่งโปสการ์ดบอกรายละเอียดแนบไปกับจดหมายที่ว่านี้ด้วยทว่าได้เกิดการผิดพลาดต่อการจัดส่งจึงทำให้โปสการ์ดไม่ได้ถูกส่งไปพร้อมกับจดหมายพร้อมกับกล่าวขอโทษในความผิดพลาดดังกล่าว…”

ใครอยากอ่านเต็ม ๆ ก็เข้าไปได้ที่ http://www.manager.co.th/entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9490000141608 ครับ เอาเป็นว่า เพื่อนก็ใช้วิจารณญาณตัวเองดูนะครับ ว่าการกระทำแบบนี้สมควรหรือเปล่า

หนังจำพวกเอะอะก็ตาย…เอะอะก็จะฆ่า
เนื้อเรื่องชี้ไปที่เด็กนักเรียนที่เข้ามาใหม่กลางเทอมคนหนึ่ง โดยถูกแกล้งจากกลุ่มเพื่อนนักเรียนด้วยกัน แกล้งซะจนทำให้เด็กนักเรียนใหม่คนนั้นได้รับอุบัติเหตุตกบันได ชนิดที่เรียกว่า สาหัสจนไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อีกต่อไป เด็กนักเรียนใหม่คนนั้นก็มีแต่ความแค้น เกลียดชัง ประกอบกับเด็กน้อยคนนั้นชอบเล่นเกมแฮงค์แมนเป็นชีวิตจิตใจ สุดท้ายจึงจบชีวิตลงพร้อมกับฝังความแค้นลงในจดหมายลูกโช่ พร้อมทิ้งปริศนาให้เพื่อนๆ ในห้อง ป.6 ที่เคยแกล้งเขาได้แก้ไขปริศนานั้นดู

ดูหนังเรื่องนี้จบแล้ว ส่วนตัวผมก็มีเรื่องขำๆ เล็กน้อยมาเล่าให้ฟัง เรียกน้ำย่อย เผื่อผู้ที่ไปชมจะร่วมสังเกตไปกับผมด้วย เริ่มต้นที่…หน้าตาเจ้าเด็กนักเรียนใหม่ที่ตอนสมัยเรียนอยู่ ป.6 ก็น่ารักดีนะครับ แต่พอแกประสบอุบัติเหตุ หรือประสบเคราะห์จากการกลั่นแกล้งของเพื่อน ๆ ร่วมชั้น และโตขึ้นมาชนิดที่เรียกว่า พกความคาดแค้นมาเต็มกระเป๋านั้น หน้าตาแกดูไม่ได้เลยครับ ดูไม่ได้อย่างมากมาก แตกต่างจากเพื่อนร่วมชั้นที่โตขึ้นมานั้น หน้าตา หล่อ สวย เป็นนายแบบ นางแบบสบายๆ ผมว่าการสร้างบุคลิกตัวละครได้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงซะขนาดนั้นเนี่ย มันออกจะดูจงใจให้เกิดความแตกต่าง ระหว่าง คน กับ ผี(ที่มีแต่ความแค้น) ช่างไม่สมจริง และน่าขำ(เล็กน้อย) อย่างที่สุด ผมว่าการสร้างหนังจำพวกนี้ไม่จำเป็นต้องสร้างความแตกต่างในเรื่องของหน้าตาของตัวละครในลักษณะนี้ก็ได้ครับ

พระเอก จีน มหาสมุทร (จากภาพยนตร์เรื่อง หมานคร) ของพี่ป๋อง ที่ผมเห็นแกให้สัมภาษณ์ในงานเปิดตัวหนังว่า ต้องพระเอกคนนี้แหละ มีลักษณะในแบบ anti – hero คือลักษณะที่ว่าไม่น่าเป็นพระเอก แต่ก็เป็นพระเอกได้ ผมว่าพระเอกคนนี้มีความสามารถในระดับนึงครับ แต่แกต้องพัฒนาฟิลลิ่งในการเล่นภาพยนตร์จำพวกนี้อีกเยอะครับ เพราะเสียงแก ชวนง่วงนอน(มาก) นิ่ง ราบ เรื่อย เอื่อย ขนาดจุดสุดยอดของเรื่องที่พระเอกจีน ต้องตะโกนให้ นางเอกเก๋ เขียนจดหมายลูกโซ่ต่อนั้น มันยังดูไร้อารมณ์เหลือเกิน…

อย่างที่บอกไปครับ หนังเรื่องนี้เข้าข่าย หนังเอะอะก็ฆ่า เอะอะ เอ็งก็ต้องตายครับ…ซึ่งน้ำหนักในการประพันธ์หนังในเดอะ เล็ตเตอร์ให้เกิดการฆ่าล้างแค้นยกห้องแบบนี้ มันเบาหวิวมากครับ ไม่รู้แค้นอะไรนักหนา จะฆ่ามันล้างโคตร ทำนองนั้นเลย มันเสียดายนักแสดงที่อุตสาห์ตั้งใจมาโปรโมตหนัง มาร่วมแสดงครับ ออกมาฉาก สองฉาก ก็โดนฆ่าซะสยดสยอง หรือพี่ป๋อง ต้องการจะขายหนังในลักษณะ Gore ก็ไม่อาจทราบได้

กลิ่นหนังฝรั่งที่พี่เค้าอาจได้รับอิทธิพลมาก็คุกรุ่นอยู่หลายเรื่อง หนังจำพวกค่อยๆ ตายไปทีละคน ทีลคน ผมว่าเพื่อนๆ คงจะนึกออก ยิ่งหากได้ดูผลงานของพี่ป๋องในเรื่องนี้แล้ว คงจะร้อง ‘อ๋อ’ กันได้ไม่ยาก

ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของ “เจ้าพ่อผีเมืองไทย” ผมก็ขอเอาใจช่วยให้พี่ “เจ้าพ่อผี” สร้างผลงานคุณภาพออกมาอีกเยอะๆ นะครับ

..ใครใคร่อยากดูหนังโรง ก็เชิญครับ
..ใครใคร่อยากรอดูหนังแผ่น (ก็แนะนำนะ) ^^

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 2.00 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 3.4/5 (11 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies J - L Tagged with: , , , , , ,

เด็กหอ Dorm (2006)
September 29th, 2012 by ฟิล์มสยอง
เด็กหอ Dorm (2006)

เด็กหอ Dorm (2006)

Dorm (Dekhor) 2006
เด็กหอ
นำแสดง: จินตหรา สุขพัฒน์, สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล, นิภาวรรณ ทวีพรสวรรค์, ชาลี ไตรรัตน์, ศิรชัช เจียรถาวร, ณฐพร เตมีรักษ์, จิรัฎร์ สุขเจริญ, ธนบดินทร์ สุขเสรีทรัพย์, ปกาสิต พันธุ รัตน์, อนุชิต ปนัดเศรณี, มณฑล อานุภาพมาศ
กำกับ: ทรงยศ สุขมากอนันต์
บทภาพยนตร์: ชลลดา เตียวสุวรรณ, วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์, ทรงยศ สุขมากอนันต์
ประเภท: Drama/Horror

เด็กหอ Dorm (2006)

เด็กหอ Dorm (2006)

“คุณเคยถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำมั้ย?
คุณรับมือกับความเหงาและการไม่มีเพื่อนยังไง?”
คำโปรยที่เป็นโครงสร้างหลักทั้งหมดของหนังเรื่อง “เด็กหอ” ผลงานของหนึ่งในผู้กำกับหนังเรื่อง “แฟนฉัน” ที่สร้างรายได้และความ ประทับใจของผู้ชมมาแล้ว “เด็กหอ” จึงเป็นเป็นผลงานที่ต้องพิสูจน์ของทรงยศ…

“ผมยังจำครั้งแรกที่จากบ้านไปไกลได้ดี…ผมอายุ 12 เรียน ม.1 ผมถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำ อย่างฉุกละหุก สาเหตุนะหรือครับ ก็เพื่อที่ผมจะได้พ้นไปจากบ้าน ไกลไปเสียจากพ่อ คุณอาจจะ สงสัยว่าทำไม แต่ผมไม่แปลกใจหรอก เพราะผมนี่แหละคือคนที่รู้ความลับของเขา การต้องย้าย โรงเรียนกลางเทอมเป็นเรื่องโหดร้ายจริงๆ ไหนจะห้องเรียนใหม่ ไหนจะเรือนนอนที่ไม่สนิทใจ เหมือนอยู่บ้าน…มีเรื่องเล่ามากมายในโรงเรียนประจำ คุณเชื่อเรื่องเล่าในโรงเรียนประจำมั้ย ครับ…” (เรื่องย่อบางส่วนจากเว็บไซต์ dekhor.com)

นั่นแหละครับ เป็นเรื่องย่อบางส่วนที่ผมคัดมา เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นมาจากจุดนั้นครับ การที่ ต้องไปอยู่ห่างไกลจากบ้าน อารมณ์ความรู้สึกที่ทำออกมา ทำได้ดีทีเดียวครับ เรียกได้ว่า ถ้าใคร เคยไปเรียนห่างไกลบ้านและต้องไปอยู่หอ อยู่โรงเรียนประจำนั้นจะต้องนึกถึงอารมณ์ตอนช่วง นั้นได้แน่นอน (ผมเองก็ไปเรียนต่างจังหวัด และเคยอยู่หอเช่นกัน) พล็อตเรื่องดำเนินไปอย่างรวด เร็ว บทบาทของต้น ชาตรี (น้องแน็ค ชาลี จาก “แฟนฉัน”) และวิเชียร (น้องไมเคิล ศิรชัช) นั้น คงจะทำให้ผู้ชมประทับใจได้ไม่ยากครับ เพราะเรื่องมีทั้งดราม่า ตลก ไปจนถึงพล็อตหนัง Horror ที่พยายามจะไม่นำผี ประเภทหน้าขาว ชุดคลุมยาว โผล่มาตามผนัง เพดาน สระน้ำ เลื้อยคลานอยู่ใต้เตียงมาเล่นในหนังเรื่องนี้ แต่กลับเล่นกับอารมณ์ของคนดูมากกว่า เรื่องสามารถ คาดเดาได้ตั้งแต่ช่วงกลางเรื่อง แต่ก็ไม่ทำให้หนังหมดสนุกในช่วงกลางถึงท้ายเรื่อง กลับสร้าง อารมณ์ในแบบดรามา เข้ามาแทน เทคนิกการเล่าเรื่องใกล้ตัวของทรงยศนั้นเป็นเรื่องที่เรียกได้ว่า “ถนัด” และสามารถดึงอารมณ์ร่วมของคนดูได้เป็นอย่างดีครับ

ใครเป็นแฟนหนังของผู้กำกับคนนี้อยู่แล้ว ดูได้ไม่ผิดหวังครับ เป็นหนึ่งในหนังที่พยายามฉีกแนว ความจำเจของหนัง Horror จำพวกผีทั่วไปได้ดี และนำดราม่ามาสร้างความประทับใจได้ไม่ น้อย ตอนนี้หนังกำลังเข้าโรงอยู่ครับ ใครสนใจใคร่ดู ก็อย่ารีรอครับ…

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 4.50 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 4.8/5 (4 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies D - F Tagged with: , , , ,

รีวิวหนังไทย แฝด หรือ Alone (2007)
September 10th, 2012 by ฟิล์มสยอง
รีวิวหนังไทย แฝด หรือ Alone (2007)

รีวิวหนังไทย แฝด หรือ Alone (2007)

Alone (แฝด) (2007)
นำแสดง: มาช่า วัฒนพานิช (พิม/พลอย), วิทยา สวุไกรไพศาล (วี), รัชนู บุญชูดวง (แม่ของพิมและพลอย), หทัยรัตน์ อีเกอรีฟ (พิม วัยรุ่น), ฤทัยรัตน์ อีเกอรีฟ (พลอย วัยรุ่น)
กำกับและเขียนบท: บรรจง ปิสัญธนะกูล และภาคภูมิ วงศ์ภูมิ
ประเภท: Horror

รีวิวหนังไทย แฝด หรือ Alone (2007)

รีวิวหนังไทย แฝด หรือ Alone (2007)

หนังผีไทยที่หลายคนจับตามอง เมื่อโปรยคำโฆษณาจะใหญ่โต ว่าเป็นผลงานของสองผู้กำกับ บรรจง และภาคภูมิ สองผู้กำกับที่ฝากสุดยอดผลงานเรื่อง ชัตเตอร์ เอาไว้ เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว…ผมว่า สองผู้กำกับ คงกดดันลึก ๆ น่าดู ว่า เรื่องแฝดจะสร้างปรากฏการณ์ได้อย่าง ชัตเตอร์ หรือไม่…

แฝด มาพร้อมชื่อหนังที่ดูเก๋ ทีเดียว ชื่อไทย : แฝด ชื่อฝรั่ง: Alone ขัดแย้งในรูปแบบที่ตั้งใจจะสื่อสารอะไรกับคนดูตั้งแต่ ‘ชื่อหนัง’ เนื้อเรื่องของแฝดนั้น กล่าวถึง สาวพิม (มาช่า วัฒนพานิช) ผู้ประสบความสำเร็จทั้งชีวิตการงาน และความรักหวานฉ่ำกับ วี (วิทยา วสุไกรไพศาล) แฟนหนุ่มสุด perfect ที่เพื่อนๆ เห็นแล้วยังอิจฉา กำลังฉลองวันเกิด ณ ประเทศเกาหลี (เอ…เหมือนผู้กำกับกำลังจะบอกว่า หนังเรื่องนี้ได้รับอิทธิพลจากหนังเกาหลี มาชนิดที่เรียกว่า ‘เพียบ’ ว่างั้นกันเลย) เพื่อนสาวเธอคนนึงนั่งดูดวงให้พิม แล้วบอกว่า บางสิ่งที่สูญเสียกำลังจะกลับมา…ทิ้งปมประเด็นไว้เปิดศึกความน่ากลัวต่อที่ประเทศไทย

เธอมีเหตุต้องกลับมาไทย เพราะคุณแม่ (รัชนู บุญชูดวง) ต้องเข้าโรงพยาบาล พิม เธอไม่อยากกลับหรอก เพราะเธอไม่อยากเผชิญเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นกับฝาแฝด ‘พลอย’ ที่ต้องเสียชีวิต เมื่อตอนที่ผ่าตัดแยกร่าง แต่ด้วยเหตุเพราะคุณแม่ (หรือต้องการจะจำกัด ‘ผู้กุมความลับ’ เพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ให้หมดไป จึงถือโอกาสเดินทางกลับไปจัดการซะ)

เรื่องราวความน่ากลัวที่คุณจะพบในหนัง ก็ต่อไปจากนี้แหละครับ บรรจงปลดปล่อยออกมาในช่วงต้นของหนังแบบพะเรอเกวียน ในชนิดที่ว่า ไร้เหตุผลของภาพน่ากลัวนั้นอย่างสิ้นเชิง อาทิ พิม/พลอยถูกแขวนห้อยอยู่กับพัดลม ซึ่งเธอก็ไม่ได้เสียชีวิตแบบนั้น หรือภาพตาโบ๋ เลือดชุ่มโชก เอ…เธอโดนควักลูกตาเหรอเนี่ย

พอมาช่วงกลางถึงช่วงท้ายของหนัง ผีเริ่มจางหาย กลับกลายเป็นเรื่องของความเป็นจริง ผู้กำกับเล่นกับ ‘จิตวิทยา’ ต่อกันอย่างสนุกสนาน

ผมว่า “ผี” ที่ผู้กำกับต้องการสื่อ เป็นเพียงภาพหลอนที่ ‘เธอ’ รู้สึกไปเอง มากกว่าที่จะเป็นผีจริงๆ ครับ จริงๆ ผมอยากให้หนังเรื่องนี้ทำออกไปในแนวจิตวิทยา หลอนในแบบ Suspense Horror/ Thriller แบบสุดขั้วไปเลย จะดีกว่าเขียนบทให้หนังเป็นแบบ Horror แบบ ‘ผี’ ในช่วงกลางถึงช่วงท้ายของหนังที่หลายคนบอกว่า น่าเบื่อ และยืดยาดในบางตอน นั้น ผมกลับมองว่า เป็นส่วนที่สนุกสนานมากกว่าช่วงที่ผีขนทัพออกรบอีก

‘สัญลักษณ์’ ในเรื่องนี้ให้ความสำคัญมากครับ ทิ้งแว่นตา หมา กระจก สัญลักษณ์บทหาดทราย น่าสนใจและทำการบ้านมาดีมากทีเดียวเลย ส่วนในเรื่อง Production แสง มุมกล้อง บรรยากาศ ทำได้ดีในมาตรฐาน ครับ สิ่งที่น่าชื่นชมมากที่สุดคือ ฝีมือการแสดงของแฝดอีเกอรีฟ ทั้ง หทัยรัตน์ และ ฤทัยรัตน์ แฝดที่เล่นเป็น พิม กับพลอยตอนวัยรุ่น และมาช่าครับ ฝีมือล้ำสมกับผู้คร่ำหวอดในวงการบันเทิงมานานจริง ๆ นอกนั้น ‘แฝด’ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจจนต้องชื่นชมครับ

** ดูแล้วคงนึกถึงทั้งหนังเกาหลี และหนังฝรั่งหลายๆ เรื่องที่ แฝด ได้รับอิทธิพลมานะครับ แฝดสมชื่อครับ แฝดกับหนังที่ได้รับอิทธิพลมาจริงๆ ครับ ดูแล้วมันคล้าย (เหมือน) กันจริงๆ เลย
** หนังไม่ได้น่ากลัว น่าติดตามมากมายอย่างที่หลายคนคาดหวังครับ
** คงไม่ต้องเปรียบเทียบกับผลงานชั้นเซียนอย่าง ชัตเตอร์ ครับ ทิ้งกันแบบไม่เห็นฝุ่น
** หนังไทยครับ ไปอุดหนุนกันก็แล้วกัน

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.00 / 6.00

VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 3.4/5 (8 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies A - C Tagged with: , , , , , ,